"สมศักดิ์" ย้ำ "นช.แม้ว" ไม่เคยยึดหลักประชาธิปไตย แต่ผูกขาดระบบ "เผด็จการทุนนิยมสามานย์ในระบอบรัฐสภา" ด้าน "มาลีรัตน์" ชี้คำพูด "นช.แม้ว" ล้วนแล้วแต่เป็นใบเสร็จมัดตัว เพราะจาบจ้วงเบื้องสูง ทั้งในเนื้อหาทวิตเตอร์หรือวิดีโอลิงก์กล่อมหางแดง ล้วนแล้วแต่พูดชิ่งกระทบสถาบัน พร้อมฝากถาม "ประเทศชาติบอบช้ำ" เพราะใคร
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม โดยมี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ วันนี้ได้เชิญ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 มาร่วมพูดคุยและวิเคาะห์ถึงท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้หลุดใบเสร็จสำคัญมัดตัวอีกครั้ง ว่าแท้จริงแล้ว มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่
นายเติมศักดิ์ กล่าวเปิดประเด็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า “วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ ทำให้นึกถึงมาตรา 1 ธรรมนูญการปกครองฯ 2475 ที่บอกว่าอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ราษฎรคือผู้ถูกปกครอง”
นายสมศักดิ์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ต้องยอมรับว่าความรู้หลักนิติศาสตร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้อยความรู้มาก อีกทั้ง พูดหรือแสดงความคิดเห็นแบบไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้เสียก่อน โดยการที่ออกมาทวิตเตอร์ครั้งนี้ เพียงเพราะต้องการโจมตีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย และปล้นอำนาจมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ สู้เพื่อเป้าหมายเดียว นั่นคือ ต้องการเอาทรัพย์ที่ถูกยึดคืน เพราะถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชื่นชอบ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ.2475 มาก เหตุใดจึงไม่เรียกร้องให้กลับมาใช้ใหม่ ทำไมกลับไปเรียกร้องรัฐธรรมนูญปี 2540 แทน ทั้งที่ตัวเองก็เคยใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ในการโกงบ้านเมือง และใช้เงินซื้อตั้งแต่ระดับล่างลามไปจนถึง ส.ส.พรรค รวมถึงยังแทนกแซงระบบการตรวจสอบจนกลไกทำหน้าที่ไม่ได้ ดังนั้น เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือทวงคืนรัฐธรรมนูญฉบับใดๆ เนื่องจากสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยึดถือและปฏิบัติมาตลอดไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นระบบ "เผด็จการทุนนิยมสามานย์ในระบอบรัฐสภา" เพื่อเป้าหมายสูงสุด ทวงทรัพย์สินคืนมาทั้งหมด
นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้ำถึงสิทธิ์และอำนาจประชาชน โดยอ้างถึง มาตรา 1 ของ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ.2475 พร้อมระบุว่า เวลานี้อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน เพราะประชาชนกลายเป็นผู้ถูกปกครอง หรือจะเป็นคำพูดที่ว่า "ประชาธิปไตยตามใจพ่อ" 2 ประโยคคำพูดนี้ ตนไม่เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาได้อย่างไร และต้องการสื่อถึงใคร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่าจะชุมนุมเพื่อร่วมถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ทำไมถึงกลับทำตรงกันข้าม
นายเติมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนให้ข้อมูลตนมาว่าประโยคดังกล่าวคล้ายกับที่เคยปรากฏในเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน
นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามปรับคำพูดและท่าทีให้ดูจงรักภักดี เพื่อกู้ภาพลบตั้งแต่ไปให้สัมภาษณ์ไทมส์ ออนไลน์ และจาบจ้วงสถาบัน โดยมีคนกล่าวไว้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มักมีนิสัยแสดงคำพูดโอหัง จนทำให้หลายครั้งเดือดร้อน เพราะคำพูดของตนเอง ซึ่งตนก็เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเช่นนั้นจริงๆ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดง สู้เพื่อทวงประชาธิปไตยคืน แต่แค่อายุรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่จริงคือ 77 ปี แต่ในวิดีโอลิงก์ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดผิดเป็น 72 ปี สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ใส่ใจในรัฐธรรมนูญ ทั้งยังนำข้อมูลต่างๆ มาพูดให้บิดเบือน จะได้เกิดความเข้าใจผิด
นายเติมศักดิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องมาตามไล่บี้ เพราะยังมีแรงทำประโยชน์ให้คนอื่นอีกเยอะ ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่างประเทศ แต่อย่ามาห้ามไม่ให้พูดกับคนเสื้อแดง
นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า ในวิดีโอลิงก์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่า ประเทศชาติบอบช้ำพอหรือยัง ซึ่งเมื่อตนได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปาก พ.ต.ท.ทักษิณ มันทำให้ตนตั้งคำถามกลับว่า แล้วที่ประเทศชาติบอบช้ำ เป็นเพราะใครเป็นต้นเหตุ ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ย้อนเอาคำถามนี้ไปถามตัวเอง
นางมาลีรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ตนไม่อยากให้ทุกฝ่ายประมาท เนื่องจากเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มี สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา เป็นกองกำลังสนับสนุนอยู่ทางด้านหลัง ทำให้ถือเป็นแต้มต่อรัฐบาลไทย ที่จะขู่บีบเกมให้เปิดการเจรจา เพื่อต้องการล้างความผิด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าพร้อมจะเจรจากับทุกฝ่าย ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าจะเจรจาอะไร ในเมื่อศาลตัดสินแล้ว ก็ถือว่าจบเกมไปแล้วสำหรับความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ตนอยากให้จับตาดูความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างใกล้ชิด เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ พร้อมจะใช้ความรุนแรงอยู่ทุกเมื่อ ตราบใดที่คดีเงิน 76,000 ล้านบาท ยังไม่ตัดสิน และไม่ถูกยึดทั้งหมด
