xs
xsm
sm
md
lg

คำถามที่นายวัลลภ พุกกะณะสุต และบอร์ดการบินไทยต้องตอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัลลภ พุกกะณะสุต
อ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายวัลลภ พุกกะณะสุต กรรมการและ ประธานกรรมการบริหาร การบินไทย ตอบโต้กรณีถูกกล่าวหาว่า ขนกระเป๋าเดินทาง 30 ใบ น้ำหนักร่วม 407 กิโลกรัม ขึ้นเครื่องการบินไทยจากญีปุ้นกลับกรุเงทพ โดยขนกระเป๋าผ่านแผนกกระเป๋าหายเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ศุลกากรแล้ว มีความรู้สึกว่า นี่คือ คำให้สัมภาษณ์ของคนที่ถูกจับได้ว่ากระทำความผิดคาหนังคาเขาแล้ว แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ และใช้ท่าทีของนักเลงโต ยกตนข่มท่าน ข่มขู่นายปิยะสวัสดิ์ อมระนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี)

ข้อความที่พนักงานการบินไทย ประจำสนามบินนาริตะ ส่งให้กับนายปิยสวัสดิ์ ระบุว่า เที่ยวบิน TG 677 วันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้โดยสารชื่อ “ Bhukkanasut” จำนวนกระเป๋า 30 ใบ น้ำหนักรวม 407 กิโลกรัม ตามคำสั่งของ KK ( นายสถานีของสายการบินไทย ประจำสนามบินนาริตะ) ให้รายงานน้ำหนักเพียงแค่ 172 กิโลกรัม

ผู้โดยสารอีกคนหนึ่งชื่อ “ Boobphakam” มีกระเป๋า 10 ใบ น้ำหนักรวม 113 กิโลกรัม แต่นายสถานีสั่งให้รายงานน้ำหนักเพียงแค่ 51 กิโลกรัม

“ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เราพนักงานการบินไทยประจำกรุงโตเกียว รู้สึกแย่กับการกระทำเช่นนี้ เราหวังว่า ดีดีคนใหม่ จะทำให้เรื่องนี้ยุติได้เสียที” เป็นข้อความในตอนท้ายของ เอกสารข้อมูลนี้


เดชะบุญ ที่ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับสายการบินเที่ยวนั้น เพราะบรรทุกน้ำหนักเกิน เพราะมิฉะนั้นแล้ว อาจจะพบผลไม้กระจายปะปนกับซากเครื่องบินเต็มไปหมด และพบกระเป๋าหลายๆใบ ที่มีข้อความติดว่า “ นมัสการท่านเจ้าคุณ ..... ” เพราะนายวัลลภบอกว่า ของที่มีการระบุนั้นเป็นผลไม้และอาหารที่เด็กวัดจากญี่ปุ่นฝากมาให้เจ้าคุณวัดปากน้ำ และไม่ถึง 400-500 กก.อย่างแน่นอน และไม่ได้มีการขนของผ่านช่องทางของหาย

นายวัลลภพูดถูก ที่ว่า ของไม่ถึง 400-500 กิโลกรัม เพราะข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ การบินไทย รายงานว่า กระเป๋าของนายวัลลภมีน้ำหนักรวมกันแค่ 407 กิโลกรัม แต่นายวัลลภกล้าตอบไหมละ ว่า น้ำหนักจริงๆมันกี่กิโลกรัมกันแน่ และข้างในคืออะไร เป็นผลไม้ อาหารจริงหรือ เพราะมิฉะนั้นแล้ว คนเขาจะนินทาไปถึงท่านเจ้าคุณวัดปากน้ำได้ ว่า ฉันอะไรกันนักกันหนา 500 กิโลกรัม เก็บไว้ฉันองค์เดียวหรือ ว่าเจือจานแบ่งให้พระทั้งวัดร่วมฉันด้วย

บาปกรรมแท้ๆ ขนาดหนังสือพิมพ์ “มติชน” ส่งนักข่าวไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ธุรการวัดปากน้ำ ยืนยันว่า ไม่เคยมีใครนำผลไม้ 400-500 กิโลกรัม มาถวายพระที่วัดในช่วงวันที่ 14 พฤศจิกายนและหลังจากนั้น นายวัลลภยังดันทุรัง โหนพระ ยืนกรานว่า มีลูกศิษย์ ท่านเจ้าคุณ สมเด็จมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ฝากผลไม้มาให้จริงๆ


การรับฝากของหรือมีของน้ำหนักเกิน เป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำกัน ก็จริงอยู่ตามที่นายวัลลภพพยายามทำตัวเป็นหมาหางด้วน อ้างว่า ดีดี กัปตัน ผู้จัดการก็ทำกัน แต่คงไม่มีใครเขาทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ทำกันประจำ เพราะว่า มีภรรยาเปิดร้านขายของที่นำเข้าจากญี่ปุ่นอยู่ที่ซอยละลายทรัพย์

