“น้องเดียว” โม้แหลก! ไม่หวั่นแดงป่วน เย้ยเงื่อนไขเกณฑ์มวลชนชักแผ่ว

รมต.สำนักนายกฯ สบประมาทแผนเสื้อแดงเกมแรง เป็นไปตามคาด มั่นใจรับมือไหวอ้างประสบการณ์ 1 ปี ผนวกกับเงื่อนไขระดมมวลชนชักแผ่ว ขู่ล้ำเส้น กม.จะจัดการโดยเด็ดขาด เผยรัฐส่งทีมล็อบบี้แกนนำทุกพื้นที่สกัดชุมนุม พร้อมวางตารางให้ “มาร์ค” เดินสายขึ้นเหนือ-ล่องใต้พบประชาชน อ้างติดตามผลงาน ไม่เกี่ยวสัญญาณยุบสภา-เลือกตั้งใหม่

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (18 พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 29 พ.ย.นี้ว่า อย่างที่ประเมินไว้ เข้าใจว่าภายในเดือนสองเดือนนี้สถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ ไม่ได้ประมาทอะไร รัฐบาลมีหน้าที่เตรียมการรักษาสถานการณ์รับมือ อย่างไรก็ตาม ในการเตรียมการรับมือทั้งหลายเป้าหมายสูงสุด คือ พยายามที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมากที่สุด แม้เราจะยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือการเคลื่อนไหวที่เป็นสิทธิทางการเมือง แต่ทุกอย่างต้องพยายามให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ฉะนั้น เที่ยวนี้หากมีอะไรที่เกินเลยกว่าขอบเขตกฎหมายการจัดการโดยเด็ดขาดต้องมีการดำเนินการ เป็นการจัดการเด็ดขาดภายใต้กฎหมาย ซึ่งในเวลานี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายก็มีการประชุมเตรียมการรับสถานการณ์ตลอดเวลา ดังนั้น การชุมนุมในวันที่ 29 พ.ย.นี้จะประกาศอย่างไรก็ตาม รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้ อย่างน้อยที่สุดทำให้เอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปลายปีนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมรัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นายสาทิตย์กล่าวว่า เราคิดว่าเรามีประสบการณ์มาเพียงพอในช่วงการเคลื่อนไหวเกือบๆ 1 ปีที่ผ่านมานี้ทำให้พอมองเห็นว่าทิศทางการเคลื่อนไหวต่างๆเป็นอย่างไร ประกอบกับช่วงนี้เงื่อนไขในการเคลื่อนไหวต้องถือว่า เป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวที่มีความอ่อนในเชิงเหตุผลลง ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ทางด้านกฎหมายต่างๆ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งตอนแรกทำท่าว่าจะแข็งขัน แต่ช่วงหลังเงื่อนไขเหล่านั้นอ่อนลงโดยเหตุผลเพราะว่า พฤติกรรมการเคลื่อนไหวนั้นไม่ได้ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมและกระบวนการกฎหมาย

เมื่อถามว่า แต่การจัดกิจกรรมไม่น่าจะอยู่ในช่วงของการจัดกิจกรรม 5 ธันวาคม นายสาทิตย์กล่าวว่า อันนี้พูดแล้วในเวลาอันเป็นมหามงคลคนที่เป็นคนไทยควรจะรู้ว่าตัวเองควรจะดำเนินการอะไร จะเคลื่อนไหวอย่างไรเพื่อให้อยู่ในกรอบของความเหมาะสม ฉะนั้น ในวันดังกล่าวจะเสื้อสีอะไรก็แล้วแต่ หากจะแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีนี้ทำได้ แต่ไม่ควรใช้เหตุการณ์วันมหามงคล มาคาบเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง ตรงนี้ต้องแยกกันให้ออก

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะมีมาตรการป้องปราม แจ้งให้ฝ่ายผู้ชุมนุมทราบอย่างไรบ้าง นายสาทิตย์กล่าวว่า จริงๆ ตอนนี้เราทำทั้งการเตรียมการและการเข้าไปทำความเข้าใจกับแกนนำและในหลายพื้นที่มีการส่งคนเข้าไปทำความเข้าใจกับแกนนำ จะเห็นว่าแกนนำแต่ละพื้นที่มีการเปลี่ยนท่าทีไปแล้ว เช่นจังหวัดเลย ที่รัฐมนตรีไปตรวจงานไม่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อสีใดเลย อันนี้เป็นข้อตกลงของทางนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดเลย รวมทั้งที่จังหวัดพะเยา ส่วนจังหวัดอื่นเราก็ส่งคนไปพูดคุยตลอดเวลา และในวันเสาร์ที่ 21 พ.ย.นี้ นายกฯ จะไปจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุโขทัย คิดว่ามีการส่งคนเข้าไปพูดคุยกับแกนนำในพื้นที่แล้ว น่าจะมีความเข้าใจกันมากขึ้น แม้จะมีการชุมนุมอยู่บ้าง แต่คิดว่าอยู่ในขอบเขตที่คุยกันได้ เพราะนายกฯ ไปเรื่องประกันรายได้ และในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.นี้ไปจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย.จะไปจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการประชุมกันของหอการค้าทั่วประเทศ

