xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านคลองด่าน ขู่ฟ้อง ป.ป.ช. หากเล่นแง่ดองคดี “สุวัจน์” จนขาดอายุความ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกนนำชาวบ้านคลองด่าน บ่นอุบ อัยการจงใจทำให้ ขรก.เอี่ยวทุจริตคลองด่าน 8 รายพ้นผิด ลั่นเตรียมร้อง ป.ป.ช. ฟ้องอัยการชุดนี้ทั้งหมด พร้อมวอน ป.ป.ช. อย่าเล่นแง่ดองคดี “สุวัจน์” จนขาดอายุความ ด้าน “สุประวัติ” งง อัยการแยกฟ้อง “วัฒนา-ขรก.” ติง ศาลพิพากษาลงโทษ บ.เอกชน แค่ฉ้อโกงรัฐเบาไป ซึ่งน่าจะแยกเป็น ฉ้อโกงที่ดินและฉ้อโกงสัญญา



คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "รู้ทันประเทศไทย"
 

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 โดยมี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายสันติสุข มะโรงศรี เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายเฉลา ทิมทอง แกนนำชาวบ้านคลองด่าน และนายสุประวัติ ใจสมุทร ทนายความ หนึ่งในผู้รับว่าความ ในคดีทุจริต คลองด่าน มาร่วมพูดคุยถึงที่มาที่ไปของการทุจริต และแนวทางการต่อสู้กับบุคคลผู้ทุจริต คดีคลองด่าน

ดร.เจิมศักดิ์ ชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล ในเบื้องต้น ว่า นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปกว้านซื้อที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อย จากชาวบ้าน จำนวน 17 แปลง แล้วรวบรวมไปจดทะเบียนเป็นแปลงใหญ่ ค่อมทับ ถนน คลอง ป่าชายแลนและทะเล ต่อมากรมควบคุมมลพิษ ไปซื้อที่ต่อจาก นายวัฒนา และพรรคพวก โดยชี้แจงให้เห็นภาพ ดังนี้ ชาวบ้านขายที่ดิน ให้กับ บ.มารีนอินเตอร์กรุ๊ป และเหมืองแร่ลานทอง ในราคาไร่ละ 3-4 หมื่นบาท ต่อมาสองบริษัทนี้ได้ขายต่อให้ บ.ปาล์ม บีช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่ง บ.ปาล์ม บีช ได้รวมที่ดินขอโฉนดเข้าเป็นแปลงเดียวกัน แล้วมาขายต่อให้ บ.คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ ในราคาไร่ละ 2 แสน 6 หมื่นบาท จากนั้น บ.คลองด่านฯ ก็นำมาขายให้ กรมควบคุมมลพิษ ในราคาไร่ละ 1 ล้าน 3 หมื่นบาท แต่ขายบางส่วนให้คนอื่นในราคาไร่ละ 5 แสนบาท

ทั้งนี้ ตามปกติระเบียบราคาที่ดิน 1 ล้าน 3 หมื่นบาท จะต้องได้รับการประเมินจาก ธนาคารสองธนาคาร เขาก็ไปให้ธนาคารทหารไทย กับ ธนาคารมหานคร เป็นผู้ประเมินราคา เป็นที่น่าผิดสังเกต คือ ทั้งสองธนาคารนี้ไม่มีอยู่ในพื้นที่ การแอบอ้างนี้หวังให้เป็นประเด็นอ้างได้ว่า ธนาคารปฎิเสธไม่ประเมินที่ดินให้ ซึ่งจะเข้าข่ายยกเว้นไม่ต้องทำประเมินราคา ทำให้ขายแพงกว่าปกติได้ ที่สำคัญราคาที่ดิน 1 ล้าน 3 หมื่นบาท นั้น ไม่มีการสอบประวัติ ซื้อขาย เปลี่ยนมือที่ดิน อย่างไรก็ตามราคาที่ดินดังกล่าว สำนักงานที่ดินได้ประเมิน ในขณะนั้นไว้ในราคาเพี่ยงไร่ละ 4 แสน 8 หมื่นบาท

