เคาะข่าวริมโขง : "เสธ.แดง" แหล โลโก้ "นักรบพระเจ้าตาก" ติดอยู่ทนโท่ มีหน้าแก้ตัว "เสธ.แดง2" โดนแฉเป็นพวกปากกล้าขาสั่น ชอบสร้างภาพให้คนอื่นเชื่อเป็นนักรบ แต่ที่แท้นิสัยรังแกคนไม่มีทางสู้ กระชากหน้ากาก "แม่ศิวรักษ์" ตัวจริงเป็นแกนนำเสื้อแดงโคราช ดอดผสมโรงเล่นละครปาหี่ ดัน "นช.แม้ว" สวมบทฮีโร่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน โดยมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์
นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายปฏินันท์ สันติเมทนีดล สื่อมวลชนอาวุโส มาร่วมพูดคุยถึงหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชักธงรบ หากรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ล้มจะไม่เลิกชุมนุม
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ก่อนที่จะไปสู่ประเด็นกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมแบบแตกหัก ขอนำเข้าสู่กรณี เสธ.แดง ออกมาปฏิเสธว่า บุคคลที่อยู่ภาพที่ไปกอดและจับมือกับทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ใช่ตนเอง โดยเป็นแค่คนหน้าเหมือน เพราะถ้าหากตนข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านจริง ฝ่ายความมั่นคงหรือด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ต้องจับได้
นายโสภณ กล่าวประเด็นนี้ ว่า เมื่อทุกคนเห็นภาพก็เชื่อได้ว่า ต้องคิดว่าเป็น เสธ.แดง แต่การที่นายทหารยศระดับนายพลออกมาปฏิเสธเช่นนี้ ตนคิดว่ากองทัพน่าจะมีปัญหา ที่ปล่อยให้คนเช่นนี้รับราชการอยู่ หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่า บุคคลในภาพเป็นคนกัมพูชาแต่เผอิญดันไปหน้าเหมือน เสธ.แดง เอง ความจริงไม่น่าปฏิเสธ เพราะหลักฐานคือภาพถ่ายปรากฏชัดเจนในเว็บไซต์ส่วนตัวของ เสธ.แดง
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า เสธ.แดง ไม่มีสิทธิ์ออกมาปฏิเสธ เพราะบุคคลในภาพ สวมใส่เสื้อที่ปักหน้าอกคำว่า ทหารพระเจ้าตาก ดังนั้น แสดงได้ชัดว่าเป็น เสธ.แดงตัวจริง ไม่ได้เป็นแค่คนหน้าเหมือน หรือต่อไป เสธ.แดง จะออกมาบอกว่า แม้แต่เสื้อพระเจ้าตากยังเป็นแค่เสื้อเหมือนกันอีกหรือไม่
นายอมรเทพ กล่าวว่า ตนอยากนำเสนอบุคลิกและธาตุแท้ของ เสธ.แดง ว่าเป็นคนมีนิสัยใจคออย่างไร ซึ่งมีภาพคลิปวิดีโอตอนเข้าจับกุมสมัยที่ เสธ.แดง มีเรื่องกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช ตอนที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จะเห็นภาพปรากฏชัดเจนว่า เสธ.แดง ผู้ที่เคยสร้างภาพเป็นนักรบ กลับหน้าถูกสี เสียงสั่น ตอนที่ถูกตำรวจเข้าจับกุม สิ่งเหล่านี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงความกล้าหาญในตัวของนายทหารยศชั้นนายพลผู้นี้ โดยมีคนเคยบอกกับตนเองว่า คนอย่าง เสธ.แดง ชอบทำร้ายแต่คนไม่มีทางสู้ เพราะถ้าสู้ตัวต่อตัวจะไม่กล้า เนื่องจากใจไม่ถึง
นายโสภณ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เหตุการณ์ในคลิปวิดีโอดังกล่าว เกือบเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะ เสธ.แดง ได้แต่งชุดพรางรบ นำกำลังทหารไม่ทราบฝ่าย ไปเดินซื้ออาวุธแถวพาหุรัด ซึ่งต่อมามีเด็กคนหนึ่งวิ่งถือหนังสือพิมพ์มาถามเรื่องราวที่ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการจับกุมวิศวกรไทย โดยเสธ.แดง กล่าวตอบว่ามันเป็นแค่ละครที่จัดทำขึ้น และเป็นเกมที่กำหนดไว้แล้ว ทั้งนี้ การปรากฏตัวของ เสธ.แดง และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ทำให้เกิดความหวาดกลัว จึงโทรแจ้งตำรวจ แต่ทางด้าน เสธ.แดง รู้ตัวเสียก่อน ได้รีบเพ่นหนีเลยไม่ได้ดูสีหน้าซีดเซียวตอนโดนตำรวจจับอีกครั้ง
นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า เสธ.แดง ถือเป็นจุดสะท้อนในกองทัพให้เห็นถึงความเสื่อม การที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ แต่กลับไม่มีบทบาท มีอำนาจในมือ แต่ขณะเดียวกัน มีนายทหารยศนายพล ทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย เดินทางเข้าและออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถือว่าผิดกฏหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครในกองทัพ ที่สามารถจัดการหรือเอาผิด เสธ.แดง ได้ ดังนั้น กองทัพจะมีความหมายอะไร
นายโสภณ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ดูคลิปที่ เสธ.แดง หน้าถอดสีตอนโดนจับกุมตัวไปแล้ว ตอนนี้ มาดูคลิปตอนที่ เสธ.แดง ไปปราศรัยให้กลุ่มคนเสื้อแดงฟังที่ต่างจังหวัด โดยมีการด่าทอ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก อย่างโจ่งครึ่ม แต่พอตอนหลังมารู้ว่า มีการถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วก็ถึงกลับหน้าเสีย กลัว พล.อ.อนุพงษ์ จะรู้เรื่อง
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่กล้าจัดการคนอย่าง เสธ.แดง อาจเป็นไปได้ว่า เป็นผู้กุมความลับบางอย่างของ พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประวิตร ไว้
ช่วงต่อมา นายชัชวาลย์ กล่าวถึงกรณี ละครปาหี่ที่ทางกัมพูชา สร้างสถานการณ์จับกุมวิศวกรไทย เพื่อสร้างบทบาทใหม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฮีโร่ ซึ่งเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบหมายให้ไปดำเนินการเรื่องดังกล่าว แต่ทาง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนและแกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีคลิปเสียงที่ นายกษิต และนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก สั่งการให้ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยประจำหน่วยงานจราจรทางอากาศกัมพูชา ไปนำข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้กับทางการไทย
นายอมรเทพ กล่าวว่า ละครเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้น โดยแท้จริงแล้ว มารดาของวิศวกรไทยที่ถูกจับกุมตัวไปเป็นแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเคยเป็นผู้เกณฑ์คนอีสานให้ไปร่วมชุมนุมคนเสื้อแดงในหลายครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ละครเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการชู พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สวมบทฮีโร่ในการช่วยเหลือคนไทย อีกนัยหนึ่ง ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุนเซน ก็ต้องการสร้างความระส่ำระส่ายให้แก่รัฐบาลไทย รวมทั้ง ยั่วยุ นายอภิสิทธิ์ ให้เดินเกมตอบโต้กัมพูชาขั้นเด็ดขาด เพื่อที่จะสร้างเหตุผลให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในการบีบเกมในประเทศรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ อีกครั้งนี้
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลไทย ควรตอบโต้กัมพูชาด้วยความเฉียบขาด แต่ต้องไม่ไปเล่นตามเกมฝ่ายตรงข้าม โดยถ้าหากให้ตนแนะนำเห็นว่าสมควรประกาศว่าจะส่งแรงงานกัมพูชาที่มาพักพิงในประเทศไทย กลับประเทศให้หมด ทั้งนี้ ต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่มีความหวังดีกับประเทศไทย และบอกกล่าวสิ่งที่ผู้นำกัมพูชา ร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อก่อความวุ่นวาย
นายปฏินันท์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้อ่านคำสัมภาษณ์ของ รศ.ดรไชยันต์ ชัยพร หัวหน้าภาควิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความชั่วช้าเกินจินตนาการ เพราะไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เป้าหมายตนเองบรรลุ โดยเอาประเทศและประชาชนเป็นตัวประกัน ในการทำให้ตัวเองได้เงินจำนวน 76,000 ล้านบาท ที่ถูกยึดคืน รวมทั้ง ต้องการลบล้างความผิดและกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้ ได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยกับกัมพูชาให้ย่อยยับลงในพริบตา สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นการกระทำที่เดินเกมแบบผิดๆ คือเหมือนการฆ่าตัวตายทางอ้อม เพราะการกระทำดังกล่าว มีแต่คนตราหน้าว่าหมดความสง่างาม
