“พัลลภ” ออกโรงป้อง “เสธ.แดง” จวก “อนุพงษ์” 2 มาตรฐาน จ้องฟัน “เสธ.แดง” แต่ทีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ไปตีกอล์ฟไกลถึงคุนหมิง กลับมาได้เลื่อนขั้นเป็น “พล.อ.” กลับปล่อยลอยนวล ส่วนทหารพรานร่วมชุมนุมเสื้อแดง เพราะรัก “บิ๊กจิ๋ว” เหมือนพ่อ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตรองผอ.รมน. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกองทัพบกสอบวินัย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกว่า การที่ตนเรียก พล.ต.ขัตติยะ มาพูดคุยที่พรรคเพื่อไทยนั้น เพราะทราบว่ามีทหารพรานประมาณ 200 คนจะมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงบอกให้ พล.ต.ขัตติยะ คอยดูสถานการณ์ อย่าให้ทหารต้องปะทะกันเอง ซึ่งกองทัพควรจะขอบคุณ พล.ต.ขัตติยะ ด้วยซ้ำ
ส่วนกรณี พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ออกมาระบุว่ามีคนเสื้อแดงแอบแต่งชุดทหารพรานนั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนเกลียดที่สุดคือพวกคนที่ชอบประจบสอพลอ ชอบรายงานเท็จ เท่ากับเป็นการทำลายผู้บังคับบัญชา เนื่องจากผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาผิดพลาดจากข้อมูลที่ได้รับรายงานมา เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่มีนิสิตนักศึกษาออกมาชุมนุมเป็นแสนคน แต่คนพวกนี้ก็ไปรายงานว่ามีคนมาชุมนุมแค่ 3 พันคน ทำให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจใช้กำลังเข้าปราบปราม หรือแม้แต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬซึ่ง พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับรายงานแบบนี้จนทำให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาผิดพลาดในที่สุด ทั้งนี้ ตนขอฝากถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ด้วยว่า ให้ระวังบุคคลเหล่านี้ให้ดี เพราะตนไม่อยากเห็นน้องชายที่รักต้องมีบั้นปลายชีวิตที่ต้องรับชะตากรรมแบบที่ตนยกตัวอย่างมา
พล.อ.พัลลภ กล่าวอีกว่า พล.ต.ขัตติยะ อาจจะกล่าววิจารณ์ ผบ.ทบ.รุนแรงไปบ้างก็เพราะพูดในฐานะเพื่อน เมื่อเพื่อนพูดกับเพื่อนจึงอาจจะรุนแรงไปบ้าง แต่ทหารยึดคติว่า ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน อย่างไรก็ตาม กองทัพไม่ควรมี 2 มาตรฐานในการพิจารณา เช่น นายทหารชั้นผู้ใหญ่ไปตีกอล์ฟที่คุณหมิงแล้วกลับมาปรากฏว่าได้เลื่อนยศเป็น พล.อ. เพราะอาจจะทำให้ลุกลามจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองได้ ส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ เดินทางไปประเทศกัมพูชานั้น หากเป็นความจริงก็น่าจะถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเท่ากับว่า พล.ต.ขัตติยะไปช่วยสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำของประเทศกัมพูชา เพราะในวันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พล.อ.พัลลภ กล่าวด้วยว่า ทหารพรานปักธงชัยนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยเป็นคนตั้งขึ้น ดังนั้น เขาจึงนับถือ พล.อ.ชวลิตเหมือนพ่อ และยังมีแนวคิดเหมือนกับเรา เขามีอุดมการณ์ของเขาเอง เราไม่ได้ไปดึงเขามา ทหารพรานเคยเสี่ยงตายเสียสละพลีชีพเพื่อชาติมาทั่วประเทศ ความคิดแบบนี้จึงทำให้เขาออกมาร่วม อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงต่างๆขึ้นอยู่ที่ความยุติธรรมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท หรือคดียุบพรรคไทยรักไทยที่ตนนำพยานออกมาเปิดเผยแต่คดีก็ยังไม่คืบ คนไทยมีความอดทนต่อทุกอย่างได้แต่ทนต่อความอยุติธรรมไม่ได้