“เพื่อไทย” หันหัวเรือไปให้ความสำคัญคณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ไขปัญหามาบตาพุด แสร้งเห็นใจต้องแบกรับปัญหาแทนรัฐบาลเกรงตกเป็น “เครื่องมือ” ซื้อเวลารัฐบาล
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวกรณีการแก้ปัญหามาบตาพุดว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลเลย นอกจากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการนิคมฯกำลังจะแจ้งให้เอกชนทราบและปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่กระทบกับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจที่คณะกรรมการ 4 ฝ่ายต้องมาแบกรับการแก้ไขปัญหาแทนรัฐบาลภายใต้สถานการณ์ที่ค่อนข้างวิกฤตมากแล้ว รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากมวลชนในท้องถิ่น และกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของภาคเอกชนและเจ้าบ้านในพื้นที่เลย เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่ดำเนินการอะไรเลยในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
นายคณวัฒน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตาดูว่าข้อสรุปของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายว่าจะเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวลชนในท้องถิ่น ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีทั้งมวลชนแท้และมวลชนเทียม ที่ถูกชักใยโดยกลุ่มการเมืองที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาล รัฐบาลจึงอยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่กล้าตัดสินใจ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเหมือนกรณีความขัดแย้งในการรถไฟ หากที่สุดแล้วไม่สามารถหาข้อสรุป ที่เป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย การซื้อเวลาของรัฐบาลมีแต่จะสร้างความเสียหายมากขึ้นไปอีก โดยคณะกรรมการ 4 ฝ่ายจะกลายเป็นเหยื่อของรัฐบาลในการปัดความรับผิดชอบ
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวกรณีการแก้ปัญหามาบตาพุดว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลเลย นอกจากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการนิคมฯกำลังจะแจ้งให้เอกชนทราบและปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่กระทบกับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจที่คณะกรรมการ 4 ฝ่ายต้องมาแบกรับการแก้ไขปัญหาแทนรัฐบาลภายใต้สถานการณ์ที่ค่อนข้างวิกฤตมากแล้ว รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากมวลชนในท้องถิ่น และกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของภาคเอกชนและเจ้าบ้านในพื้นที่เลย เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่ดำเนินการอะไรเลยในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
นายคณวัฒน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตาดูว่าข้อสรุปของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายว่าจะเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวลชนในท้องถิ่น ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีทั้งมวลชนแท้และมวลชนเทียม ที่ถูกชักใยโดยกลุ่มการเมืองที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาล รัฐบาลจึงอยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่กล้าตัดสินใจ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเหมือนกรณีความขัดแย้งในการรถไฟ หากที่สุดแล้วไม่สามารถหาข้อสรุป ที่เป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย การซื้อเวลาของรัฐบาลมีแต่จะสร้างความเสียหายมากขึ้นไปอีก โดยคณะกรรมการ 4 ฝ่ายจะกลายเป็นเหยื่อของรัฐบาลในการปัดความรับผิดชอบ