โฆษกมาร์ค ตอกย้ำผลโพลชี้ ปชช.รู้ทันเกมเพื่อไทยใช้ “ศิวรักษ์” เป็นเหยื่อสร้างภาพ เปรียบสภาพเหมือนผีเปรต เสนอหน้านายใหญ่รับมอบส่วนบุญอภัยโทษพรุ่งนี้ เชื่อสุมหัววางแผนป่วนช่วงสิ้นปี เตรียมส่งนิทานอิสป เรื่อง “กบเลือกนาย” ให้ฝ่ายค้าน เย้ยแก้กฏบังคับการประชุมสภาฯ เปิดโฟนอินแม้วร่วมอภิปราย
วันนี้ (13 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลโพลสวนดุสิตประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า การขอพระราชทานอภัยโทษวิศวกรไทย หลังถูกศาลกัมพูชา พิพากษาจำคุก 7 ปี และปรับอีก 1 แสนบาท เป็นเรื่องของเกมการเมืองที่มีการจัดเตรียมไว้แล้วว่า ประชาชนได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจับได้ไล่ทัน สำหรับผลสำรวจเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่ารัฐบาลไทยเสียหน้านั้น ตนมองว่าประชาชนเข้าใจว่าเหตุที่รัฐบาลเสียหน้า เพราะมีบุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่โดยตรงเข้าไปจุ้นจ้าน หรือยุ่งเกี่ยวเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนเห็นใจนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยอย่างมาก ที่กลายมาเป็นเหยื่ออันโอชะ ของนักการเมืองบางคน บางพรรค
“เพราะทุกวันนี้ภาพความจริงได้ปรากฏชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทยฉวยโอกาส นำประเด็นดังกล่าวมาหาผลประโยชน์ทางการเมืองบนความทุกข์ของผู้อื่น และพยายามสร้างภาพให้สังคมเห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือนายศิวรักษ์ แต่พฤติกรรม เคลื่อนไหวจนเกินความพอดี ทำให้สังคมจับได้ไล่ทัน เช่น มีการร่อนหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา จนเพลิน ซึ่งทำให้นายศิวรักษ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษก่อนที่หนังสือขอพระราชทานฯของพรรคเพื่อไทยจะไปถึงรัฐบาลกัมพูชา ส่วนการอ้างเหตุผลว่า ที่ยื่นหนังสือช้าไปเพราะเป็นแผนลับ ลวง พราง เพราะมีขบวนการขัดขวางจากคนรัฐบาลนั้น เป็นการอ้างเหตุผลเพื่อแก้เกี้ยว หลังจากตัวเองหน้าแตก ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นไม่มีใครในรัฐบาลชุดนี้ มาขัดขวาง มีแต่การเอาใจช่วยนายศิวรักษ์ให้ได้รับอิสรภาพโดยเร็ว”
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปร่วมพิธีปล่อยตัวนายศิวรักษ์ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ว่า ตนมองว่าเป็นการไปเสนอหน้า เพื่อเอาความดีความชอบ หวังผลในการที่จะไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ที่ตามกระแสข่าวจะเดินทางมาร่วมในงานดังกล่าวด้วย ซึ่งตนมองว่าการพบเจอดังกล่าว เป็นเหมือนงานเทศกาลชุมนุมผีเปรต เพื่อขอส่วนบุญส่วนกุศลจากเจ้ากรรมนายเวร นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่าจะเป็นการไปพบ เพื่อพูดคุยถึงแผนการที่จะนำมาเคลื่อนไหวทางเมืองช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วย
“ส่วนที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะส่งหนังสือเรื่องพระนางตอแหล ที่ทำให้รัฐไทยแตกแยกเป็น 6 ก๊ก ในสมัยโบราณเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ได้อ่านนั้น เข้าใจว่าเรื่องนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย น่าจะส่งหนังสือดังกล่าวให้ 10 คน ซึ่งความเป็นจริงควรจะส่งหนังสือดังกล่าวไปให้คนที่ดูไบ ได้อ่านมากกว่า เพราะนั่นเป็นต้นเหตุที่แท้จริง ที่ทำให้คนไทยในขณะนี้แตกเป็นก๊ก เป็นเหล่า และสำหรับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เป็น ส.ส. ตนตั้งใจจะส่งหนังสือนิทานอิสป เรื่อง “กบเลือกนาย” ให้ได้อ่าน เพื่อที่จะได้มีสติในการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาต่อไป เพราะขณะนี้ใช้เวลาเป็นปีก็ยังหาคนดีที่เหมาะสมกับตำแหน่งไม่ได้ ยังปัดแข้งปัดขา ซึ่งกันและกันภายในพรรค จนเกิดความแตกแยกและขาดการยอมรับซึ่งกันและกัน” นายเทพไท กล่าว
ส่วนการประกาศยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ นายเทพไทกล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยหวั่นไหวกับการประกาศซักฟอกรัฐบาลของฝ่ายค้าน เพราะเห็นว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ คุยโวว่ามีข้อมูลเด็ด ซึ่งน่าจะเป็นราคาคุยมากกว่า เหมือนกับสินค้าที่ด้อยคุณภาพ แต่เน้นเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นหลัก ซึ่งก่อนที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ อยากให้กลับไปดูบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่ว่าจะต้องเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมในการเป็นนายกฯ แทนนายกฯ ที่ถูกอภิปราย ซึ่งตนเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยคงต้องกลับไปถาม หรือขออนุญาตจากนายใหญ่เสียก่อนว่าจะเสนอชื่อใคร รวมถึงการหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการ ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้ด้วย
“ขณะนี้พรรคเพื่อไทยตกอยู่ในสภาพเป็นพรรคผีหัวขาด หรือ พรรคผีปอบ ที่หัวอยู่ดูไบ แต่ตัวอยู่ในประเทศไทย ถ้าจะให้หัวหน้าพรรคตัวจริงอภิปรายได้ด้วย ต้องไปแก้ข้อบังคับว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเปิดโอกาสให้หัวหน้าพรรคตัวจริงที่หนีคดีอยู่ในดูไบสามารถโฟนอินอภิปรายในสภาได้ เหมือนการโฟนอินปลุกระดมในม็อบเสื้อแดงที่กระทำเป็นประจำ” นายเทพไทกล่าว
