xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” จี้ “แม้ว” เลิกป่วน ซัด พท.อย่าโยงคดี “ศิวรักษ์” มั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“เทพไท” ร่ายยาว จี้ “นช.แม้ว” สั่งเสื้อแดงหยุดป่วนชาติ หนุน “นายกฯ” พูด อย่านำประเด็น “ศิวรักษ์” ไปขยายต่อ งงผู้ต้องโทษคดีจารกรรมไม่โดนเนรเทศพ้นเขมร แต่กลับถูก “ฮุนเซน” ให้ทำงานต่อ ซ้ำเรียก “อา-หลาน” เชื่อคนไทยคิดได้ ฉะ “เพื่อไทย” อย่ามั่วโยง “กษิต” สั่ง “คำรบ” ฉกตารางบิน แล้วจับแพะชนแกะให้ “มาร์ค” ขอโทษ ย้ำ “จิ๋ว-แม้ว” ตัวการ

วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ประกาศจะชุมนุมในต้นปี 2553 ว่า นับวันคนเหล่านี้จะเหิมเกริมหลงตัวเอง สร้างข่าวบิดเบือน จุดกระแสความวุ่นวายต่อสังคมโดยไม่มีเหตุผล ที่ใช้คนจำนวนแค่ 50-60 คนไปต่อต้าน ขัดขวาง ขับไล่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่ลงพื้นที่เพื่อไปพัฒนาและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้คนส่วนใหญ่เสียผลประโยชน์ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวที่เลยเถิดคุกคามสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นรวมถึงสื่อมวลชนที่ไปทำหน้าที่ภาคสนาม เช่น ที่คนรักเชียงใหม่ 51 แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวซ้ำซาก ทำให้เสียชื่อของคนส่วนใหญ่ทั้งจังหวัด เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งคนเสื้อแดงไม่เคยใช้สติแยกแยะว่าอะไรควรไม่ควร เพียงแต่หวังผลให้เกิดความวุ่นวายในสังคมจนเป็นที่พอใจของนายใหญ่ก็พอ จึงอยากถามคนเหล่านี้ว่า ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้อย่างไร เมื่อบรรยากาศทางการเมืองยังเป็นเช่นนี้อยู่ และก็ขอเรียกร้องไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ตัวการใหญ่ของคนเสื้อแดงว่า ขอให้ส่งสัญญาณให้ลิ่วล้อเหล่านี้ หยุดความเคลื่อนไหว ไม่ใช่มัวแต่เปิดสงครามสื่อผ่านทวิตเตอร์รายวันให้เกิดสงครามกลางเมือง เหมือนกับแกนนำ 3 เกลอหัวขวดที่ประกาศจองล้างจองผลาญรัฐบาลนี้ไว้ว่าจะล้มให้ได้ในต้นปี 53

ส่วนกรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยนั้น ตนอยากให้ทุกฝ่ายสนับสนุนแนวความคิดของนายกฯ ว่าเรื่องนี้ไม่ควรขยายประเด็นสืบความยาวสาวความยืดอีกต่อไป โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย อย่าฉวยโอกาสใช้เรื่องนี้ขยายประเด็นทางการเมืองอีกต่อไป เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและบรรดาลิ่วล้อของนายใหญ่ได้สร้างภาพจนกลายเป็นประเด็นในหน้าสื่อได้ตามแผนที่ต้องการและน่าจะเพียงพอตามเป้าหมายที่นายใหญ่วางไว้แล้ว สำหรับตัวนายศิวรักษ์เอง ทุกคนก็เข้าใจว่าไม่ได้เป็นตัวการของการจัดฉากในละครเรื่องนี้ แต่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่ถูกคนบางกลุ่มใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อหวังประโยชน์โดยที่นายศิวรักษ์ไม่รู้ตัว เพราะภาพที่ปรากฏออกมาหลังการถูกปลดปล่อยจากคุก ตนไม่เคยเห็นผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาจารกรรมข้อมูลความลับที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติใด ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงสูงสุดที่ออกจากคุกแล้วกลับมีรถเบนซ์เอสคลาส ที่รัฐบาลกัมพูชาจัดให้ไปรับถึงหน้าคุกเปรยซอร์

