โฆษกปชป. แนะ “แขมร์ทักษิณ-แขมร์จิ๋ว” และพรรคเพื่อเขมร หุบปากเสียที หวั่นกระทบแผนยื่นขอประกันตัวศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุม ตั้งข้อสังเกต “นพเหล่”รู้ข้อมูลดีประหนึ่งสมคบคิดเขมรใส่ร้ายคนไทย
วันนี้(21 พ.ย.)นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้ล้วงรู้ว่าจะมีหลักฐานข้อมูลไดที่จะไปปรากฎในศาลของกัมพูชา ในคดีที่นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าโขมยข้อมูลฐานการบิน แสดงถึงข้อพิรุธ เป็นอย่างยิ่งว่า นายนพดล ได้ล้วงรู้ข้อมูลดังกล่าวได้อย่างไร สอดคล้องกับที่ นายจตุพร ออกมาระบุเกี่ยวกับคลิปเสียง สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายฝ่ายคิดว่า เป็นการสมคบคิดร่วมกัน เพื่อที่จะทำร้ายคนไทยและให้ร้ายประเทศไทยหรือไม่ เพราะคำพูดที่ผ่านคนเหล่านี้ถือเป็นการพูดแทนรัฐบาลกัมพูชาทั้งสิ้นไม่มีส่วนใดที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและประเทศไทยแม้ตาน้อย และถ้านายนพดลสามารถพูดแทนรัฐบาลกัมพูชาได้จริง ก็มีคำแนะนำว่าควรแนะนำรัฐบาลกัมพูชายกเลิกคำสั่งแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจกัมพูชา เพราะว่าสิ่งนี้ต่างหากที่เป็นสาเหตุที่แท้จริงของความขัดแย่งระหร่างไทย-กัมพูชา ส่วนกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่าจะมีการยกเลิกสัมปทานของบริษัท CATS กรณีนี้ทางพรรคไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า มีการดำเนินการไปถึงจุดไหน แต่ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการเอาประโยชน์ส่วนรวมทั้ง2 ประเทศเข้าแลกกับประโยชน์ส่วนตัว พร้อมทั้งสร้างความขัดแย้งโดยการดึงประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาแทรกแซงกิจการประเทศไทย ทั้งที่สัมปทานที่มีปัญหา พรรคเห็นว่าควรจะเป็นสัมปทานเกาะกงเวลา 99 ปี ของพ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่า
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าปัฐหาการจับกุมตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยของบริษัท CATS ว่า พรรครู้สึกเป็นห่วงและกังวล ต่อผลกระทบต่อธุรกิจของคนไทย และผลกระทบต่อความมั่นใจของคนทั้ง 2 ประเทศ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วยนายศิว ทั้งนี้ ตนขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัว สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ต้องไม่แสดงหรือทำตัวให้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามากยิ่งขึ้น เช่น กรณีที่ให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนออกมายืนยันโยการบิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริงว่า นายศิวรักษ์กระทำผิดเข้าข่ายโจรกรรมข้อมูล หรือ การที่ให้นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. ออกมาขยายวงสร้างข่าวเท็จจริงโดยบิดเบือนแอบอ้างว่า มีเทปเสียงที่อัดถึงสั่งการของรมว.การต่างประเทศไทยสั่งให้ทำ ทั้งที่ไม่ใช่ความจริง ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาอุปสรรคทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้น
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ต่อกรณีที่รัฐบาลได้ริเริ่มการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไว้ ในวาระประชาชน เมื่อวันที่ 19 พ.ย ซึ่งถือว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ที่ผ่านมามีทีมเศรษฐกิจพรรเพื่อไทย โดยนายสุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง และนายปานปรี พหิทธานุกร ออกมาอ้างว่าในอดีตตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ก็เคยทำเหมือนกันแต่เวลาหมดซะก่อน ถ้าเวลามากกว่านี้ก็จะสามารถทำให้คนไทยทั้งประเทศปลดหนี้และหมดความยากจน ตนขอเรียนว่ารัฐบาลของพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องมาถึงพรรคเพื่อไทยมีเวลาถึง 3 รัฐบาลในการดำเนินการ แต่ผลที่เกิดขึ้นก็คือการสร้างหนี้สินภาคครัวเรือนให้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากและสูงที่สุดในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นกรณี้ถึงจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรจากพรรคเพื่อไทยรัฐบาล ก็ยืนยันว่าจะสนับสนุนและดำเนินการนโยบายปลดหนี้นอกระบบต่อไป และพรรคก็สนับสนุนให้มีการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งถือว่ามีสำคตัญที่สุดของพี่น้องประชาชน