“โฆษกมาร์ค” ประณามเสื้อแดงไม่รู้จักกาละเทศะ จัดชุมนุมในช่วงวันมหาราช ย่ำยีความรู้สึกคนไทย 65 ล้านคน แค่สนองตัณหา “นช.แม้ว” ท้าแน่จริงกลับมานำม็อบด้วยตัวเอง เรียกร้องคนเชียงใหม่แสดงพลังคัดค้านการปลุกระดมฆ่าผู้นำ ผ่านวิทยุชุมชน เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ จว.ให้ย่อยยับ
วันนี้ (20 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม นปช.ประกาศชุมนุมใหญ่ในปลายเดือน พ.ย.ต่อเนื่องถึงเดือน ธ.ค.นี้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่คิดถึงกาลเทศะและความเหมาะสมของสถานการณ์บ้านเมือง ว่าเดือน ธ.ค.มีความสำคัญอย่างไร เพราะทุกปีเดือน ธ.ค.จะเป็นเดือนที่คนไทยมีความสุขมากที่สุด มีเทศกาลรื่นเริงต่างๆจึงไม่เข้าใจว่า คนเสื้อแดงฉวยโอกาสนี้ทำลายความรู้สึกของคนทั้ง 63 ล้านคนมีความสุข เพียงเพื่อความสุขที่สนองตัณหาของ พ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว อยากถามแกนนำ นปช.ว่ารู้หรือไม่ว่า เดือน ธ.ค.นี้ คนไทยทั้งแผ่นดินต้องการแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง แต่คนเสื้อแดงกลับแสดงออกความจงรักภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงผู้เดียว คนทั้งชาติมีใจจดจ่อที่จะฟังกระแสพระราชดำรัสในวันสำคัญที่มีปีละครั้งว่าจะมีกระแสรับสั่ง แต่ไม่อยากฟังโฟนอินของทักษิณ จึงขอให้แกนนำเสื้อแดงทบทวนท่าทีในการกำหนดความเคลื่อนไหวในปลายปีนี้ เพราะคนไทยยังขวัญผวากับเหตุการณ์เผาบ้าเผาเมืองในสงกรานต์เลือดเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จะหวนกลับมาอีก อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนเสื้อแดงยืนยันจะชุมนุมต่อรัฐบาลก็มั่นใจว่าจะควบคุมได้ โดยภาระหนักจะตกกับฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะงานด้านการข่าว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ทวิตเตอร์ระบุว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นของสูง ไม่ควรเอามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง อยากฝากบอกไปว่า คนทั้งชาติย่อมรู้ที่ต่ำที่สูงดี มีเพียง พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ที่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประจำ แล้วจะมาเรียกร้องคงไม่หนี ก่อนที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองจะมีคำสั่ง เดือนเม.ย.ในสงกรานต์เลือดก็บอกว่า ถ้ามีเสียงปืนนัดเดียวจะกลับมานำม็อบแดง แจ่จริงทำไมไม่กลับมา เพราะมีเสียงปืนดังนับร้อยนัดแล้ว ก็ไม่เห็นเงาของคนชื่อทักษิณ กลับมาตามที่ประกาศ กลับปล่อยให้กองกำลังคนเถื่อนลิ่วล้อเผาบ้านเมือง ก่อจลาจลอย่างเมามัน ถ้ามองตาของคนชื่อทักษิณก็จะรู้ว่า ธาตุแท้เป็นอย่างไร เพราะนัยน์ตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีตาขาวมากกว่าตาดำ ถ้ากล้าจริงขอให้กลับมานำม็อบครั้งนี้ด้วยตัวเอง แต่ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ดีแต่ซุกอยู่ใต้ปีกของสมเด็จฯ ฮุนเซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและคงกล้าอยู่แค่ในกัมพูชา คงไม่กล้ามาเหยียบแผ่นดินอีสานตามที่ประกาศให้ความหวังพวกเสื้อแดงอีสาน
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 หรือเสื้อแดงเชียงใหม่ที่ประกาศผ่านวิทยุชุมชนว่าจะเตรียมการสังหารนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ในเร็วๆ นี้ ว่า เป็นพฤติกรรมเหิมเกริมของคนนอกนอกกฏหมาย ที่ท้าทายอำนาจรัฐปลุกระดมคน สร้างความแตกแยกในแผ่นดินและส่อให้เห็นว่าคนเสื้อแดงไม่น้อยที่นิยมใช้ความรุนแรง ขอให้ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะหน่วยข่าวเข้าไปดูแลในเชิงลึก ถ้ามีข้อมูลจริงต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ที่กล้าใช้สื่อวิทยุชุมชนและขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านวิทยุชุมชน ต้องพิจารณาดำเนินการปิดสถานีดังกล่าว เพราะเป็นการใช้สถานีวิทยุชุมชนผิดวัตถุประสงค์ และขอให้จับกุมตัวการมาดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะถือว่ามีการเจตนาที่จะสังหารผู้นำของประเทศเพื่อก่อความไม่สงบแล้ว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า แนวคิดใช้ความรุนแรงเช่นนี้จะไม่มีในแกนนำคนเสื้อแดงระดับจังหวัดที่เชียงใหม่เพียงแห่งเดียว น่าจะมีการอบรมขยายแนวคิดใช้ความรุนแรงเช่นนี้ ผ่านโรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดินที่มีการฝึกอบรมมาแล้วหลายรุ่น น่าเสียดายที่ภาพลักษณ์ดีๆของจังหวัดเชียงใหม่ ที่คนส่วนใหญ่ในจังหวัดไม่เอาด้วยกับแนวคิดนี้ แต่กลับปล่อยให้คนไม่กี่ร้อยคน มาทำให้ภาพลักษณ์ทั้งการท่องเที่ยว ความงดงามของประเพณี วัฒนธรรมของคนเชียงใหม่ถูกกลบกลืนไปด้วย ข่าวพฤติกรรมป่าเถื่อนของคนพวกนี้ แล้วนักท่องเที่ยวที่ไหนจะกล้าไป หนำซ้ำคนเหล่านี้ก็มาโทษอีกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ไม่กระเตื้อง แทนที่จะกลับไปดูพฤติกรรมของตัวเองว่าเป็นเหตุหนึ่งหรือไม่ที่ทำให้คนทั้งประเทศไม่กล้าไป เหยียบจังหวัดเชียงใหม่ ตนคิดว่าคนส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ที่ไม่เห็นด้วย น่าจะการแสดงออกให้คนเหล่านี้รู้ว่า เป็นตัวถ่วงความเจริญของคนหมู่มาก เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสังคมที่เจริญแล้ว คือการใช้ความคิด ใช้เหตุและผล แทนการใช้กำลังระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
