ศรีสะเกษ -“ฮุน เซน” จิ้งจอกลวงโลก ไม่ถอนทหารหน่วยรบพิเศษ 911 ตามพูด แต่กลับทำเป็นอีแอบทยอยเพิ่มกำลังเสริม “เขาพระวิหาร” อีก ด้าน ประชาคมกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จี้ รบ.ตัดสัมพันธ์การทูต-ตัดความช่วยเหลือเขมรทุกด้าน ชี้ กัมพูชาปัดส่งตัว “นช.แม้ว” ตบหน้าไทยไม่สมควรเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันอีกต่อไป เชื่อ “ฮุน เซน” คบ “แม้ว” ไม่ถาวรไร้ผลประโยชน์ถูกถีบหัวส่งแน่
วันนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ล่าสุด การตรึงกำลังทหารไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงเป็นไปด้วยความตึงเครียดและต่างระมัดระวังกันอย่างเต็มที่ หลังรัฐบาลกัมพูชา โดย นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ราดน้ำมันลงกองไฟแห่งความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศอย่างต่อเนื่อง และปฏิเสธอย่างไม่ไยดีที่จะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษหนีคุกคดีอาญาแผ่นดิน ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้กับรัฐบาลไทย
ขณะที่บริเวณด่านชายแดนต่างๆ โดยเฉพาะที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการตรวจตราการเข้า-ออกและรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น สำหรับการค้าขายในตลาดชายแดน ยังคงมีประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ไปมาหาสู่ค้าขายกันตามปกติ แต่ค่อนข้างบางตา
ส่วนกรณีที่ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศถอนกำลังทหารหน่วยรบพิเศษ 911 ของกัมพูชาออกจากบริเวณเขาพระวิหารนั้น ล่าสุดจากการติดตามเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดของฝ่ายทหารไทย ปรากฏว่า ทหารกัมพูชาไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากบริเวณเขาพระวิหารแม้แต่นายเดียว ซึ่งเชื่อว่าเป็นการให้ข่าวเพื่อสร้างภาพตบตาประชาคมโลกว่ากัมพูชาต้องการสร้างสันติภาพบนเขาพระวิหารเท่านั้น
นอกจากนี้ กลับมีการทยอยส่งกำลังทหารกัมพูชาขึ้นมาบริเวณเขาพระวิหารเป็นระยะๆ โดยไม่ทำการส่งทหารขึ้นมาพร้อมกันครั้งละมากๆ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
นายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ไทยตามกฎหมายว่าการด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ตนเห็นว่าการที่รัฐบาลกัมพูชาทำเช่นนี้ ถือว่าไม่ใช่มิตรประเทศที่ดีต่อกันอีกต่อไปแล้ว เพราะจากอดีตที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนกัมพูชาในการพัฒนาประเทศมากมายหลายด้านแทบนับไม่ถ้วน เฉกเช่นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน
“แต่เมื่อมีการปฏิบัติต่อรัฐบาลไทยและประเทศไทยอย่างไม่ให้เกียรติกันเช่นนี้ ก็ไม่สมควรที่จะเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันอีกต่อไป” นายสนอง กล่าว
นายสนอง กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยควรจะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาได้แล้ว รวมทั้งให้ตัดความช่วยเหลือทุกด้านกับประเทศกัมพูชาด้วย แต่ไม่ควรปิดด่านพรมแดนตลอดแนวเพราะจะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ได้รับความเดือดร้อนจากการทำมาค้าขายและการท่องเที่ยวที่มีอยู่
“เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่ในกัมพูชาได้ไม่นาน เนื่องจากจากอดีตที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่า นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา คนนี้คบกับใครถาวร หากไร้ซึ่งผลประโยชน์เอื้อต่อกัน” นายสนอง กล่าว