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น ได้เขียนบทความผ่านคอลัมน์"กาแฟดำ" หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และเว็บบล็อกโอเคเนชั่น ในการวิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นผู้ร้าย แต่กลับไปอยากเล่นบทพระเอก ด้วยการทำท่าโทรขอร้อง สมเด็จฯ ฮุนเซน ให้ปล่อยตัววิศวกรไทย ทั้งที่ เรื่องนี้เป็นแค่ละครที่แต่งขึ้น หากใครเชื่อก็ถือว่าเสียสติ
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ที่นายสุทธิชัย หยุ่น วิพากษ์วิจารณ์เช่นนั้น โดยออกมาตอบโต้ผ่านเว็บไซต์ทวิสเตอร์ว่า นายสุทธิชัย กำลังมีความสุดีขกับสิ่งที่ได้รับจากการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ปี 49 จนมาถึงปัจจุบัน แต่ตนไม่ว่าอะไรที่ นายสุทธิชัย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็ขอให้จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
นายปฏินันท์ กล่าวว่า ตอนนี้ ทางฝ่ายกัมพูชา กำลังเดินเกมหลายด้านไปพร้อมๆกัน คือ แผนการจับกุมวิศวกรไทย เพื่อสร้างบทบาทพระเอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบางทีอาจต้องการฟื้นสัมพันธ์กับไทย เพื่อบีบให้เปิดการเจรจา เพราะหลังเกิดความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ รัฐบาลไทยประกาศทบทวนความสัมพันธ์และความช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ว่าการให้ทุนการศึกษา หรือความการเกื้อหนุนด้านเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ อาจจะไปสร้างปัญหาให้แก่ สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ครอบครองธุรกิจส่วนใหญ่ในกัมพูชา
นายโสภณ กล่าวเสริมว่า เวลานี้ นอกจาก สมเด็จฯ ฮุนเซน ทำตัวเป็นทรราชติดไซเรน ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ยังมีหน้าไปเชิญชวนประเทศอื่นๆ ให้มาร่วมกันต่อต้านอาญชากรในทวีปเอเซีย ทั้งที่ ตัวเองเพิ่งรับและออกมาปกป้องทรราชประเทศไทยอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ
นายอมรเทพ กล่าวว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน มีนิสัยเป็นคนทรยศและชอบครอบครองอำนาจ ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงบางคนที่ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยจริงๆ ต้องกลับมาทบทวนตัวเอง เพราะหลังไปร่วมมือด้วย เกิดคำถามที่ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยให้แก่คนเสื้อแดงมาตลอด ไปสมคบกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่มีความคิดเผด็จการอำนาจ และทำตัวเป็นอำมาตย์ตลอดเวลา แบบนี้ แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวความคิดเช่นเดียวกับทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ต้องการยึดอำนาจทุกอย่างในประเทศไว้กับตัวเอง
นายปฏินันท์ กล่าวว่า ใครๆก็ทราบว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน เติบโตเป็นใหญ่มาได้จากการทรยศหักหลังเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เพื่อเปิดประตูให้ประเทศอื่นทำร้ายประเทศตัวเอง ซึ่งก็สอดคล้องกับเวลานี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามใช้กองกำลังกัมพูชา มาก่อการร้ายในประเทศไทย โดยนิสัยเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าคนที่จะคบกันเป็นเพื่อนได้ ต้องมีนิสัยใจคอเหมือนกัน ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ต่างอะไรกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะโกงบ้านโกงเมือง และล้มล้างสถาบันเหมือนกัน