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ลักษณะนี้เป็นการเตรียมการเลือกตั้งหรือจะยุบสภาหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่เลย เราไปเรื่องประกันรายได้เกษตรกรเสาร์อาทิตย์นี้ทั้งสองที่ ส่วนวันอาทิตย์หน้าที่จังหวัดเชียงใหม่ภาคเช้าเป็นการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ภาคบ่ายบินลงใต้ไป มอ.หาดใหญ่ เป็นการพูดเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้อย่างยั่งยืน ไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์ยุบไม่ยุบ

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านอ้างผลงานรัฐบาลหลายอย่างในการชุมนุม รัฐบาลจะชี้แจงก่อนหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องของการชี้แจงการทำงานรัฐบาลในรอบระยะเวลา 1 ปีตอนนี้มีการประชุมเตรียมการไปแล้วและคงมีการทำเอกสารเผยแพร่ต่างๆออกมา ถ้าก่อนหน้าวันที่ 29 พ.ย.ทางฝ่ายค้านสงสัยเรื่องใดสามารถสอบถามได้เลย การประชุมสภาก็เหลืออีก 2 สัปดาห์สามารถที่จะตั้งกระทู้สดถามได้ รัฐบาลยินดีที่จะตอบ ไม่ได้กังวลเรื่องการชุมนุมเที่ยวนี้เลย มั่นใจว่าสามารถจะดูแลเหตุการณ์ได้

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดมีการพูดผ่านทวิตเตอร์ว่าได้ประสานงานกับกัมพูชาให้ปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับกุมที่กัมพูชาให้ด้วยตัวเอง นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ทราบคุณทักษิณ ประสานงานเรื่องอะไร เพราะเรื่องนี้ท่านก็เป็นต้นเหตุของการที่คนไทยต้องถูกจับที่ประเทศกัมพูชา รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลคนไทย ซึ่งเราก็ทำเต็มที่ และนายกฯได้แถลงข่าวไปแล้ว

“กรณีของคุณทักษิณ ผมเชื่อหลักกฎแห่งกรรม ใครทำอะไรไว้จะได้รับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ฉะนั้น กรณีเรื่องกัมพูชาท่านทำอะไว้ ถ้าท่านจะแก้ก็เป็นเรื่องที่ดี” นายสาทิตย์กล่าว

เมื่อถามว่าการออกมาแสดงตัวเป็นผู้ประสานเหมือนให้มองเป็นฮีโร่ ที่สะท้อนให้เห็นว่าในที่สุดรัฐบาลก็ต้องเพิ่งคุณทักษิณ นายสาทิตย์กล่าวว่า ฮีโร่ไม่ลงมือทำเองแล้วแก้เองละ แต่งานนี้มันทำคนไทยด้วยกัน จริงๆ กระทบความรู้สึกมากพออยู่แล้ว ท่านไม่พูดอะไรเลยเสียดีกว่า ไม่มีปัญหารัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไทยทุกคนและต้องดูแล กรณีการเคลื่อนไหวของคุณทักษิณคิดว่า ยิ่งทำก็ยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้นว่าจริงๆ แล้วท่านทำเพื่อตัวเอง

เมื่อถามว่าในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีการพูดถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกแถลงอ้างพยานสองปากโดยระบุนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในฐานะเลขาธิการพรรค จ้างคนละ 15 ล้านบาท เพื่อล้มพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรในพรรคเลย เรื่องมีคำวินิจฉัยถึงที่สุดของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ข้อเท็จจริงที่มีการพูดถึงและมีการเปลี่ยนแปลงไป เป็นการรับผิดของเจ้าตัวที่พูด ส่วนจะกระทบถึงคดีหรือไม่ ไม่กระทบ เพราะคดีได้วินิจฉัยไปแล้ว ส่วนที่มีข่าวมูลนิธิ 111 จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีใหม่เป็นเรื่องทางกฎหมายก็ว่ากันไป

“เราไม่มีความหวั่นไหวอะไรในเรื่องนี้ พยานกลับคำแล้วจะกลับมายุบพรรคเราหรือเปล่า เรื่องนี้มันผ่านไปนานแล้ว ไม่มีอะไรกังกล ส่วนข้อกล่าวอ้างที่ว่านายสุเทพจ้างนั้นก็ไม่มีนายสุเทพ ปฏิเสธไปแล้ว ส่วนจะมีการฟ้องร้องอะไรหรือไม่เป็นเรื่องของนายสุเทพที่ต้องไปดูเอง” นายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์กล่าวถึงความคืบหน้าการขอข้อมูลการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หมิ่นสถาบันจากไทมส์ออนไลน์ว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่เราต้องตาม แต่ความจริงเป็นสิทธิของเขา แต่เราต้องตาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นข้อกฎหมายเข้ามาคาบเกี่ยว