วิป รบ.สรุปผลงานในรอบ 10 เดือน พร้อมเร่งแก้ไขปัญหากรณีสภาล่ม ยันล่มไปแล้ว 10 โดยปรับปรุงข้อบังคับ กรณีหากยังนั่งอยู่ในห้องประชุมจะต้องนับเป็นองค์ประชุม ไม่เช่นนั้นผู้ที่นั่งอยู่ในองค์ประชุมจะไม่มีสิทธิ์ในการอภิปราย หรือประท้วง
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) แถลงผลการประชุมวิป ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้มีการสรุปการทำงานของวิปรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2552 ถึงสมัยสามัญนิติบัญญัติที่จะปิดประชุมในวันที่ 29 พ.ย.2552 วิปรัฐบาลได้สรุปผลงานในรอบ 10 เดือน มีการประชุม 71 ครั้ง มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ในขั้นตอนต่างๆ และพระราชกำหนดรวม 80 ฉบับ แยกเป็น ร่างพระราชบัญญัติที่รับหลักการแล้ว 27 ฉบับ ร่างพระราชบัญญัติที่สภาให้ความเห็นชอบในวาระ 2 และ วาระ 3 ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 27 ฉบับ, ร่างพระราชบัญญัติที่ตั้งกรรมาธิการร่วมกันจำนวน 5 ฉบับ, ร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ระหว่างการดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย จำนวน 18 ฉบับ และมีการอนุมัติพระราชกำหนดของคณะรัฐมนตรี 30 ฉบับ รวม 80 ฉบับ
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบหนังสือสำคัญ ข้อสัญญาที่ ครม.จะต้องขอความเห็นชอบจากสภาตามมาตรา 190 โดยจะต้องมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้ผ่านความเห็นชอบรวม 67 ฉบับ อย่างไรก็ตาม วิปรัฐบาลยังได้ทำหน้าที่ในการประสานงานเพื่อให้ การทำงานด้านนิติบัญญัติเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในสมัยประชุมที่ผ่านมา ได้ขอความร่วมมือให้รัฐบาลในการถ่ายทอดสดในการตั้งกระทู้ถามสดในสภาฯมีทั้งหมด 62 เรื่อง โดยแยกเป็นการถามนายกฯ 43 เรื่องและถามรมต.คนอื่นๆ 19 เรื่อง
นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในการประชุมสภาที่ไม่ครบองค์ประชุม หรือที่เรียกว่า สภาล่มนั้นมีจำนวนรวม 10 ครั้ง โดย 6 ครั้งนั้น มีสาเหตุที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับให้มีการแสดงตนในที่ประชุมโดยการเสียบบัตรนั้น ทางวิปเห็นว่าควรมีมาตรการแก้ไข ด้วยการปรับปรุงข้อบังคับ และอาจจะมีการตกลงว่า หากยังนั่งอยู่ในห้องประชุมจะต้องนับเป็นองค์ประชุม ไม่เช่นนั้นผู้ที่นั่งอยู่ในองค์ประชุมจะไม่มีสิทธิ์ในการอภิปราย หรือประท้วง เพราะถือว่าไม่ได้เข้าร่วมองค์ประชุม ส่วนกรณีที่สมาชิกลาหรือขาด นั้นเรื่องนี้ทางวิปได้ตระหนัก และยอมรับความเป็นจริงที่จะต้องมีการปรับปรุงให้ความรับผิดชอบในเรื่ององค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน และต้องแสดงออกถึงความพร้อมเพรียง