นายวัลลภ เป็นถึงบอร์ดการบินไทย เป็นผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยมานานหลายปี ตามธรรมเนียมไทยๆ มีแต่คนให้เกียรติ ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก จะอัพเกรดขึ้นมานั่งชั้นหนึ่ง และขนของน้ำหนักเกินมา50-60 กิโล ถ้าไม่มีพฤติกรรมแบบเลวร้ายสุดที่จะทนแล้ว พนักงานที่โตเกียวคงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งด้วย นี่แสดงว่า ทำเสียจนเด็กๆ ยังเหลืออด

ถ้านายวัลลภไม่ได้ขนของเข้ามาถึง 400-500 กิโลจริง ทำไมต้องให้นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ( Boobphakam) รองผู้นำอำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ ไปอำนวยความสะดวก และช่วยหิ้วกระเป๋ามาให้อีก 10 ใบ 113 กิโลกรัม โดยบริษัทการบินไทยต้องออกตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายให้นายพฤทธิ์ด้วย

หลักฐานโจ่งแจ้งชัดเจนขนาดนี้ ถ้าเป็นที่เกาหลี หรือญี่ปุ่น นายวัลลภต้องฆ่าตัวตายแล้ว แต่ที่นี่คือประเทศไทย และที่นี่คือ การบินไทย ที่ถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้บริหาร จะทำอะไรก็ได้ คนอื่นอย่ามายุ่ง

แค่เรื่องเล็กน้อยๆ ขนของน้ำหนักเกินไป 500 กิโล ยังละไม่ได้ แล้วเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเป็น ร้อยล้านพันล้าน จะอดใจไหวหรือ

อยากถามไปถึงคณะกรรมการของบริษัทการบินไทยด้วยว่า กรณีของนายวัลลภนี้ พวกท่านซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลัดกระทรวง เป็นอธิบดี เป็นผู้บริหารระดับสูงในภาคเอกชน ซึ่งชอบท่องคำว่า ธรรมาภิบาล คิดจะทำอะไรบ้างไหม หรือว่าถึงเวลาประชุมบอร์ด ก็นั่งพูดคุยยิ้มแย้มแจ่มในกันเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะรเกิดขึ้น


แต่อย่าพูดแบบนายอำพน กิตติอำพน เลขาสภาพัฒน์ ในฐานะประธานบอร์ดการบินไทยที่บอกว่า ต้องดูก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ของที่นำเข้ามาเป็นของประเภทไหน เพราะเท่าที่ทราบมานั้นไม่ช่ของหนีภาษี แต่เป็นของฝากกันเข้ามา และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ของที่นายวัลลภขนเข้ามาจะเป็นของฝาก หรือของหนีภาษี เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่ต้องว่ากันต่อไป แต่เรื่องที่บอร์ดการบินไทย ต้องตอบคำถามคือ สิ่งทีนายวัลลภทำนั้นถูกต้องหรือไม่ นายอำพนไม่เข้าใจประเด็นหรือว่าไม่กล้าแตะนายวัลลภ

บริษัทการบินไทย มี นโยบายการกำกับดูแลกิจการว่า จะ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลหรือหลักการกำกับดูแลที่ดี อันประกอบด้วย การยึดมั่นในความถูกต้อง ความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ จริยธรรม ฯลฯ โดยมุ่งปลูกฝังหลักดังกล่าวในสำนึกและพฤติกรรมของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน

การยึดมั่นในความถูกต้อง หมายความรวมถึง ความซื่อสัตย์ ของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ในการปฏิบัติหน้าที่ และการไม่ยอมให้เกิดความไม่สุจริต หรือความไม่ถูกต้องชอบธรรมเกิดขึ้นในส่วนที่ตนรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ หมายความรวมถึง คณะกรรมการบริษัทฯ ผู้บริหาร และพนักงาน ต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ของตน และชี้แจงอธิบายการตัดสินใจ และการกระทำของตนต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะต่อผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน

จริยธรรม หมายความรวมถึง การมีจิตสำนึกและพฤติกรรมที่ดีตามกรอบจริยธรรมธุรกิจและจรรยาบรรณที่ดีในการประกอบธุรกิจ โดยมีความซื่อสัตย์ต่อตำแหน่งหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหาร

ฉีกทิ้งเสียดีไหม หลักธรรมาภิบาลเท่ห์ๆ แบบนี้ จะเอาไว้ทำไมให้รกเว็บไซต์
กำลังโหลดความคิดเห็น