นายกฯ ย้ำจำเป็นต้องประกาศใช้ กม.มั่นคง เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แม้จะสิ้นเปลืองงบประมาณบ้างแต่ถือว่าคุ้ม ชี้มีสัญญาณเสื้อแดงเตรียมชุมนุมดาวกระจาย พร้อมบังคับใช้ กม.คลุมพื้นที่ กทม. ระบุไม่ใช่เป็นการท้าทาย เพียงแต่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการดูแลฝูงชน ปัดใช้สองมาตรฐาน ชี้ขึ้นอยู่วัตถุประสงค์ของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง
วันนี้ (24 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีภายหลังประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. - 14 ธ.ค.ว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่รัฐบาลกำลังเตรียมงานจัดงานทั้งเรื่องงานพระราชพิธี งานเฉลิมพระเกียรติ หรืองานเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งจริงๆ แล้วการใช้พื้นที่ในบริเวณใจกลางเมือง และบริเวณพิธีต่างๆ ต้องมีการใช้พื้นที่ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.จนถึงต้นเดือนธ.ค.อยู่แล้ว เช่น กรณีของทหารก็ต้องมีการฝึกซ้อม การรวมพลสำหรับงานสวนสนาม ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในเรื่องการชุมนุม การเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อผู้ชุมนุมยืนยันชุมนุม ก็ต้องใช้กฎหมายความมั่นคง เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้อยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือที่เคยประกาศมาแล้วในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯหลายครั้ง ก็ได้มีมติให้ประกาศพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค. และจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ในการออกประกาศต่างๆ ออกไป นี้คือสิ่งที่พิจารณาเรื่องกฎหมายความมั่นคงวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลการขยายพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง จากเขตดุสิตสองแขวงมาเป็นทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เนื่องจากรายงานข่าวตามแผนของผู้ชุมนุมมีแนวคิดที่จะกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ รัฐบาลต้องการที่จะดูแลทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อย และพยายามไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป อาจจะไปรอให้มีการกระจายผู้ชุมนุมไปตามพื้นที่ต่างๆ แล้วประกาศตามจะไม่ทัน เพราะกฎหมายนี้เป็นลักษณะของกฎหมายในเชิงป้องกัน ไม่ใช่พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายที่ทำไว้เพื่อป้องกัน และทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการจัดการในเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนข้อกำหนดรายละเอียดต่างๆ จะออกมาในวันนี้ (24 พ.ย.)
เมื่อถามต่อว่า เป็นไปหรือที่นายกฯจะไม่เดินทางไปด้วยตัวเอง แต่วีดิโอคอนเฟอร์เรนต์ไป นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดกันถึงขั้นนั้น ตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังดูรายละเอียดของตัวงาน เช่น เดิมจะมีทั้ง รมว.มหาดไทย รมว.พาณิชย์ และนายกรัฐมนตรี แต่ไปคนละช่วงเวลา ซึ่งบริหารจัดการยาก จะมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการหรือไม่อย่างไรอย่างนี้เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่คนเสื้อแดงมาชุมนุมกัน ฝ่ายข่าวหรือฝ่ายความมั่นคงได้มีการประเมินสถานการณ์ไว้อย่างไร โดยเฉพาะจำนวนตัวเลขของผู้ชุมนุม มีจำนวนนับล้านตามที่แกนนำเสื้อแดงประกาศไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีความเคลื่อนไหวในภูมิภาคต่างๆ ที่จะระดมคนเข้ามา แต่จะเข้ามาเท่าไร คงตอบยาก แต่ตัวเลข 1 ล้านเป็นตัวเลขที่สูงมาก เมื่อถามว่า ในส่วนที่มีข่าวว่าจะมีคนต่างด้าวร่วมการชุมนุมด้วยนั้น มีความชัดเจนอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในบางพื้นที่มีข่าวความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้อยู่ ซึ่งทางกระทรวงแรงงาน ได้เข้มงวดกวดขันอยู่ในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะอธิบายอย่างไรให้สังคมเข้าใจกับข้อครหาที่มองว่ารัฐบาล 2 มาตรฐาน เหลืองมาไม่ประกาศ แดงมาประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการชุมนุม และข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ มันแตกต่างกัน หากกลุ่มอื่นๆ ที่มาเคลื่อนไหวมีข่าวหรือมีการประกาศ หรือมีการพูดกันภายในว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ก็คงต้องประกาศเหมือนกัน ไม่มีความแตกต่างๆ ไม่ได้ดูว่ากลุ่มไหน ที่ดูจากการข่าวรายงานว่า จะมีความเคลื่อนไหวจะทำอะไร และความจริงถ้าพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ มันมีการทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนอยู่แล้วคือ ไปชักชวนหรือไปปลุกระดมให้มีการใช้ความรุนแรง
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลควรจะทำอะไรที่สุขุมรอบคอบมากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นลักษณะของการท้าทายตลอดเวลา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ท้าทาย รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงมาทุกครั้ง ไม่ได้ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของใครเลย แต่สามารถบริหารจัดการให้สถานการณ์ของการชุมนุมผ่านพ้นไปได้ด้วยดี 3-4 ครั้ง อันนี้คือความรอบคอบ และไม่ได้เป็นเรื่องของการท้าทาย ส่วนใครจะไปปลุกระดมว่า ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแล้ว ไปเป็นการละเมิดสิทธิก็ขอให้ย้อนกลับไปดูว่า การประกาศกฎหมายความมั่นคงไม่ได้ห้ามการชุมนุม เพียงแต่ให้อำนาจของเจ้าหน้าที่และการบริหารจัดการสถานการณ์ได้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีการประกาศมาแล้วหลายครั้งได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ ผลเป็นอย่างไร และใช้งบประมาณไปแล้วเท่าไร คุ้มไหม นายกฯ กล่าวว่า มี ตนได้ส่งรายงานให้ทางสภาพัฒน์ฯ ไปทำแผน ถามว่าใช้งบประมาณไหม จริงๆ แล้วประกาศไม่ประกาศการระดมกำลังเจ้าหน้าที่มา ก็ใช้น้ำมันทั้งสิ้น เมื่อถามย้ำว่าคุ้มไหม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมืองได้มันก็ต้องคุ้ม ถ้าเขาคิดว่าไม่สงบเรียบร้อยอะไรจะเกิดขึ้น เวลาเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบแต่ละครั้ง กระทบกระเทือนรุนแรงมากกว่าค่าใช้จ่ายหลายเท่าตัว ถามว่ารัฐบาลอยากใช้เงินเพื่อเรื่องเหล่านี้ไหม ก็ไม่ได้อยากใช้ แต่เมื่อมีเหตุการณ์จำเป็นที่ต้องใช้เป็นหน้าที่ก็ต้องทำ
เมื่อถามว่า การประกาศทั่วกรุงเทพฯ จะต้องใช้เจ้าหน้าที่เท่าไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กำลังคงไม่ได้เพิ่มเติมมากมาย เพียงแต่เป็นความคล่องตัวในเวลาที่จำเป็นต้องใช้มาตรการในการตรวจสอบเรื่องความเคลื่อนไหวต่างๆ