xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” กับปริศนาหมายเลข 10 -10 ธ.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร ตระเวนไปที่จอร์แดน เมื่อไม่กี่วันมานี้
"ผ่าประเด็นร้อน"

หากจะว่ากันตามสภาพบรรยากาศความเป็นจริงแล้วถือว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 10 ธันวาคมในปีนี้ ย่อมสวนทางกับความรู้สึกของไทยส่วนใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนเสื้อแดงด้วยกันเองที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวในช่วงเดือนมหามงคล และที่ผ่านมาแกนนำหลายคน รวมไปถึง ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยไม่น้อย ถึงกับกล่าวว่า “ไม่เหมาะสม เพราะเกรงจะถูกมองว่าไม่จงรักภักดี”

อย่างไรก็ดีนั่นเป็นทัศนะจากพวกเสื้อแดงหรือสาวกปลายแถว อยู่วงนอก จึงอาจไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์แท้จริงของ นายใหญ่ คือ ทักษิณ ชินวัตร

และที่สำคัญการชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับไฟเขียวจากเขา โดยเฉพาะการสนับสนุนในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งอย่างน้อยก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในด้านพิธีกรรม “ฟอกตัว” จากการวีดิโอลิงก์ นำจุดเทียนชัยถวายพระพรในตอนค่ำ

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นพิธีกรรมที่ถูกตั้งข้อสังเกตไว้ “หน้าฉาก” เท่านั้น หลังจากมีคำถามมากมายตามมาก็คือ หากจงรักภักดีจริง ทำไมเพิ่งจะโผล่หน้าออกมาในวันนี้ ช่วงวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา หายหัวไปไหน ทำไมไม่ใส่เสื้อสีชมพูออกมาร่วมจุดเทียนชัยกับคนไทยทั่วไป โดยไม่ต้องไปรังเกียจว่าจะอยู่ฝ่ายใดมาก่อน

เป็นเสมือนแยกประชาชนออกจากกันว่า นี่คนพลเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร ที่นำออกมาแสดงพลังให้ได้รับรู้

นอกเหนือจากความไม่เหมาะสมเพราะตัวเองเป็นนักโทษหนีคุก หนีตะราง ที่กระทำไม่บังควร มีคำถามตามมาสารพัด

อย่างไรก็ดี ยังมีอีกมุมหนึ่งที่เริ่มมีการพูดถึงกันมากขึ้น นั่นคือพิธีกรรมทางไสยศาสตร์กับตัวเลขปริศนา “หมายเลข 10”

หลายคนอาจรู้สึกหัวร่อ เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ แต่สำหรับคนอย่าง ทักษิณ ที่ปากมักบอกว่าไม่เชื่อในเรื่องดังกล่าว แต่ในความเป็นจริงแล้วตรงกันข้าม เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันว่าเข้าขั้น “บ้าคลั่งไสยศาสตร์” กันเลยทีเดียว

หากย้อนกลับไปพฤติกรรมที่ผ่านมาทุกอย่างก็เริ่มเข้าเค้าสอดคล้องกันทั้งสิ้น !!

ที่ผ่านมา “ASTV ผู้จัดการ สุดสัปดาห์” เคยนำเสนอรายงานข้อมูลเรื่องนี้ไปในฉบับวันที่ 14-20 พฤศจิกายน 2552 (ฉบับที่ 6) เกี่ยวกับปริศนา “เจ้าองค์ที่ 10” ไปแล้วครั้งหนึ่ง หลายคนอาจจะยังเฉยๆ แต่เมื่อมาถึงวันนี้วันที่ ทักษิณ ไฟเขียวให้คนเสื้อแดงชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคม มันก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นภาพที่เคยเบลอๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

แม้หลายคนเคยรับรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาเชื่อในหมายเลข “8” ไม่ว่าคิดจะทำอะไร ก็มักจะยึดเลข 8 เป็นสำคัญ หรือหากจะสั่งให้เสื้อแดงชุมนุมในวันใด ก็ต้องมีตัวเลขที่สัมพันธ์กับเลข 8 ทุกครั้ง เช่น การชุมนุมในวันที่ 17 สิงหาคม เนื่องจากเมื่อนำเลข 7 มาบวกกับเลข 1 ก็จะรวมกันได้เป็น 8 เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในระยะหลังไม่รู้เป็นเพราะอะไรแน่ ทำให้เขาเปลี่ยนไป จากเลข 8 มาปักใจเชื่อและยึดในหมายเลข 10 ว่าเป็นเลขมงคลสำหรับตัวเขา ซึ่งบางคนบอกว่าอาจเป็นเพราะมีหมอดูอีทีแนะนำก็เป็นได้ ทำให้เขาเชื่อ และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เป็นอยู่ โดยหวังว่าอาจได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่ 10 หรือเทียบเท่าผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่ 10 ก็เป็นได้

หากพิจารณาจากข้อมูลส่วนตัว ทักษิณ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 และบังเอิญว่ามีการระดมเพื่อนทหาร ตำรวจ จากเตรียมทหารรุ่น 10 ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทยเป็นการใหญ่ ลักษณะเหมือนกับการเสริมบารมีให้กับเขา

หรือการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมาก็ตาม เมื่อนำตัวเลขมาบวกกันก็จะรวมกันได้ 10 หรือย้อนไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2551 ทักษิณ กับครอบครัว (มีอดีตภรรยาร่วมด้วย) ได้ทำพิธี “ชุบชีวิตใหม่” ที่วัดธรรมกาย สาขาลอนดอน แต่ไม่รู้ว่าคราวนั้นเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นหลังจากนั้นถัดมาไม่นาน ทักษิณ ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุก 2 ปีในคดีที่ดินย่านรัชดาภิเษก

หากย้อนกลับไปให้ไกลกว่านั้นอีกก็คือเมื่อปี 2548 ทักษิณ ทำพิธีในวัดพระแก้ว ก็เลือกเอาวันที่ 10 เมษายน มันช่างบังเอิญยิ่งนัก

ขณะเดียวกันสดๆ ร้อนๆ บังเอิญอีกว่าในวันที่เดินทางไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของ “ฮุนเซน” และที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา เขาก็นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 พฤศจิกายน และเลือกเวลาเดินทางไปถึงกรุงพนมเปญในเวลา 10 นาฬิกาเศษ

ล่าสุดมีการกำหนดเอาวันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันชุมนุมของเหล่าคนเสื้อแดง แม้ว่าจะถูกก่นด่าจากคนไทยจำนวนมาก แต่เขาก็ยังดึงดันเดินหน้า แม้ว่าจะอ้างถึงวันรำลึกถึงรัฐธรรมนูญ แต่หากมองอีกด้านหนึ่งมันก็เป็นสัญญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นถ้า ทักษิณ บ้าคลั่งไสยศาสตร์จริง มันก็น่าเป็นห่วง เพราะในปีหน้ามันก็มีตัวเลข 10 มาเกี่ยวข้องอีก เพราะเป็นปี 2010 ซึ่งมีข้อมูลยืนยันว่า ทักษิณ จะต้องทุ่มเททุกทางเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้

ส่วนจะเปลี่ยนแปลงไปทางใด ยังไม่อาจทราบได้ แต่อย่างน้อย คดีอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านต้องมีการตัดสินจากศาลแน่นอน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น