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม โดยมี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ วันนี้ได้เชิญ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 มาร่วมพูดคุยและวิเคาะห์ถึงท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้หลุดใบเสร็จสำคัญมัดตัวอีกครั้ง ว่าแท้จริงแล้ว มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่
นายเติมศักดิ์ กล่าวเปิดประเด็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า “วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ ทำให้นึกถึงมาตรา 1 ธรรมนูญการปกครองฯ 2475 ที่บอกว่าอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ราษฎรคือผู้ถูกปกครอง”
นายสมศักดิ์ กล่าวประเด็นนี้ว่า ต้องยอมรับว่าความรู้หลักนิติศาสตร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้อยความรู้มาก อีกทั้ง พูดหรือแสดงความคิดเห็นแบบไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้เสียก่อน โดยการที่ออกมาทวิตเตอร์ครั้งนี้ เพียงเพราะต้องการโจมตีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย และปล้นอำนาจมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ สู้เพื่อเป้าหมายเดียว นั่นคือ ต้องการเอาทรัพย์ที่ถูกยึดคืน เพราะถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชื่นชอบ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ.2475 มาก เหตุใดจึงไม่เรียกร้องให้กลับมาใช้ใหม่ ทำไมกลับไปเรียกร้องรัฐธรรมนูญปี 2540 แทน ทั้งที่ตัวเองก็เคยใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ในการโกงบ้านเมือง และใช้เงินซื้อตั้งแต่ระดับล่างลามไปจนถึง ส.ส.พรรค รวมถึงยังแทนกแซงระบบการตรวจสอบจนกลไกทำหน้าที่ไม่ได้ ดังนั้น เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือทวงคืนรัฐธรรมนูญฉบับใดๆ เนื่องจากสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยึดถือและปฏิบัติมาตลอดไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นระบบ "เผด็จการทุนนิยมสามานย์ในระบอบรัฐสภา" เพื่อเป้าหมายสูงสุด ทวงทรัพย์สินคืนมาทั้งหมด
นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้ำถึงสิทธิ์และอำนาจประชาชน โดยอ้างถึง มาตรา 1 ของ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ.2475 พร้อมระบุว่า เวลานี้อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน เพราะประชาชนกลายเป็นผู้ถูกปกครอง หรือจะเป็นคำพูดที่ว่า "ประชาธิปไตยตามใจพ่อ" 2 ประโยคคำพูดนี้ ตนไม่เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาได้อย่างไร และต้องการสื่อถึงใคร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่าจะชุมนุมเพื่อร่วมถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ทำไมถึงกลับทำตรงกันข้าม
นายเติมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนให้ข้อมูลตนมาว่าประโยคดังกล่าวคล้ายกับที่เคยปรากฏในเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน
นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามปรับคำพูดและท่าทีให้ดูจงรักภักดี เพื่อกู้ภาพลบตั้งแต่ไปให้สัมภาษณ์ไทมส์ ออนไลน์ และจาบจ้วงสถาบัน โดยมีคนกล่าวไว้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มักมีนิสัยแสดงคำพูดโอหัง จนทำให้หลายครั้งเดือดร้อน เพราะคำพูดของตนเอง ซึ่งตนก็เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเช่นนั้นจริงๆ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดง สู้เพื่อทวงประชาธิปไตยคืน แต่แค่อายุรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่จริงคือ 77 ปี แต่ในวิดีโอลิงก์ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดผิดเป็น 72 ปี สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ใส่ใจในรัฐธรรมนูญ ทั้งยังนำข้อมูลต่างๆ มาพูดให้บิดเบือน จะได้เกิดความเข้าใจผิด
นายเติมศักดิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องมาตามไล่บี้ เพราะยังมีแรงทำประโยชน์ให้คนอื่นอีกเยอะ ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่างประเทศ แต่อย่ามาห้ามไม่ให้พูดกับคนเสื้อแดง
นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า ในวิดีโอลิงก์ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่า ประเทศชาติบอบช้ำพอหรือยัง ซึ่งเมื่อตนได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปาก พ.ต.ท.ทักษิณ มันทำให้ตนตั้งคำถามกลับว่า แล้วที่ประเทศชาติบอบช้ำ เป็นเพราะใครเป็นต้นเหตุ ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ย้อนเอาคำถามนี้ไปถามตัวเอง
นางมาลีรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ตนไม่อยากให้ทุกฝ่ายประมาท เนื่องจากเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มี สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา เป็นกองกำลังสนับสนุนอยู่ทางด้านหลัง ทำให้ถือเป็นแต้มต่อรัฐบาลไทย ที่จะขู่บีบเกมให้เปิดการเจรจา เพื่อต้องการล้างความผิด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าพร้อมจะเจรจากับทุกฝ่าย ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าจะเจรจาอะไร ในเมื่อศาลตัดสินแล้ว ก็ถือว่าจบเกมไปแล้วสำหรับความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ตนอยากให้จับตาดูความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างใกล้ชิด เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ พร้อมจะใช้ความรุนแรงอยู่ทุกเมื่อ ตราบใดที่คดีเงิน 76,000 ล้านบาท ยังไม่ตัดสิน และไม่ถูกยึดทั้งหมด