ตุลาการศาล รธน.แจงความเห็นส่วนตัวเชื่อ รบ.ไม่มีสิทธิ์ยกเลิก MOU เพราะไม่มีความขัดแย้งข้อ กม.ต้องให้ตีความ เผยศาลไม่ใช่ที่ปรึกษาตีความ กม.พร่ำเพรื่อ ด้านมติศาล รธน.เห็นชอบร่าง กม.ประชามติ ระบุไม่ขัด รธน.
วันนี้ (11 พ.ย.) นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณี ครม.มีมติให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา เรื่องพื้นที่ทับซ้อนบริเวณไหล่ทวีปอ่าวไทยว่า ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ เพราะปกติการทำร่างสัญญาเพื่อประโยชน์ใดๆ จะต้องมีการตกลงเงื่อนไขกันว่าถ้าอีกฝ่ายทำผิดเงื่อนไขที่ตกลงกัน อีกฝ่ายจึงจะยกเลิกได้ ดังนั้น การที่รัฐบาลดำเนินการเหมือนเป็นการยกเลิกฝ่ายเดียว
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหนังสือบันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะถือเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่จะเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ และจะให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาดหรือไม่นั้น นายวสันต์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่มีความขัดแย้งในข้อกฎหมาย จึงไม่น่าเป็นเหตุที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้ เมื่อถามว่า จะขอหารือได้หรือไม่ นายวสันต์กล่าวว่า เราไม่ใช่ที่ปรึกษาของใคร คงไม่รับตีความให้ใครพร่ำเพรือ การตีความต้องมีขั้นตอน
ด้าน นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมคณะตุลาการมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ... ตราขึ้น โดยเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและไม่มีข้อความที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามที่ประธานรัฐสภาได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 โดยคณะตุลาการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำร้อง เอกสารประกอบคำร้อง คำชี้แจงของผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และตุลาการได้แถลงด้วยวาจาและลงมติว่า หลังจากนี้ศาลจะส่งให้ประธานรัฐสภาดำเนินการตามกระบวนการต่อไป