นายอมรเทพ กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ เรียกได้ว่ามาสู่สงครามครั้งสุดท้ายและช่วงสุดท้าย เพราะทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยธาตุแท้ใต้หน้ากากหมดแล้วว่า ไม่ต้องการสถาบัน ดังนั้น การเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นสงคราม ที่มีแต่มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วน ไม่รู้เท่าทันสถานการณ์ จึงตกเป็นเครื่องมือของแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งตนอยากจะเตือนว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นความอยากได้เงินจำนวน 76,000 ล้านบาทที่ถูกยึดคืน ก่อนที่เร็วๆ นี้ศาลจะตัดสินคดียึดเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะสูญเงินก้อนโตจำนวนนี้ จึงต้องเผด็จศึกรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ให้ได้ก่อนปีใหม่ แต่สิ่งที่น่ากลัวและน่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ พวกกลุ่มคนเสื้อแดงหัวรุนแรง ที่อาจจะใช้ความรุนแรงก่อเหตุร้ายให้กับบ้านเมือง โดยเวลานี้ ออกมาประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอุปสรรคสำคัญ จึงจะยึดวันที่ 30 พ.ย.นี้ เป็นวันดีเดย์ในการปิดเมือง ทำให้เป็นเหตุผลที่ทำไมแกนนำคนเสื้อแดงต้องเลื่อนการชุมนุมให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อทำการเดินเกมอุ่นเครื่องในวันที่ 28-29 พ.ย. ก่อนที่จะถึงวันเผด็จศึก ทั้งนี้ สำหรับตนแล้วคิดว่า หากทำเช่นนั้นเป็นการปิดเกมตัวเองให้จบลงมากกว่า
นายโสภณ กล่าวเสริมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้คนไทยได้เห็นถึงธาตุแท้ในตัวคนของหลายๆคน ที่เคยสร้างภาพว่าเป็นคนดี ดังนั้น ตนขอบอกว่า หากใครเป็นคนดี ต้องไม่ตกเป็นทาสรับใช้และทาสเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถ้าหากใครคบค้ากับบุคคลผู้นี้ ถือว่าไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน โดยมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์
นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายปฏินันท์ สันติเมทนีดล สื่อมวลชนอาวุโส มาร่วมพูดคุยถึงหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชักธงรบ หากรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ล้มจะไม่เลิกชุมนุม
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ก่อนที่จะไปสู่ประเด็นกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมแบบแตกหัก ขอนำเข้าสู่กรณี เสธ.แดง ออกมาปฏิเสธว่า บุคคลที่อยู่ภาพที่ไปกอดและจับมือกับทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ใช่ตนเอง โดยเป็นแค่คนหน้าเหมือน เพราะถ้าหากตนข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านจริง ฝ่ายความมั่นคงหรือด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ต้องจับได้
นายโสภณ กล่าวประเด็นนี้ ว่า เมื่อทุกคนเห็นภาพก็เชื่อได้ว่า ต้องคิดว่าเป็น เสธ.แดง แต่การที่นายทหารยศระดับนายพลออกมาปฏิเสธเช่นนี้ ตนคิดว่ากองทัพน่าจะมีปัญหา ที่ปล่อยให้คนเช่นนี้รับราชการอยู่ หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่า บุคคลในภาพเป็นคนกัมพูชาแต่เผอิญดันไปหน้าเหมือน เสธ.แดง เอง ความจริงไม่น่าปฏิเสธ เพราะหลักฐานคือภาพถ่ายปรากฏชัดเจนในเว็บไซต์ส่วนตัวของ เสธ.แดง
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า เสธ.แดง ไม่มีสิทธิ์ออกมาปฏิเสธ เพราะบุคคลในภาพ สวมใส่เสื้อที่ปักหน้าอกคำว่า ทหารพระเจ้าตาก ดังนั้น แสดงได้ชัดว่าเป็น เสธ.แดงตัวจริง ไม่ได้เป็นแค่คนหน้าเหมือน หรือต่อไป เสธ.แดง จะออกมาบอกว่า แม้แต่เสื้อพระเจ้าตากยังเป็นแค่เสื้อเหมือนกันอีกหรือไม่
