นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่สวนดุสิตโพลล์ เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง การขอพระราชทานอภัยโทษ นายศิวรักษ์ ชุติมมา วิศวกรไทย หลังถูกศาลกัมพูชา พิพากษาจำคุก 7 ปี และปรับอีก 1 แสนบาทพบว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นเรื่องของเกมการเมือง ที่มีการจัดเตรียมไว้แล้วเพราะประชาชนได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งประชาชนก็จับได้ไล่ทัน สำหรับผลสำรวจเกือบ 60 % ระบุว่ารัฐบาลไทยเสียหน้านั้น ตนมองว่าประชาชนเข้าใจว่าเหตุที่รัฐบาลเสียหน้า เพราะมีบุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่โดยตรง เข้าไปจุ้นจ้าน หรือยุ่งเกี่ยวเรื่องดังกล่าว ซึ่งเห็นใจนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย อย่างมาก ที่กลายมาเป็นเหยื่ออันโอชะ ของนักกรเมืองบางคน บางพรรค
เพราะทุกวันนี้ภาพความจริงได้ปรากฎชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทยฉวยโอกาส นำประเด็นดังกล่าวมาหาผลประโยชน์ทางการเมืองบนความทุกข์ของผู้อื่น และพยายามสร้างภาพให้สังคมเห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือนายศิวรักษ์ แต่พฤติกรรมของพรคคเพื่อไทย เคลื่อนไหวจนเกินความพอดี ทำให้สังคมจับได้ไล่ทัน เช่น มีการเร่หนังสือขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา จนเพลิน ซึ่งทำให้นายศิวรักษ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษก่อนที่หนังสือขอพระราชทานฯ ของพรรคเพื่อไทยจะไปถึงรัฐบาลกัมพูชา ส่วนการอ้างเหตุผลว่าที่ยื่นหนังสือช้าไป เพราะเป็นแผนลับ ลวง พราง เพราะมีขบวนการขัดขวางจากคนรัฐบาลนั้น เป็นการอ้าง เหตุผลเพื่อแก้เกี้ยวหลังจากตัวเองหน้าแตก ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นไม่มีใครในรัฐบาลชุดนี้ มาขัดขวาง มีแต่การเอาใจช่วยนายศิวรักษ์ให้ได้รับอิสระภาพโดยเร็ว
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปร่วมพิธีปล่อยตัวนายศิวรักษ์ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ว่า ตนมองว่าเป็นการไปเสนอหน้า เพื่อเอาความดีความชอบ หวังผลในการที่จะไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ที่ตามกระแสข่าวจะเดินทางมาร่วมในงานดังกล่าวด้วย ซึ่งตนมองว่า การพบเจอดังกล่าวเป็นเหมือนงานเทศกาลชุมนุมผีเปรต เพื่อขอส่วนบุญส่วนกุศลจาก เจ้ากรรมนายเวร นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่าจะเป็นการไปพบ เพื่อพูดคุยถึงแผน การที่จะนำมาเคลื่อนไหวทางเมืองช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วย
นายเทพไท กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์ข้อความโดยระบุว่าจะเดินไปพบผู้นำ 3 ประเทศ แถบเอเชียน่าจะเป็นความพยายามของพ.ต.ท.ทักษิณ ตามแผนยุทธศาสตร์โลก ล้อมประเทศไทย แต่เชื่อว่าประเทศไทยและประเทศแถบเอเชีย คงจะไม่ให้ความร่วมมือ เพราะไม่อยู่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ การติดต่อ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในฐานะนักโทษหนีคุก ที่รัฐบาลไทยต้องการตัวมาลงโทษ ก็คงจะไม่มีประเทศใดยอมรับหรือให้การสนับสนุน เว้นแต่ประเทศเล็กๆ ที่ไม่อยู่ในสารระบบที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์เทียบการจับนายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสิตจำคุกเหมือนกับกรณีคาร์บอมบ์สมัยตัวเองเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่สามารถ เปรียบเทียบกันได้ เพราะเรื่องคาร์บอมบ์ ก็ได้มีการชี้ชัดออกมาแล้วว่า เป็นการสร้าง สถานการณ์ แต่กรณีการจับวิศวกรคนไทย เป็นเรื่องที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นตัวสร้างปัญหา และมีความเร่งรีบ ดำเนินการจนเกิดความสับสนเรื่องการขออภัยโทษ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากให้ ฝ่ายใดนำเรื่องนี้มาเป็นเครื่องทางการเมือง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้รัฐบาลขอบคุณสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชานั้น คงเป็นเรื่องที่ต้องมาทบทวนตั้งแต่ พล.อ.ชวลิตและพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทาง ไปกัมพูชา จนถึงเหตุการณ์ที่วิศวกรไทยถูกจับ และพรรคเพื่อไทยยัดเยียดความผิดให้กับคนไทย จากนั้นก็รีบฉวยโอกาสขออภัยโทษ จนกระทั่งมีข่าวว่ามีการแย่งผลงานกันเอง ระหว่างคนในพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการหาประโยชน์ทางการเมือง หรือปกป้อง เกียรติภูมิของประเทศหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสื่อใต้ดินและเว็บไซต์ใช้เรื่องนี้ปลุกระดม โดยเทียบกับเรื่องการยื่นถวายฎีกาอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ไม่สามารถ เทียบกันได้ และอยากเรียกร้องให้หยุดการปลุกระดมว่ากองทัพเลือกข้าง เพราะกองทัพเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ควรทำให้คนไทยเกิดความเกลียดชังในสถาบันความมั่นคงหลักของชาติ
