นครพนม- “จิ๋ว” เปิดใจที่นครพนม อ้างรับเป็น ปธ.ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ต้องการแก้ 4 ปัญหา โดยเฉพาะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ แก้ตัวแทน “นช.แม้ว” อ้างยังจงรักภักดีสถาบัน พร้อมยืนยันเดินหน้าพบผู้นำรัฐบาลพม่า-มาเลเซีย ด่าซ้ำรัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังเป็นบ้าที่ตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ได้เดินทางมาพบกับชาวนครพนมประมาณ 500 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.และชาวบ้านกลุ่มเสื้อแดง
ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ตนรับหน้าที่ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เพราะต้องการแก้ไขปัญหา 4 เรื่อง เรื่องแรกคือแสดงให้สังคมรับทราบว่าคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และรักหวงแหนประเทศชาติ
เรื่องที่สอง คือ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประชาชน 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อเหลืองที่มีความรักชาติสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกัน เพียงแต่ว่ามีความคิดเห็นยังไม่ตรงกัน ทั้งนี้ คนกลุ่มเสื้อเหลืองก็มีแต่น้องรักกันทั้งนั้น ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่งจะสังเกตในช่วงหลังความร้อนแรงของกลุ่มเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองจะลดลงไปมาก
ส่วนเรื่องที่ 3 คือ ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันรัฐต้องเสียงบประมาณถึง 1 แสนล้านบาท และกำลังพลเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งตนมั่นใจแก้ปัญหาได้เพราะประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ข้างตน และรู้ความต้องการของเขาว่าต้องการเช่นไร
ความต้องการของพวกเขานั้นมี 3 ข้อ คือ 1.เขาขออยู่ใต้ร่มพระบารมีในหลวงฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 2.เขาอยากได้สังคมภูมิพุทธคือประชาชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกัน 3.เขาต้องการนครรัฐปัตตานี เขาจะได้มีอำนาจบริหารพัฒนาพื้นที่ของเขาแต่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย มันก็เหมือนกับการกระจายอำนาจลงสู่ อบต. อบจ.นั่นเอง ปัญหาภาคใต้นั้นมันเกิดจากภาครัฐนำปัญหาไปหมักหมมจนเกิดแรงต้านจากประชาชน เหมือนกับยุคคอมมิวนิสต์ นี่คือชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการ
ส่วนประเด็นที่ 4 คือ การขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน การที่ตนไปเยี่ยมผู้นำกัมพูชามีแต่สิ่งดีๆ ที่เราต้องไม่แย่งปืน หาสู่กันความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเป็นสิ่งที่ดี แต่กลับมาบอกว่าตนทรยศชาติ ซึ่งตนจะเดินทางไปพบกับผู้นำพม่า มาเลเซีย และอีกหลายประเทศแน่นอน แต่การที่รัฐบาลไทยตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชานั้น ตนถือว่ารัฐบาลกำลังเป็นบ้า อีกหน่อย พ.ต.ท.ทักษิณไปประเทศไหนรัฐบาลไทยก็ตัดสัมพันธ์กับประเทศนั้นใช่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชวลิตไม่ได้พูดถึงสาเหตุที่รัฐบาลลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา เพราะมีการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาและบอกว่าจะไม่ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข่้ามแดน ทั้งที่ในข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นหนักโทษหนีคดีอาญากรณีทุจริตการจัดซื้่อที่ดินรัชดา การที่รัฐบาลกัมพูชาจะไม่ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนและอ้างว่าการตัดสินคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณมาจากแรงจูงใจทางการเมืองนั้น ถือเป็นการดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งรัฐบาลไทยจะต้องมีมาตรการตอบโต้