“สุดารัตน์” ร้อนตัวแจงจัดงาน “มหาสังฆทาน รวมพลังไทยเพื่อพ่อของแผ่นดิน” ไม่มีอะไรในกอไผ่ ปัดวุ่น “111 ซาก ทรท.” ไร้เอี่ยวชักใยปรับ “ครม.หมัก” ยันไม่เคยต่อสายตรงถึง “แม้ว” วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมือง
วานนี้ (27 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งจากกองบัญชาการทหารสูงสุดว่า พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แถลงข่าวการจัดงาน “มหาสังฆทาน รวมพลังไทยเพื่อพ่อของแผ่นดิน” โดยจะมีการตักบาตรพระ 9,999 + 9 รูป (จากวัดประจำรัชกาลที่ 9 รัชกาล แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) เนื่องในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 62 ปี เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี สร้างความสามัคคี และสันติสุขสู่สังคมไทย ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เพราะงานดังกล่าวเป็นงานมหาสังฆทานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ณ ลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า) ตั้งแต่เวลา 06.00-08.00 น. ทั้งนี้ในเวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น.ของวันวันที่ 21 ก.ค. จะมีการแสดงพลังด้วยการสวดคาถาชินบัญชร เพราะที่ผ่านมาประชาชนทุกฝ่ายได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งประสบวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยปัญหาราคาน้ำมันแพงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการทำบุญครั้งนี้เพื่อให้คนไทยได้มีกิจกรรมที่สร้างให้เกิดความรัก เกิดความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ เกิดขวัญ และกำลังใจในหมู่ประชาชน
จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้คนไทยร่วมแรงร่วมใจ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อถวายพระราชกุศล และถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน เนื่องจากอยากเห็นภาพเหมือนวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่คนไทยรวมพลังเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี ที่ร่วมแรงร่วมใจ และรู้รักสามัคคี เพื่อเป็นพระราชกุศล และความจงรักภักดี ซึ่งการทำบุญครั้งนี้จะเชิญทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และทุกฝ่ายมาร่วมทำบุญ
“การทำบุญครั้งนี้ไม่มีแบ่งฝ่าย แต่จะเชิญคนไทยทุกคนไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหน หรือเห็นไม่ตรงกัน เราเป็นคนไทย และมีพ่อคนเดียวกัน ทั้งนี้เชื่อว่าการทำบุญครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง และจะทำให้จิตใจที่จะให้เห็นคนไทยมาร่วมพลังกันในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะในหลวงทรงเหน็ดเหนื่อยกับพวกเรามา 62 ปีแล้ว ดังนั้นเราทำให้บ้านเมืองสงบสุขบ้างไม่ได้เหรอ ทั้งนี้ไม้ได้ห่วงกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะเชื่อทุกฝ่ายจะร่วมมือกัน โดยงานนี้ไม่มีอะไรในก่อไผ่ และไม่มีอะไรแอบแฝง เราไม่เจาะจงใครมาร่วมงาน ใครก็ได้ที่มีความประสงค์ ก็สามรถมาร่วมงานได้ ในฐานะมาแสดงความจงรักภักดี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาได้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ได้ดูบ้าง ไม่ได้ดูบ้าง เมื่อถามว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องการทำงานให้ไปถามนายสมัคร สุนทรเวช นกรัฐมนตรี เพราะตนไม่ทราบ รวมถึงเรื่องปรับคณะรัฐมนตรีด้วย เพราะนายสมัครต้องเป็นผู้พิจารณา แต่ขณะนี้ไม่มีข้อมูล ส่วนในช่วงที่เว้นวรรคทางการเมืองได้ทำอะไรบ้าง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ดูแลแม่ที่ไม่สบาย ดูแลลูก และทำมูลนิธิต่างๆ
เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนเห็นเหตุการณ์แบบนี้แล้วดีใจที่เป็น 1 ใน 111 คน เมื่อถามว่าคิดถึงการเมืองไทยหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่คิดถึงเพราะเห็นเหคุการณ์เช่นนี้แล้ว ดีใจที่เป็น 111 คน ซึ่งสงสารคนทำงานเพราะวุ่นวาย ใครทำงานก็เหนื่อย เห็นแล้วสงสาร จึงต้องให้กำลังใจกันไป ส่วนสถานการณ์จะคลี่คลายอย่างไรไม่ทราบ แต่อยากให้ทุกคนสามัคคี ทำบุญร่วมกัน จะได้ดีกัน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายดึง 111 คนมาเกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่มี ขอปฏิเสธว่าไม่มีการประชุม รวมทั้งไม่ได้มีการซ่องสุมอะไร และตนไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ทราบจากนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า การไปประชุมมีการประชุมเรื่องการทำกุศล ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง
เมื่อถามอีกว่า ทั้ง 111 คน ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไรบ้าง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า บทบาทการเมือง 111 คน ไม่ได้เข้าไปเกี่ยว เพราะมีรัฐบาลแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยว ความห่วงใย ความรู้ ความสามารถท่านใดที่จะไปทำประโยชน์เพื่อชาติ ท่านก็จะทำ เมื่อถามว่า เสียดาย 111 คน ที่มีฝีมือ แต่ไม่ได้มาทำงานหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถ้าเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ 111 คนโชคดีที่ไม่ได้ทำงานในช่วงนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เจอกัน ก็อยากให้กำลังใจรัฐบาลทุกคนที่ทำงาน รู้ว่าเหนื่อย รู้ว่าหนัก คนอยู่ก็เหนื่อย ก็อยากให้กำลังใจรัฐบาล และนายกฯ รวมทั้งทุกฝ่าย เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ
ต่อข้อถามที่ว่า ได้มีการต่อสายพูดคุยสถานการณ์การเมืองกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุย หรือต่อสายถึงกันเลย และยังไม่เจอกันด้วย ส่วนเรื่องถุงขนม 2 ล้านบาท ที่เป็นค่าสินบนให้กับศาลนั้น ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร รวมทั้งเรื่องเขาพระวิหาร ก็อยากทุกฝ่ายเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก อย่าไปปลุกระดมให้เกินเลย