หนำซ้ำ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังเปิดคฤหาสน์ส่วนตัวต้อนรับรับรองด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีการพูดคุยลูบหน้าลูบหลังอย่างสนิทสนมเป็นกันเอง ถึงขนาดเรียกแทนตัวเองว่าอา และเรียกนายศิวรักษ์ว่าหลานทุกคำ สุดท้ายยังมีไมตรีจิตสั่งลาว่า ยังอนุญาตให้กลับมาทำงานในประเทศกัมพูชาได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ที่ไม่เคยพบเคยเห็น ก็ได้พบได้เห็น ว่าจะมีประเทศใดในโลก ที่ปฏิบัติต่อนักโทษหรือผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาจารกรรมข้อมูลความลับที่ส่งผล กระทบต่อความมั่นคงของชาตินั้นๆ เช่นนี้ เพราะผู้ถูกกล่าวหาในคดีจารกรรมความลับของรัฐบาลต่างๆ มักจะถูกรัฐบาลนั้นๆ เนรเทศหรือขับไล่ออกนอกประเทศโดยเร็วที่สุด และยังถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเดินทางเข้าประเทศนั้นๆอีกต่อไป แต่กรณีของนายศิวรักษ์กลับสวนทางกับนานาอารยะประเทศที่ได้ปฏิบัติกัน คนไทยน่าจะคิดได้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

ส่วนการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามออกมาปฏิเสธแก้ต่างให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการจัดฉากละครเรื่องนี้ เพราะไม่สามารถที่จะสั่งให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชาให้โทรไปหานายศิวรักษ์ได้ โดยพยายามโยงให้เห็นว่าคนที่สั่งการนายคำรบ คือ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้บังคับบัญชา และพาดพิงมายัง นายกรัฐมนตรีด้วยว่าน่าจะรับรู้ด้วยนั้น ตนขอชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยกำลังปฏิเสธเรื่องนี้เข้าลักษณะขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะละครเรื่องนี้มีการจัดฉากมาตามลำดับเพื่อให้สังคมไทยและโลกเห็นว่า รัฐบาลทำอะไรไม่ได้แต่กำลังมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย และถึงวันนนี้พระเอกคนนั้นก็ได้ตกม้าตายไปแล้ว เพราะผลโพลสำรวจความเห็นของคนไทยส่วนใหญ่ในชาติกว่า 60% เห็นตรงกันว่า กรณีนี้เป็นการจัดฉากเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองของคนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน

นายเทพไทกล่าวอีกว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลและนายกฯแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษและเยียวยาครอบครัวนายศิวรักษ์นั้น ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะกินยาผิดขนานที่เสนอข้อเรียกร้องผิดที่ผิดทาง เพราะต้องกลับไปดูต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดว่าเป็นมาอย่างไร ไม่ใช่จับแพะชนแกะ ตัดตอนเล่าเรื่องนี้ในบางช่วง บางตอนแล้วเอามามาขยายผลทางการเมือง เพราะถ้า พล.อ.ชวลิต ไม่เดินทางไปพบสมเด็จฯ ฮุนเซน และ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เดินทางไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลกัมพูชาแล้ว เรื่องเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น ดังนั้น ต้นเหตุที่แท้จริงจึงอยู่ที่บุคคลทั้งสอง เพราะที่ไม่มีหน้าที่ใดๆ ในรัฐบาลไทยหรือแม้ในกระทรวงการต่างประเทศของไทย และถ้าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายตามที่เปิดประเด็นแถลงข่าวมานั้น ตนขอแนะนำว่าให้ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก พล.อ.ชวลิตและพ.ต.ท.ทักษิณ จะเหมาะสมที่สุดเพราะเป็นที่มาของต้นเหตุทั้งหมด

ชม หลักฐานคาปาก "ทักษิณ" พูดเอง รู้เรื่องโทรศัพท์ เข้า-ออก สถานทูตไทยในกัมพูชา
เพี้ยนหนัก บอก มาร์ค-กษิต ใล่ฆ่าเหมือนหนังไทย !!

กำลังโหลดความคิดเห็น