เมื่อถามว่าคดีนี้ทำไม นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดนคนเดียว คนที่ร่วมขบวนด้วยถึงไม่โดนดำเนินคดี นายเฉลา กล่าวว่าคดีนี้มีการทำข้อมูล พบผู้กระทำผิดร่วมขบวนการ จำนวน 24 คน เมื่อส่งให้ ป.ป.ช. แล้ว ป.ป.ช. ก็ไปตรวจสอบ ตัดทิ้ง 15 คน โดยให้เหตุผล ว่า ออกจากราชการเกิน สองปี ทำให้ไม่อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ส่วนที่เหลือ 1คนเป็นนักการเมือง ซึ่งก็คือ นายวัฒนา อีก 6 คน เป็นเจ้าพนักงานที่ดิน และ เจ้าพนักงานท้องถิ่น 2 คน จากนั้น ป.ป.ช. ได้ส่งให้อัยการฟ้องต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงค์ตำแหน่งทางการเมือง ตรงนี้มีข้อผิดสังเกต ปกติอัยการจะต้องส่งรายชื่อทั้งหมด 9 คน ไปยังศาลฏีกา กลับแยกฟ้อง นายวัฒนา คนเดียว ส่วนข้าราชการอีก 8 คน ได้นำไปฟ้องที่ศาลอาญา แต่ศาลอาญาไม่รับฟ้อง ขณะที่อายุความในการฟ้องร้องยังดำเนินต่อไป ทั้งนี้เมื่อศาลฎีกา พิจารณาลงโทษจำคุก นายวัฒนา 10 ปี ศาลอาญา ส่งสำนวนกลับมาให้อัยการ ไปยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา ในช่วงนี้เองที่ทำให้ข้าราชการทั้ง 8 คนรอดพ้นจากความผิด เนื่องจากอัยการทำสำนวนจนหมดอายุความ อย่างไรก็ตาม สำหรับตน มีความเห็นว่า อัยการ จงใจทุจริตต่อหน้าที่ พยายามช่วยข้าราชการทั้ง 8 คน เพราะหากยื่นฟ้อง ศาลฎีกา ทั้งหมดก็จะถูกดำเนินคดีทั้ง 9 คน มาตรการต่อไป ตนจะร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีกับอัยการชุดนี้

นายเฉลา กล่าวอีกว่าในสำนวนกล่าวหาทุจริต หนึ่งในนั้นมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในขณะนั้น ในข้อหาเสนอแผนแผนงานโครงการ โดยมิชอบ เพราะตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯ มาตรา 62 ระบุว่า เขตุพื้นที่ใดเป็นเขตุควบคุมมลพิษ ถ้าจะมีโครงการบำบัดน้ำเสีย ต้องให้ดำเนินการจัดหาที่ดินของรัฐก่อน หากจัดหาไม่ได้ให้หาที่ดินที่เหมาะสม และถ้าหากไม่ได้อีก ก็ให้ทำการเวนคืนที่ดิน แต่แผนโครงการที่นายสุวัจน์ นำเสนอให้รัฐมนตรีเห็นชอบ กำหนดให้ ให้ผู้รับเหมาร่วมจัดหาที่ดินเองด้วย ตรงนี้เมื่อสืบดู จะเห็นได้ว่า บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ได้เตรียมซื้อที่ดินไว้ล่วงหน้า แล้วยืมมือนักการเมือง เปลี่ยนระเบียบข้อบังคับ โดยให้ผู้รับเหมาร่วมหาที่ดินด้วย ทั้งนี้คดีนี้อยู่ในมือของ ป.ป.ช.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. 2538 แต่ยังไม่ได้ส่งสำนวนให้อัยการ คดีนี้จะขาดเหลืออายุความอีก 7-8 เดือน ก็ทราบว่า คดีจะขาดอายุความอีกหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากจะขอให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของภาษีจัดความเป็นธรรมให้ นายวัฒนา ด้วย ที่สร้างความเสียหายให้รัฐในเรื่องที่ดิน 2 พันล้าน และค่าความเสียหายในโครงการอีก 2 หมื่นล้าน ซึ่งขณะนี้ยังลอยนวลอยู่

นายสุประวัติ กล่าว่าหลังตนได้นำพยานเข้าสืบ พบ โฉนดที่ออกมาไม่ชอบ เนื่องจากทับที่สาธารณะ และเป็นที่ ส.ค.1 ที่อยู่ในที่อยู่ในข้อต้องห้ามในการออกโฉนด เพราะเป็นที่หวงห้าม เอาไว้สำหรับเทขยะของทางราชการ อย่างไรก็ตามคดีนี้ มีข้อน่าสงสัย ตอนฟ้องนายวัฒนา ทำไมอัยการ ถึงแยกไปฟ้องคนเดียว ถ้าดูตามกฎหมาย ป.ป.ช. ในความเห็นของตน หากฟ้องผู้ร่วมสนับสนุนรวมไปด้วย ก็น่าจะสามารถทำได้ แม้จะไม่ได้เป็นนักการเมืองก็ตามที

นายสุประวัติ กล่าอีกว่าเราได้ดำเนินการฟ้อง บ.เอกชน ฐานฉ้อโกงรัฐ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกไปแล้ว แต่ จำเลย ยังมีสิทธิอุทธรณ์คดีได้อยู่ ดังนั้นตนจะไม่พูดในข้อมูลลึกซึ้ง เพราะอาจเสียหายต่อรูปคดี ส่วนพฤติการณ์จำเลย ในคดีนี้ เมื่อตนได้นำสืบพยานต่อศาล ซึ่งศาลก็เชื่อ ตรงนี้ขอจะขอแยกเป็นสองส่วน 1.ฉ้อโกงที่ดิน ด้วยการนำที่ดินมาขายให้กรมควบคุมมลพิษ ในราคาแพง ไม่มีอะไรที่เป็นข้อสงสัยของศาล ที่ดินผืนใหญ่ 15 แปลง เป็นที่ดินหวงห้าม แม้โฉนดแล้วก็อ้างสิทธิตามกฎหมายไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ทางกรมที่ดิน ก็ได้เพิกถอนไปแล้ว 4 โฉนด ส่วนอีกกรณี 2.ฉ้อโกงสัญญา ที่ตามปกติผู้ร่วมค้า ที่จะเข้าประมูลได้จะต้องมี บริษัทผู้มีประสบการณ์ร่วมอยู่ในกลุ่มด้วย ซึ่งบริษัทผู้ร่วมค้าได้นำรายชื่อของ บริษัท นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ แจ้งอยู่ในใบรายชื่อด้วย แต่ข้อเท็จจริงบริษัทผู้เชี่ยวชาญนี้ได้ถอนตัว จากการเข้าร่วมเป็นผู้ดำเนินการแล้ว

นายเฉลา กล่าวเสริมว่า คดีในสองประเด็นนี้ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย จำคุก 3 ปี โดยเห็นว่าเป็นกรรมเดียวกัน สำหรับตนคิดว่า ศาลน่าจะเพิ่มความผิดอีกกระทงหนึ่ง เพราะจากความรู้สึกของชาวบ้านคนหนึ่ง มันแบ่งเป็นสองกรรม ด้าน นายสุประวัติ กล่าวว่าสำหรับความเห็นตน ก็ต้องแยกพิจารณา ออกเป็นสองกรรมเหมือนกัน

เมื่อถามว่าทำไมการลงโทษปรับจำเลย ในคดีนี้น้อยมาก แค่รายละ 6,000 บาท นายเฉลา กล่าวว่าคดีฉ้อโกง เป็นระวางโทษที่กำหนดอยู่ใน ประมวลกฎหมายอาญามาตรา341 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ อย่างไรก็ตามข้อพิพาทนี้ยังสามารถ ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ได้อีก
นายเฉลา ทิมทอง
นายสุประวัติ ใจสมุทร
กำลังโหลดความคิดเห็น