เชียงราย – ผลวิจัยชี้ชัด “จีน” เล็งขยายตลาดผัก-ผลไม้ ผ่านเส้นทาง R3a นำผลผลิตจากเขตส่งเสริม 3 เมืองใหญ่ เข้าตลาดไทย - ตลาดโลก นักวิจัยเชื่ออีก 5 ปีต่อจากนี้จะเห็นผลชัดเจน เตือนไทยเตรียมรับมือผลกระทบด่วน หลังเห็นแอปเปิ้ลจีนตีตลาดผลผลิตจากอเมริกากระจุยมาแล้ว ด้าน คสศ.รับหยุดยาก เสนอไทยตั้งศูนย์กระจายสินค้าริมน้ำโขงที่เชียงของ ทำหน้าที่เพิ่มมูลค่า-ส่งออกสินค้าจีน
น.ส.ธัญลักษณ์ แซ่เลี้ยว ผอ.ศูนย์ประสานงานมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ช.) ประจำจังหวัดยวี่ซี มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการศึกษาวิจัย เรื่อง “การค้าเสรีไทย-จีน การปลูกพืชผักเพื่อส่งออกของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน” โดยเป็นการวิจัยเชิงมานุษยวิทยาเศรษฐกิจและได้ลงสำรวจข้อมูลพื้นที่ในเขตที่รัฐบาลจีนได้ส่งเสริมและกำหนดให้เป็นโซนการปลูกพืชเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศโดยเฉพาะ 3 แห่งคือ อำเภอเฉินโก้ง เมืองคุนหมิง อำเภอหยวนโหม่ว จังหวัดฉู่ฉง และอำเภอทงไห่ จังหวัดยวี่ซี ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชผักขนาดใหญ่เพื่อการส่งออก เนื่องจากมีสภาพภูมิศาสตร์การคมนาคมขนส่ง และมีระบบบริหารจัดการ รวมทั้งมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย การตลาด สนับสนุนอย่างเต็มที่ จึงทำให้ได้ผลผลิตที่ดีสามารถส่งไปขายต่างประเทศได้หลายสิบประเทศ
น.ส.ธัญลักษณ์ กล่าวว่า จากการลงสำรวจพื้นที่อย่างเจาะลึกในอำเภอทงไห่ และอำเภออื่นๆ พบว่าเคยเป็นพื้นที่ปลูกพืชเลี้ยงคนจีนในประเทศมาอย่างยาวนาน และสามารถปลูกพืชได้ 5 -6 ครั้งต่อปี พืชผักต่างๆ ที่ผลิตได้ก็ส่งไปจำหน่ายยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม เมียนมาร์ อิตาลี ส่วนใหญ่เป็นผักกาดหัวและเส้นประเภทอบแห้งจะส่งไปยังยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ส่วนผักสดจะส่งไปยังสิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย แคนาดา ฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศไทย โดยแต่ละเส้นทางจะมีระบบการขนส่งอยู่แล้ว
และในอนาคตทางการจีนได้เตรียมเส้นทางคุณหมิง-กรุงเทพฯ หรืออาร์ 3 เอ จีนตอนใต้-สปป.ลาว-ไทย เข้าประเทศไทยที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อมุ่งขนส่งพืชผักต่างๆ ดังกล่าวไปยังตลาดเป้าหมายทั้งหมด โดยผ่านท่าเรือทางทะเลของประเทศไทยต่อไปอีกด้วย
น.ส.ธัญลักษณ์ กล่าวอีกว่า ผลวิจัยดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าจีนจะเปิดตลาดเชิงรุกในอีก 5 ปีข้างหน้าอันจะทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ผลิตเพื่อการส่งออก 100% ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะต้นทุนการผลิตของจีนถือว่าต่ำมากโดยเฉพาะแรงงานทำให้ราคาสินค้าถูกกว่า รวมทั้งได้มีการส่งเสริมให้บริษัทและนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปร่วมบริหารจัดการด้านการตลาดรวมทั้งการบรรจุหีบห่อ
ในอนาคตจีนจะเป็นผู้ส่งผักและผลไม้รายใหญ่ของโลกโดยเริ่มเห็นภาพชัดแล้วในปัจจุบันแล้ว เช่น ส่งแอปเปิ้ลฟูจิ ไปครองตลาดที่ฮ่องกงได้สำเร็จ เป็นต้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยครองตลาดอยู่ เป็นต้น
ด้านนายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ (คศส.) และประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า เราต้องยอมรับเรื่องต้นทุนและระบบโลจิสติกส์ในประเทศจีนว่ามีความรุดหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการกระจายสินค้าไปยังตลาดโดยผ่านเส้นทางต่างๆ ซึ่งอาร์ 3 เอ ที่จะผ่านเชียงรายก็เป็นเป้าหมายสำคัญอยู่แล้วเพราะสะดวกสบายถึงตลาดได้เร็วกว่า และจากการประเมินขนาดเศรษฐกิจและยุทธวิธีในการขยายการค้าของจีนก็คาดว่าคงไม่สามารถหยุดยั้งได้ ดังนั้น วิธีการที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและผู้ประกอบการของไทยก็คือต้องปรับตัว โดยส่วนหนึ่งก็คือการร่วมจับมือเป็นเพื่อนธุรกิจหรือพาทเนอร์
อีกแนวคิดหนึ่งที่คิดกันมานานคือการตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่ จ.เชียงราย เพื่อศึกษาตลาดในประเทศจีนและกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงหรือจีเอ็มเอส เช่น พม่า สปป.ลาว ฯลฯ เพื่อกระจายสินค้าไปยังตลาดประเทศต่างๆ ซึ่งต้องการสินค้าไทย ส่วนสินค้าจีนที่ทะลักลงมาก็อาจจะนำมาแปรรูป บรรจุหีบห่อ หรือส่งต่อไปยังไปประเทศที่สาม โดยประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
