“ผ่าประเด็นร้อน”
เชื่อว่าคนไทยเกือบทั้งหมดคงรู้สึกมีความสุขและปลื้มปีติเป็นล้นพ้นกับวัน “มหามงคล” ในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษที่พระองค์มีพระชนม์ครบ 82 พรรษา
อีกทั้งที่ผ่านมาพระองค์ทรงประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ยิ่งทำให้มีพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศออกมาร่วมใจกันถวายพระพรขอให้พระองค์ “ทรงพระเจริญ” อย่างมืดฟ้ามัวดิน
เป็นปรากฏการณ์รวมพลังของคนไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะหากพิจารณาเฉพาะในกรุงเทพฯ ตั้งแต่สนามหลวงตลอดถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอกไปจนถึงลานพระราชวังดุสิตหรือลานพระบรมรูปทรงม้าก็เต็มไปด้วยพสกนิกรของพระองค์แน่นขนัดไปหมด
ขณะเดียวกัน บรรยากาศแบบเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วประเทซทุกจังหวัด
เป็นภาพที่เชื่อว่าคนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน
เป็นการแสดงออกของคนไทยซึ่งรักพระองค์ท่านต้องการแสดงออกให้ทรงรับรู้ และเพื่อให้พระองค์มีความสุข เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน...ตลอดไป
หลายคนก็ได้แต่หวังว่าบรรยากาศแห่งความสุขแบบนี้จะต้องเบ่งบานตลอดไปอย่างน้อยก็ต้องคงอยู่ตลอดเดือนธันวาคม ต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ เพื่อเป็นเสมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจ หลังจากตลอดสองสามปีที่ผ่านมาได้เจอแต่เรื่องร้ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ลามมาถึงไทย และจนบัดนี้ยังไม่โงหัวขึ้นมาดีนัก
การได้อยู่ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขแบบนี้ก็น่าจะเป็นผลดี และสมควรจะรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด
แต่ก็อย่างว่าทุกอย่างย่อมสองด้านเสมอ มีบวกก็ย่อมมีลบ มีดีก็ต้องมีชั่ว ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งไหนจะมากกว่ากัน
การประกาศดึงดันชุมนุมของพวก “คนเสื้อแดง” ของ ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 ธันวาคม โดยอ้างความเป็นนักประชาธิปไตย รำลึกถึงรัฐธรรมนูญ ทำราวกับว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก จนต้องมี “สามเกลอ” เป็นหัวหอกจัดงานรำลึกขึ้นมา
ทำราวกับว่าคนพวกนี้เป็นนักประชาธิปไตยจ๋า ทุกอย่างจะต้องถอยหลังเข้าคลองถ้าไม่ได้จัดงานรำลึกในวันดังกล่าว รวมไปถึงไม่ได้มีการจัดกิจกรรม และที่สำคัญจะต้องเน้นให้เห็นสัญญลักษณ์ “ประชาธิปไตย-รัฐธรรมนูญ” ซึ่งก็ต้องหนีไม่พ้นบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยรวมไปถึงลานพระรูปทรงม้า บริเวณที่เป็น “หลักหมุด” เพื่อสื่อให้เห็นถึงวันที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475
อย่างไรก็ดี มาถึงนาทีนี้เมื่อคนเสื้อแดงซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร ไม่สนใจบรรยากาศวันมหามงคล และความรู้สึกของคนไทยทั้งมวลทั่วประเทศยังดึงดันจะชุมนุมก็ไม่เป็นไร จะได้เห็นธาตุแท้ได้ชัดยิ่งกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน หากจะกล่าวกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว การดึงดันจัดการชุมนุมในวันที่ 10 ดังกล่าวหากมองอย่างผิวเผินก็อาจมองได้ว่าเป็นการรำลึกถึงรัฐธรรมนูญ แต่หากพิจารณาให้ลึกแล้วคนพวกนี้ต้องการสื่อให้เห็นถึงการ “เปลี่ยนแปลง” การปกครองใช่หรือไม่
เป็นการเคลื่อนไหวที่ต้องการสื่อให้เห็นในเชิงสัญญลักษณ์ !!
นอกเหนือจากนี้ ยังเหมือนกับว่ามีเจตนา “ข่มขู่” ไปถึงบางคน หากไม่ยอมเจรจาแบ่งปันอำนาจ และยกเว้นความผิดให้กับ “นาย” ของพวกเขาแล้วก็ไม่มีวันจะอยู่กันอย่างสงบสุขกันอีกต่อไป จะมีการรายแหย่ ป่วนกันอยู่แบบนี้เป็นระยะ โดยไม่สนใจว่าจะอยู่ในช่วงบรรยากาศแบบใดทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเป็นการดีเหมือนกันที่ “คนของทักษิณ” ออกมาในช่วงเวลานี้แบบนี้ เพราะถือว่าได้จงใจทำลายบรรยากาศแห่งความสุขของคนไทยทั้งมวล ที่กำลังทำทุกทางเพื่อให้ “พ่อของแผ่นดิน” มีความสุข ทรงหายจากพระอาการประชวรเป็นปกติอยู่เป็นมิ่งขวัญไปตราบนานเท่านาน
อยากเห็นเหมือนกันว่าเวลาที่ถูกคนโห่ไล่ รุมด่าประณามใส่หน้าแล้วคนพวกนี้จะรู้สึกอย่างไร
เพราะเชื่อว่าคนไทยที่จงรักภักดีทุกคนคงไม่อยากเห็นคนที่ไม่รู้จักกาลเทศะ มาทำลายความสุขที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมือง และบางทีในวันนั้นอาจได้เห็นการสั่งสอนในลักษณะที่เป็น “อารยะ” กับคนพวกนี้อย่างจริงจังเสียที!!