นายอมรเทพ กล่าวว่า ตนอยากนำเสนอบุคลิกและธาตุแท้ของ เสธ.แดง ว่าเป็นคนมีนิสัยใจคออย่างไร ซึ่งมีภาพคลิปวิดีโอตอนเข้าจับกุมสมัยที่ เสธ.แดง มีเรื่องกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช ตอนที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จะเห็นภาพปรากฏชัดเจนว่า เสธ.แดง ผู้ที่เคยสร้างภาพเป็นนักรบ กลับหน้าถูกสี เสียงสั่น ตอนที่ถูกตำรวจเข้าจับกุม สิ่งเหล่านี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงความกล้าหาญในตัวของนายทหารยศชั้นนายพลผู้นี้ โดยมีคนเคยบอกกับตนเองว่า คนอย่าง เสธ.แดง ชอบทำร้ายแต่คนไม่มีทางสู้ เพราะถ้าสู้ตัวต่อตัวจะไม่กล้า เนื่องจากใจไม่ถึง
นายโสภณ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เหตุการณ์ในคลิปวิดีโอดังกล่าว เกือบเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะ เสธ.แดง ได้แต่งชุดพรางรบ นำกำลังทหารไม่ทราบฝ่าย ไปเดินซื้ออาวุธแถวพาหุรัด ซึ่งต่อมามีเด็กคนหนึ่งวิ่งถือหนังสือพิมพ์มาถามเรื่องราวที่ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการจับกุมวิศวกรไทย โดยเสธ.แดง กล่าวตอบว่ามันเป็นแค่ละครที่จัดทำขึ้น และเป็นเกมที่กำหนดไว้แล้ว ทั้งนี้ การปรากฏตัวของ เสธ.แดง และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ทำให้เกิดความหวาดกลัว จึงโทรแจ้งตำรวจ แต่ทางด้าน เสธ.แดง รู้ตัวเสียก่อน ได้รีบเพ่นหนีเลยไม่ได้ดูสีหน้าซีดเซียวตอนโดนตำรวจจับอีกครั้ง
นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า เสธ.แดง ถือเป็นจุดสะท้อนในกองทัพให้เห็นถึงความเสื่อม การที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ แต่กลับไม่มีบทบาท มีอำนาจในมือ แต่ขณะเดียวกัน มีนายทหารยศนายพล ทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย เดินทางเข้าและออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถือว่าผิดกฏหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครในกองทัพ ที่สามารถจัดการหรือเอาผิด เสธ.แดง ได้ ดังนั้น กองทัพจะมีความหมายอะไร
นายโสภณ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ดูคลิปที่ เสธ.แดง หน้าถอดสีตอนโดนจับกุมตัวไปแล้ว ตอนนี้ มาดูคลิปตอนที่ เสธ.แดง ไปปราศรัยให้กลุ่มคนเสื้อแดงฟังที่ต่างจังหวัด โดยมีการด่าทอ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก อย่างโจ่งครึ่ม แต่พอตอนหลังมารู้ว่า มีการถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วก็ถึงกลับหน้าเสีย กลัว พล.อ.อนุพงษ์ จะรู้เรื่อง
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่กล้าจัดการคนอย่าง เสธ.แดง อาจเป็นไปได้ว่า เป็นผู้กุมความลับบางอย่างของ พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประวิตร ไว้
ช่วงต่อมา นายชัชวาลย์ กล่าวถึงกรณี ละครปาหี่ที่ทางกัมพูชา สร้างสถานการณ์จับกุมวิศวกรไทย เพื่อสร้างบทบาทใหม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฮีโร่ ซึ่งเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบหมายให้ไปดำเนินการเรื่องดังกล่าว แต่ทาง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนและแกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีคลิปเสียงที่ นายกษิต และนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก สั่งการให้ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยประจำหน่วยงานจราจรทางอากาศกัมพูชา ไปนำข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้กับทางการไทย
