xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้ายอดศึก” แฉพม่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” คนรัฐฉาน/ร้องอาเซียน-UN ช่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้ายอดศึก ผู้นำกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – “เจ้ายอดศึก” เปิดหน้าแถลงสื่อไทย/เทศ แฉพม่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนไทยใหญ่” ส่งกำลังทหารไล่สังหาร – เผาบ้านเรือนไล่ชาวบ้านพ้นพื้นที่ 39 หมู่บ้านรวด ทำให้ ปชช.เขตรัฐฉานตอนกลางเดือดร้อนนับหมื่น เร่งรวบรวมหลักฐานฟ้อง “อาเซียน-UN” พร้อมยืนยันพิจารณาเงื่อนไข-กฎหมายเลือกตั้งพม่า แต่ต้องสอดคล้อง 3 เงื่อนไข




วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ชายแดนไทย-พม่า พันเอกเจ้ายอดศึก ผู้นำกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ (SSA - Shan State Army) ,ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS) ได้นำ ร.ท.ยี่ติ๊บ ผุ้ประสานงานกองทุนช่วยเหลือรัฐฉาน อ่านแถลงการณ์ของสภาฯ ผ่านสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศหลายสำนัก กรณีที่รัฐบาลทหารพม่านำกำลังทหารเข้าคุกคามประชาชน ทั้งการทำร้ายทุบตีเข่นฆ่าประชาชน บังคับข่มขืนผู้หญิง เผาบ้านเรือน ทำลายอุปกรณ์เครื่องทำมาหากินยังชีพ และขับไล่ให้โยกย้ายออกจากถิ่นฐานเดิมในรัฐฉานตอนกลาง เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 52 นี้ 39 หมู่บ้าน 390 กว่าหลังคาเรือน ส่งผลให้มีประชาชนที่ต้องประสบภัยจากการกระทำของทหารพม่าในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน

แถลงการณ์ดังกล่าว ได้ประณามการกระทำของทหารพม่า (SPDC) ว่า เป็นการก่อการร้ายในประเทศ และเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนเชื้อสายไทยใหญ่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้จะหลายกลุ่มชาติพันธุ์ที่จับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า ทว่าก็ไม่เคยทำการเข่นฆ่าประชาชนชาวพม่าแม้แต่ครั้งเดียวโดยมองเห็นว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่รัฐบาลทหารพม่ากลับมีจิตใจโหดเหี้ยม เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องเท่านั้น แม้กระทั่งจะต้องกระทำกับผู้บริสุทธิ์

แถลงการณ์ฉบับนี้เรียกร้องให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนและสหประชาชาติ ยื่นมือเข้ามาดูแลและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยากอย่างสาหัส จากการกระทำของรัฐบาลทหารพม่า แม้ว่าจะมีนโยบายไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองภายในของพม่าก็ตาม โดยขอให้เห็นแก่ความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน ด้วยการเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาไม่ปล่อยให้รัฐบาลทหารพม่าทำการเข่นฆ่าประชาชนอีก ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ ประชาชนในรัฐฉานที่จะอพยพลี้ภัยเข้าสู่ประเทศไทยก็จะมีเพิ่มมากขึ้นอีก

พันเอกเจ้ายอดศึก ผู้นำกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ กล่าวว่า การกระทำของทหารพม่าที่เข่นฆ่าประชาชนเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม โดยไม่ได้คำนึงของความเป็นเพื่อนมนุษย์ ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้กองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จะต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่ามาตลอด 40-50 ปี แต่ไม่เคยเข่นฆ่าประชาชนชาวพม่า เพราะเคารพในความเป็นเพื่อนมนุษย์และเห็นเป็นผู้บริสุทธิ์ ในทางตรงกันข้ามทหารพม่ากลับเข่นฆ่าประชาชนในรัฐฉานโดยไม่เห็นถึงความเป็นเพื่อนมนุษย์เลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องประณาม พร้อมทั้งอยากเรียกร้องให้อาเซียนและสหประชาติ ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการหยุดยั้งการกระทำของรัฐบาลทหารพม่าที่ใช้กำลังเข้าทำร้ายประชานชนผู้บริสุทธิ์ด้วย

“การสู้รบต้องกระทำระหว่างทหารกับทหารเท่านั้น ซึ่งดอยไตแลง ฐานที่มั่นของไทยใหญ่ เราพร้อมเสมอ ทำไมทหารพม่า ไม่เข้ามา แต่กลับไปกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์แทน”
เขาบอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้พม่า ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของทหารพม่าแม้แต่น้อย ขณะที่สภาฯ ได้ใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อการช่วยเหลือรัฐฉาน เข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนครอบครัวละ 2 แสนจั๊ต ขณะที่กองทัพฯ ก็ให้การดูแลประชาชนที่ต้องหลบหนีเข้าป่าอย่างเต็มที่ด้วย

ในแถลงการณ์ฉบับเดียวกันนี้มีการระบุว่า การกระทำของทหารในลักษณะเดียวกันนี้มีเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับแต่อดีต ซึ่งทำให้มีประชาชนต้องเสียชีวิตจากการถูกเข่นฆ่าและบ้านเรือนถูกทำลายจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ระหว่าง ค.ศ.1996-1999 ทหารพม่าได้บังคับให้ประชาชนในรัฐฉานโยกย้ายถิ่น ด้วยการเผาบ้านเรือน ทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนและข่มขืนผู้หญิง

ครั้งนั้นมีบ้านเรือนเสียหาย 77,950 หลัง ผู้หญิงถูกทหารพม่าบังคับข่มขืน 248 คน และประชาชนเสียชีวิต 1,767 คน ขณะที่ระหว่าง ค.ศ.1999-2002 มีผู้หญิงถูกทหารพม่าบังคับข่มขืน 371 คน และในช่วงระหว่าง ค.ศ.2002-2005 มีประชาชนถูกทหารพม่าทำร้ายจนเสียชีวิต 142 คน ผู้หญิงถูกบังคับข่มขืน 77 คน และผู้หญิงที่ถูกข่มขืนแล้วฆ่าอีก 12 คน

พันเอกเจ้ายอดศึก กล่าวอีกว่า หลังการแถลงต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงการกระทำของทหารพม่าแล้ว RCSS จะเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อทำหนังสือร้องต่อกลุ่มประเทศอาเซียน และสหประชาชาติ อย่างเป็นทางอีกครั้ง แม้ว่าอาเซียน – UN จะยึดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศก็ตาม แต่กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยตรง

ประธานสภาเพื่อกอบกู้รัฐฉาน ยังกล่าวถึงจุดยืนของ RCSS ต่อกรณีการเลือกตั้งในพม่า ที่มีกำหนดจัดขึ้นในปีหน้า (2010) ว่า ตอนนี้เรายังไม่เห็นกฎหมายเลือกตั้งของพม่า จึงตอบชัดเจนไม่ได้ เบื้องต้นเราไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่เข้าร่วมอย่างสิ้นเชิง โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1.ต้องเป็นสหภาพพม่าอย่างแท้จริง 2.ถ้าพม่าไม่เป็นสหภาพฯอย่างแท้จริง รัฐฉานก็จะขอยู่อย่างอิสระ เป็นเอกราช 3.ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น