กกต.ยันกลางศาล “สุรเดช” เป็นสมาชิก ปชป.ก่อนสมัคร ส.ว.

ผอ.จัดทำระบบพรรคการเมือง ยัน “สุรเดช” ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนสมัคร ส.ว.แน่นอน แต่ยอมรับใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ในปี 2545 เผยภายหลังเกิดเรื่อง ปชป.ขอแก้ไขข้อมูลย้อนหลังแต่ทำไม่ได้ เพราะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนพรรคการเมือง

วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นำโดยนายชัช ชลวร ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่อไต่สวนกรณีที่ประธานวุฒิขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 กรณีสมาชิกภาพของนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรีว่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 119 (4) และมาตรา 115 (6) จากกรณีที่นายสุรเดช ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถึง 5 ปีตามที่กฎหมายกำหนด โดยเป็นการนัดไต่สวนพยานในส่วนผู้ร้องจำนวน 5 ปาก แต่ฝ่ายผู้ร้องได้ร้องขอต่อศาลให้ตัดพยานออกจำนวน 3 ปาก ทำให้เหลือพยานที่ต้องไต่สวนเพียง 2 ปากเท่านั้น ประกอบด้วย พ.ต.ท.สุกิจ สกุลอารีย์มิตร รองผอ.สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 และนางสุนทรี ไพรหิรัญ ผอ.ฝ่ายวิจัย และพัฒนาระบบบริหารฐานข้อมูลพรรคการเมือง (ฝวพ.)

โดย พ.ต.ท.สุกิจ ได้ยืนยันคำเบิกความตามพยานเอกสารที่ได้นำส่งให้ศาลไปแล้ว ส่วนนางสุนทรีได้ชี้แจงเพิ่มเติมและอธิบายในประเด็นการจัดปรับปรุงฐานข้อมูลในระบบใหม่ว่า ทาง กกต.ได้ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ในปี 2550 โดยจัดทำข้อมูลเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันการเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน และให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน ง่ายต่อการตรวจสอบ แต่การดำเนินการก็ใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ในปี 2545 โดยได้แจ้งให้กับ ทางพรรคการเมืองให้ส่งรายชื่อในการสมัครสมาชิกพรรคให้กับทาง กกต.ทราบตามระเบียบที่ กกต.จัดทำใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อมูลความผิดพลาดระหว่างพรรคการเมืองกับ กกต.ที่มักจะเป็นปัญหาที่ไม่ตรงกัน

นางสุนทรกล่าวอีกว่า การจัดทำให้ฐานข้อมูลใหม่ในปี 50 นี้ จะเป็นข้อมูลที่มาจากพรรคการเมืองจัดนำส่งมาให้ เบื้องต้นพบว่ามีรายชื่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่สมบูรณ์จำนวน 737,775 คนที่ไม่สามารถนำลงในฐานข้อมูลได้ แต่จะรวมถึงตัวผู้ถูกร้องหรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะเราได้ให้พรรคเป็นผู้ยืนยันสถานะภาพ จนถึงขณะนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้ตอบหรือแก้ไขข้อมูลสมาชิกพรรคแต่อย่างใด จึงทำให้ในฐานข้อมูลเดิม มีชื่อของนายสุรเดชเป็นสมาชิกพรรคอยู่

นางสุนทรีกล่าวต่อว่า ภายหลังจากการเกินกรณีของนายสุรเดชทาง กกต.ได้รับหนังสือจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอแก้ไขสมาชิกพรรคแต่ กกต.ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เพราะเนื่องการจัดทำฐานข้อมูลระบบใหม่นี้ พรรคการเมืองใดจะทำการแก้ไขข้อมูลสมาชิกพรรคต้องทำหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการแก้ไข และการดำเนินการในระบบนี้จะเป็นการป้องกันไม่ให้มีการแก้ไขข้อมูลย้อนหลังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีนี้นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ซักถามนางสุนทรี ในประเด็น สมาชิกพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สมบูรณ์ถูกต้อง 7 แสนกว่าคนนั้นเกินกว่า 20% ของสมาชิกพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด กกต.ได้ดำเนินการอย่างไร

นางสุนทรีกล่าวว่า เราไม่สามารถนำลงฐานข้อมูลได้ เนื่องจากว่าได้ตรวจสอบจากทะเบียนราษฎรพบว่า ไม่มีรายชื่ออยู่ บางคนก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว

หลังจากการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว นายจรูญ อินทจาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า วันนี้ได้เบิกความทางฝ่ายผู้ร้องเสร็จสิ้นแล้ว และนัดฝ่ายผู้ถูกร้องมาไต่สวนพยานจำนวน 10 ปาก ในวันที่ 14 ม.ค.53 ในเวลา 10.00 น.