นายอมรเทพ กล่าวว่า ละครเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้น โดยแท้จริงแล้ว มารดาของวิศวกรไทยที่ถูกจับกุมตัวไปเป็นแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเคยเป็นผู้เกณฑ์คนอีสานให้ไปร่วมชุมนุมคนเสื้อแดงในหลายครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ละครเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการชู พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สวมบทฮีโร่ในการช่วยเหลือคนไทย อีกนัยหนึ่ง ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุนเซน ก็ต้องการสร้างความระส่ำระส่ายให้แก่รัฐบาลไทย รวมทั้ง ยั่วยุ นายอภิสิทธิ์ ให้เดินเกมตอบโต้กัมพูชาขั้นเด็ดขาด เพื่อที่จะสร้างเหตุผลให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในการบีบเกมในประเทศรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ อีกครั้งนี้
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลไทย ควรตอบโต้กัมพูชาด้วยความเฉียบขาด แต่ต้องไม่ไปเล่นตามเกมฝ่ายตรงข้าม โดยถ้าหากให้ตนแนะนำเห็นว่าสมควรประกาศว่าจะส่งแรงงานกัมพูชาที่มาพักพิงในประเทศไทย กลับประเทศให้หมด ทั้งนี้ ต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่มีความหวังดีกับประเทศไทย และบอกกล่าวสิ่งที่ผู้นำกัมพูชา ร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อก่อความวุ่นวาย
นายปฏินันท์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้อ่านคำสัมภาษณ์ของ รศ.ดรไชยันต์ ชัยพร หัวหน้าภาควิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความชั่วช้าเกินจินตนาการ เพราะไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เป้าหมายตนเองบรรลุ โดยเอาประเทศและประชาชนเป็นตัวประกัน ในการทำให้ตัวเองได้เงินจำนวน 76,000 ล้านบาท ที่ถูกยึดคืน รวมทั้ง ต้องการลบล้างความผิดและกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้ ได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยกับกัมพูชาให้ย่อยยับลงในพริบตา สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นการกระทำที่เดินเกมแบบผิดๆ คือเหมือนการฆ่าตัวตายทางอ้อม เพราะการกระทำดังกล่าว มีแต่คนตราหน้าว่าหมดความสง่างาม
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น ได้เขียนบทความผ่านคอลัมน์"กาแฟดำ" หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และเว็บบล็อกโอเคเนชั่น ในการวิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นผู้ร้าย แต่กลับไปอยากเล่นบทพระเอก ด้วยการทำท่าโทรขอร้อง สมเด็จฯ ฮุนเซน ให้ปล่อยตัววิศวกรไทย ทั้งที่ เรื่องนี้เป็นแค่ละครที่แต่งขึ้น หากใครเชื่อก็ถือว่าเสียสติ
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ที่นายสุทธิชัย หยุ่น วิพากษ์วิจารณ์เช่นนั้น โดยออกมาตอบโต้ผ่านเว็บไซต์ทวิสเตอร์ว่า นายสุทธิชัย กำลังมีความสุดีขกับสิ่งที่ได้รับจากการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ปี 49 จนมาถึงปัจจุบัน แต่ตนไม่ว่าอะไรที่ นายสุทธิชัย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็ขอให้จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
นายปฏินันท์ กล่าวว่า ตอนนี้ ทางฝ่ายกัมพูชา กำลังเดินเกมหลายด้านไปพร้อมๆกัน คือ แผนการจับกุมวิศวกรไทย เพื่อสร้างบทบาทพระเอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบางทีอาจต้องการฟื้นสัมพันธ์กับไทย เพื่อบีบให้เปิดการเจรจา เพราะหลังเกิดความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ รัฐบาลไทยประกาศทบทวนความสัมพันธ์และความช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ว่าการให้ทุนการศึกษา หรือความการเกื้อหนุนด้านเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ อาจจะไปสร้างปัญหาให้แก่ สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ครอบครองธุรกิจส่วนใหญ่ในกัมพูชา
นายโสภณ กล่าวเสริมว่า เวลานี้ นอกจาก สมเด็จฯ ฮุนเซน ทำตัวเป็นทรราชติดไซเรน ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ยังมีหน้าไปเชิญชวนประเทศอื่นๆ ให้มาร่วมกันต่อต้านอาญชากรในทวีปเอเซีย ทั้งที่ ตัวเองเพิ่งรับและออกมาปกป้องทรราชประเทศไทยอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ
นายอมรเทพ กล่าวว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน มีนิสัยเป็นคนทรยศและชอบครอบครองอำนาจ ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงบางคนที่ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยจริงๆ ต้องกลับมาทบทวนตัวเอง เพราะหลังไปร่วมมือด้วย เกิดคำถามที่ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยให้แก่คนเสื้อแดงมาตลอด ไปสมคบกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่มีความคิดเผด็จการอำนาจ และทำตัวเป็นอำมาตย์ตลอดเวลา แบบนี้ แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวความคิดเช่นเดียวกับทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ต้องการยึดอำนาจทุกอย่างในประเทศไว้กับตัวเอง
นายปฏินันท์ กล่าวว่า ใครๆก็ทราบว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน เติบโตเป็นใหญ่มาได้จากการทรยศหักหลังเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เพื่อเปิดประตูให้ประเทศอื่นทำร้ายประเทศตัวเอง ซึ่งก็สอดคล้องกับเวลานี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามใช้กองกำลังกัมพูชา มาก่อการร้ายในประเทศไทย โดยนิสัยเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าคนที่จะคบกันเป็นเพื่อนได้ ต้องมีนิสัยใจคอเหมือนกัน ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ต่างอะไรกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะโกงบ้านโกงเมือง และล้มล้างสถาบันเหมือนกัน
นายอมรเทพ กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ เรียกได้ว่ามาสู่สงครามครั้งสุดท้ายและช่วงสุดท้าย เพราะทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยธาตุแท้ใต้หน้ากากหมดแล้วว่า ไม่ต้องการสถาบัน ดังนั้น การเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นสงคราม ที่มีแต่มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วน ไม่รู้เท่าทันสถานการณ์ จึงตกเป็นเครื่องมือของแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งตนอยากจะเตือนว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นความอยากได้เงินจำนวน 76,000 ล้านบาทที่ถูกยึดคืน ก่อนที่เร็วๆ นี้ศาลจะตัดสินคดียึดเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะสูญเงินก้อนโตจำนวนนี้ จึงต้องเผด็จศึกรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ให้ได้ก่อนปีใหม่ แต่สิ่งที่น่ากลัวและน่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ พวกกลุ่มคนเสื้อแดงหัวรุนแรง ที่อาจจะใช้ความรุนแรงก่อเหตุร้ายให้กับบ้านเมือง โดยเวลานี้ ออกมาประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอุปสรรคสำคัญ จึงจะยึดวันที่ 30 พ.ย.นี้ เป็นวันดีเดย์ในการปิดเมือง ทำให้เป็นเหตุผลที่ทำไมแกนนำคนเสื้อแดงต้องเลื่อนการชุมนุมให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อทำการเดินเกมอุ่นเครื่องในวันที่ 28-29 พ.ย. ก่อนที่จะถึงวันเผด็จศึก ทั้งนี้ สำหรับตนแล้วคิดว่า หากทำเช่นนั้นเป็นการปิดเกมตัวเองให้จบลงมากกว่า
นายโสภณ กล่าวเสริมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้คนไทยได้เห็นถึงธาตุแท้ในตัวคนของหลายๆคน ที่เคยสร้างภาพว่าเป็นคนดี ดังนั้น ตนขอบอกว่า หากใครเป็นคนดี ต้องไม่ตกเป็นทาสรับใช้และทาสเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถ้าหากใครคบค้ากับบุคคลผู้นี้ ถือว่าไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน