นายกรัฐมนตรีย้ำจำเป็นต้องลดระดับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เพราะ"ฮุนเซน"เป็นตัวปัญหาที่เห็น"นช.แม้ว" ดีกว่าผลประโยชน์ของประเทศทั้งสอง ระบุไทยปฏิบัติตามหลักสากลเพื่อตอบโต้เป็นระลอก โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและส่งผลกรทบต่อการดำรงชีวbตของปชช.ทั้งสองประเทศ ลั่นเขมตรต้องทบทวนท่าที หากจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธ์"
วันนี้ ( 15 พ.ย.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวผ่านเทปบันทึกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธ์ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ระหว่างการเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ประเทศสิงคโปร์ว่ากลางสัปดาห์ที่ผ่านมาในการประชุมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ได้มีความเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการปฎิรูปจัดระบบการบริหารจัดการการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าจำเป็นต้องพัฒนาทั้งในเรื่องราง การเดินรถหรือทรัพย์สินของการรถไฟ โดยในอนาคตจะมีการจัดระบบรางคู่และจัดให้รถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะนำร่องในเส้นทางภาคตะวันออกก่อน ซึ่งผลกรประชุมดังกล่าวจะได้นำเสนอเข้าประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาโครงการมาบพาพุด ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชนและภาคนักวิชาการโดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการศึกษาปัญหา 76 โครงการมาบตาพุด โดยตั้งกรอบการศึกษาภายใน 120 วัน ซึ่งการศึกษาของคณะกรรมการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อคำสั่งศาลปกครอง
นายกรัฐมนตรีขอย้ำว่าปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรัฐบาล แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะท่าทีของของนายฮุนเซนเอง ที่ประกาศแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปนั่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบันทึกความเข้าใจ เรื่องผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลรวมกระทั่งการไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องตอบโต้
โดยคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศไปตรวจสอบความร่วมมือทั้งสองประเทศ ที่เคยตกลงกันมาเพื่อหาตัดความสัมพันธ์ในระยะต่อไป หลังจากที่ได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตมาระดับหนึ่งแล้ว แต่การตัดความสัมพันธ์จะไม่ขยายผลไปถึงการดำรงชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ และขอยืนยันว่ารัฐบาลได้ปฏิบัติตามหลักสากลทุกประการ โดยจะหลีกเลี่ยงใช้ความรุนแรง ส่วนความสัมพันธ์จะดีขึ้นหรือแย่ลง ขึ้นอยู่กับกัมพูชาต้องทบทวนท่าทีของตัวเอง เพื่อการเป็นประเทศเพื่อนที่ดี่ต่อกัน และขอให้ประชาชนชาวไทยสบายใจได้ว่า มาตรการตอบโต้ครั้งนี้ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง
ในช่วงที่สองทางรายการได้นำเทปบันทึกภาพรวมทั้งสาระและบรรยายระหว่าง นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมเอเปคที่ประเทศสิงโปร์ มาออกอากาศ