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องดีที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นกลุ่ม เดียวกับพรรคเพื่อไทย ประกาศยุติการชุมนุมในเดือนธ.ค. แต่อยากเรียกร้องให้ พรรคเพื่อไทยหยุด 3 พฤติกรรรม เพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้พัฒนาเป็นสถาบันการเมือง แท้จริงคือ 1.หยุดวิจารณ์รัฐบาลบนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นเท็จ โกหก หลอกลวงประชาชน 2.อย่าเล่นการเมืองโดยใช้ประชาชนและประเทศเป็นตัวประกัน และ3.หยุดปลุกระดมแบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งนี้ขอแสดงความยินดีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมหาหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
เพราะทุกวันนี้ภาพความจริงได้ปรากฎชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทยฉวยโอกาส นำประเด็นดังกล่าวมาหาผลประโยชน์ทางการเมืองบนความทุกข์ของผู้อื่น และพยายามสร้างภาพให้สังคมเห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือนายศิวรักษ์ แต่พฤติกรรมของพรคคเพื่อไทย เคลื่อนไหวจนเกินความพอดี ทำให้สังคมจับได้ไล่ทัน เช่น มีการเร่หนังสือขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา จนเพลิน ซึ่งทำให้นายศิวรักษ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษก่อนที่หนังสือขอพระราชทานฯ ของพรรคเพื่อไทยจะไปถึงรัฐบาลกัมพูชา ส่วนการอ้างเหตุผลว่าที่ยื่นหนังสือช้าไป เพราะเป็นแผนลับ ลวง พราง เพราะมีขบวนการขัดขวางจากคนรัฐบาลนั้น เป็นการอ้าง เหตุผลเพื่อแก้เกี้ยวหลังจากตัวเองหน้าแตก ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นไม่มีใครในรัฐบาลชุดนี้ มาขัดขวาง มีแต่การเอาใจช่วยนายศิวรักษ์ให้ได้รับอิสระภาพโดยเร็ว
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปร่วมพิธีปล่อยตัวนายศิวรักษ์ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ว่า ตนมองว่าเป็นการไปเสนอหน้า เพื่อเอาความดีความชอบ หวังผลในการที่จะไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ที่ตามกระแสข่าวจะเดินทางมาร่วมในงานดังกล่าวด้วย ซึ่งตนมองว่า การพบเจอดังกล่าวเป็นเหมือนงานเทศกาลชุมนุมผีเปรต เพื่อขอส่วนบุญส่วนกุศลจาก เจ้ากรรมนายเวร นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่าจะเป็นการไปพบ เพื่อพูดคุยถึงแผน การที่จะนำมาเคลื่อนไหวทางเมืองช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วย
นายเทพไท กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์ข้อความโดยระบุว่าจะเดินไปพบผู้นำ 3 ประเทศ แถบเอเชียน่าจะเป็นความพยายามของพ.ต.ท.ทักษิณ ตามแผนยุทธศาสตร์โลก ล้อมประเทศไทย แต่เชื่อว่าประเทศไทยและประเทศแถบเอเชีย คงจะไม่ให้ความร่วมมือ เพราะไม่อยู่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ การติดต่อ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในฐานะนักโทษหนีคุก ที่รัฐบาลไทยต้องการตัวมาลงโทษ ก็คงจะไม่มีประเทศใดยอมรับหรือให้การสนับสนุน เว้นแต่ประเทศเล็กๆ ที่ไม่อยู่ในสารระบบที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์เทียบการจับนายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสิตจำคุกเหมือนกับกรณีคาร์บอมบ์สมัยตัวเองเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่สามารถ เปรียบเทียบกันได้ เพราะเรื่องคาร์บอมบ์ ก็ได้มีการชี้ชัดออกมาแล้วว่า เป็นการสร้าง สถานการณ์ แต่กรณีการจับวิศวกรคนไทย เป็นเรื่องที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นตัวสร้างปัญหา และมีความเร่งรีบ ดำเนินการจนเกิดความสับสนเรื่องการขออภัยโทษ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากให้ ฝ่ายใดนำเรื่องนี้มาเป็นเครื่องทางการเมือง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้รัฐบาลขอบคุณสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชานั้น คงเป็นเรื่องที่ต้องมาทบทวนตั้งแต่ พล.อ.ชวลิตและพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทาง ไปกัมพูชา จนถึงเหตุการณ์ที่วิศวกรไทยถูกจับ และพรรคเพื่อไทยยัดเยียดความผิดให้กับคนไทย จากนั้นก็รีบฉวยโอกาสขออภัยโทษ จนกระทั่งมีข่าวว่ามีการแย่งผลงานกันเอง ระหว่างคนในพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการหาประโยชน์ทางการเมือง หรือปกป้อง เกียรติภูมิของประเทศหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสื่อใต้ดินและเว็บไซต์ใช้เรื่องนี้ปลุกระดม โดยเทียบกับเรื่องการยื่นถวายฎีกาอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ไม่สามารถ เทียบกันได้ และอยากเรียกร้องให้หยุดการปลุกระดมว่ากองทัพเลือกข้าง เพราะกองทัพเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ควรทำให้คนไทยเกิดความเกลียดชังในสถาบันความมั่นคงหลักของชาติ
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องดีที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นกลุ่ม เดียวกับพรรคเพื่อไทย ประกาศยุติการชุมนุมในเดือนธ.ค. แต่อยากเรียกร้องให้ พรรคเพื่อไทยหยุด 3 พฤติกรรรม เพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้พัฒนาเป็นสถาบันการเมือง แท้จริงคือ 1.หยุดวิจารณ์รัฐบาลบนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นเท็จ โกหก หลอกลวงประชาชน 2.อย่าเล่นการเมืองโดยใช้ประชาชนและประเทศเป็นตัวประกัน และ3.หยุดปลุกระดมแบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งนี้ขอแสดงความยินดีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมหาหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร