xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กจิ๋ว”จิตสำนึกบกพร่อง หนุน“นช.แม้ว”เผาบ้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


บทสัมภาษณ์จาบจ้วงให้ร้ายสถาบันฯอย่างรุนแรงของนช.ทักษิณ ชินวัตร ที่กระทำการผ่าน www.timesonline.co.uk ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้คนไทยทั้งประเทศอย่างมาก

แม้ว่า ล่าสุดทักษิณยอมจำนนต่อความผิดที่กระทำขึ้นจากหลักฐานที่มัดแน่นว่า ได้พูดจาจาบจ้วงหมิ่นสถาบันฯโดยเฉพาะการพาดพิงต่อ ”สถาบันฯอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย” จนต้องกราบขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับผิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำเป็นโวยวายว่าสื่อบิดเบือน เสนอข่าวอันเป็นเท็จ

มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะเขา-นช.ทักษิณจะต้องเผชิญกับการแสดงพลังต่อต้านครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทยที่รัก และเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อออกมาปกป้องพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันกษัตริย์ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.นี้แน่นอน

แต่สำหรับคนไทยคนหนึ่งที่ชื่อ*พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ* อดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผู้ผ่านเก้าอี้สำคัญในกองทัพมาหมดแล้ว ทั้งผู้บัญชาการทหารบก –รักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด- รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีภารกิจหลักคือต้องทำหน้าที่ปกป้องสถาบันฯยิ่งชีพ ที่จะต้องแสดงท่าทีรักชาติ –สถาบันฯ ด้วยการต้องตักเตือนสั่งสอน นช.ทักษิณ ว่าให้เลิกพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันฯได้แล้วหลังจากทำผิดซ้ำซาก แต่ไม่เคยสำนึก แถมครั้งนี้ยังกำเริบเสิบสานหนักยิ่งขึ้นไปอีก

แต่เป็นเพราะความหลงในอำนาจ และโลภในผลประโยชน์ที่ได้รับจากการทำงานเป็นข้ารับใช้ นช.ทักษิณ จึงทำให้ไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาจาก“บิ๊กจิ๋ว”เลย แม้แต่คำพูดเดียว เพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมจาบจ้วงของทักษิณครั้งแล้วครั้งเล่า

แถม “บิ๊กจิ๋ว”ยังทำตัวเป็นกระบอกเสียงปกป้อง ชี้แจงแทนทักษิณ และคนเสื้อแดง ที่กระทำการล่วงละเมิดสถาบันฯ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนประกาศกลางที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยในครั้งแรกที่เข้าร่วมประชุม และล่าสุดในการเดินทางไปเดินสายหาเสียงที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 9 พ.ย.52 ว่า ภารกิจสำคัญในฐานะประธานพรรคเพื่อไทยคือ ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าทักษิณไม่ได้คิดร้ายต่อสถาบันฯและจงรักภักดี

“ผมต้องทำให้ทุกคนในโลกรู้ว่าคนเสื้อแดงมีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์”

นี่คือ สิ่งที่พลเอกชวลิตเป็นอยู่ นอกจากไม่เลิกคบโจรแล้ว ยังช่วยฟอกผิดให้กับโจรอีกด้วย


สิ่งที่เกิดขึ้นจึงแสดงให้เห็นแล้วว่า คนอย่าง“บิ๊กจิ๋ว” ก็แค่ทาสรับใช้การเมืองของนช.ทักษิณ ที่กดปุ่มสั่งการ ให้ซ้ายหันก็หัน บอกให้ขวาหันก็หัน หาได้มีความเป็นตัวของตัวเองไม่

โดยเฉพาะจิตสำนึกแห่งการรู้ผิดชอบชั่วดีที่ “บิ๊กจิ๋ว” ควรต้องคิดได้เองว่าคนอย่าง นช.ทักษิณ ผู้คิดร้ายต่อบ้านเมือง ควรหรือที่จะไปก้มหัวให้นช.ทักษิณ บงการทุกย่างก้าวชีวิต

จึงน่าเสียดายยิ่งนักกับเส้นทางการเมืองของ“บิ๊กจิ๋ว”หลังจากนี้ ที่แค่ใส่ “รองเท้ายี่ห้อทักษิณ-เพื่อไทย” ออกเดินสายการเมืองทั้งในประเทศ-ต่างประเทศบนภารกิจคือ

ทำทุกอย่างเพื่อตอบแทน นช.ทักษิณ

ทว่า บนย่างก้าว"บิ๊กจิ๋ว"ที่ออกเดินแค่ไม่กี่ก้าวในตอนนี้ ก็พอเห็นอนาคตแล้วว่า นอกจากไปไม่ถึงเป้าหมาย คือเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง หรือแม้แต่อาจจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฏรแล้ว

เผลอๆ อาจพบจุดจบการเมืองแบบศพไม่สวย ตามรอย “นอมินีทักษิณ” ก่อนหน้านี้อย่างสมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์

ผู้คนในแผ่นดินจึงได้แต่พร่ำบ่นถึงวิถีการเมืองของพลเอกชวลิตในยามนี้ว่า แทนที่ควรจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตอีกไม่มาก ทำหน้าที่รับใช้แผ่นดิน เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้จดจำสิ่งดีงามที่สร้างไว้ก่อนดินจะกลบหน้า

หรือหากไม่คิดประสงค์ดีต่อส่วนรวม และไม่อยากเปลืองแรง ก็แค่อยู่บ้านเฉยๆ ออกงานสังคมนิดหน่อย วิเคราะห์การเมืองบ้างพอเป็นพิธี เพื่อไม่ให้ผู้คนลืมเลือนชื่อไปจากสารบบการเมืองไทย แบบนี้ผู้คนก็ไม่ก่นด่า

แต่เพราะการกระทำที่ไร้สำนึกมุ่งรับใช้คนผิดขายชาติอย่างหน้ามืดตามัว สังคมจึงพร้อมใจกันประณามหยามเหยียดว่า

ชักศึกเข้าบ้าน ลากสงครามเข้าเมือง

จากเหตุที่ “บิ๊กจิ๋ว”เป็นคนบินไปเปิดประตูความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ด้วยการรับลูกของ*ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา* ในการให้ นช.ทักษิณใช้กัมพูชาเป็น ฐานบัญชาการสร้างความวุ่นวายภายในประเทศไทยนับจากนี้ บนเป้าหมายคือการทำลายแผ่นดินไทย เผาบ้าน เผาเมืองให้สิ้น เพียงเพื่อความสะใจและเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินยึดทรัพย์เกิน 7.6 หมื่นล้านบาทในเดือนธันวาคมนี้

ซึ่งแผนการที่ “บิ๊กจิ๋ว”รับใบสั่งมาจากนช.ทักษิณ ด้วยการทำให้รัฐบาล*อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ* เป็น “คู่ขัดแย้ง” ระหว่างประเทศกับรัฐบาลฮุนเซน สำเร็จไปแล้วบางส่วน

แต่สิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายของทั้ง "ทักษิณ-ฮุน เซน-ชวลิต" คือการตอบโต้แบบรู้ทันและเตะชามข้าวผลประโยชน์ของ"ทักษิณ-ฮุนเซน" ทิ้ง

เพราะหลังการเรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย โดยทันทีหลังฮุนเซน ตั้งนช.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้ความเด็ดขาดโต้กลับ ด้วยการยกเลิก เอ็มโอยูระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ทำขึ้นสมัยรัฐบาลไทยรักไทย อันทำให้ผลประโยชน์ธุรกิจก๊าซธรรมชาติหลายแสนล้านบาท ในข้อตกลงเอ็มโอยูดังกล่าวที่"ทักษิณ-ฮุนเซน" ได้ตกลงที่จะนำมาจัดสรรปันส่วนแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันยามเมื่อพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล ต้องล้มครืนไปชั่วขณะ

เชื่อได้ว่า"ทักษิณ-ฮุน เซน-บิ๊กจิ๋ว" คงไม่ยอมง่ายๆ กับการที่ผลประโยชน์แสนล้านจากธุรกิจพลังงานในกัมพูชา ตามข้อตกลงเอ็มโอยูถูกระงับไป และจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เรื่องนี้กลับมาตั้งโต๊ะเริ่มต้นเจรจากันใหม่ ภายใต้การตกลงที่เพื่อไทย เป็นแกนนำรัฐบาล

นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ นช.ทักษิณ ต้องเร่งกดปุ่มสั่งการให้ บิ๊กจิ๋ว ใช้การศึกทุกรูปแบบทั้งภายในประเทศ-นอกประเทศ และบนดิน-ใต้ดิน เพื่อกดดันให้มีการยุบสภาเร็วที่สุด

และบิ๊กจิ๋ว ก็คงไม่รอช้ากับการรับคำสั่งนี้ไปปฏิบัติหลังจากโยนระเบิดการเมืองเข้าใส่ประเทศและรัฐบาลหลายลูกแล้ว ทั้งเรื่องการไปผูกสัมพันธ์ชักศึกเข้าบ้านกับฮุนเซน , การสร้างความสับสนให้กับสังคมในการแก้ปัญหาภาคใต้ ด้วยการเสนอแนวคิดนครรัฐปัตตานี

แม้แต่การเปิดหน้าท้าชนกับ“ป๋าเปรม” พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่เป็นถึงประธานองคมนตรี แบบไม่ยอมลดราวาศอก ผ่านคำให้สัมภาษณ์หลายรอบเพราะ บิ๊กจิ๋ว รู้ดีว่า “ป๋าเปรม” มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้

“บิ๊กจิ๋ว” กับภารกิจต่างๆ ที่จะตามมาหลังจากนี้ อาทิ การเดินทางไปเยือนประเทศพม่า เพื่อไปพบกับผู้นำเผด็จการทหารพม่าหลายคน ซึ่งน่าติดตามว่าจะมีประเด็นการเจรจาพูดคุยกันในเรื่องอะไร จากนั้นก็ยังมีอีกหลายประเทศที่มีคิวเดินทางไปเช่นกัน อาทิ ลาว เวียดนาม และ จีน

ขณะที่คำประกาศซึ่ง “บิ๊กจิ๋ว” เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ในวันที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย วันแรกๆ อย่างเช่นการจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

กลับพบว่าตลอดเวลาหลายสัปดาห์ที่ “บิ๊กจิ๋ว” หลงผิดเดินเข้าพรรคเพื่อไทย ก็ประจักษ์ชัดว่า “บิ๊กจิ๋ว” แทบไม่ได้ทำงานตรงส่วนนี้เลย โดยเฉพาะการติดเบรกการเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงไม่ให้ออกมาป่วนบ้านป่วนเมือง หลังจากแกนนำเสื้อแดงกำลังจะมีการนัดเคลื่อนไหวใหญ่นอกรัฐสภาในเร็ววันนี้

คาดว่า สาเหตุที่“บิ๊กจิ๋ว”ไม่กล้าติดเบรก หรือร้องขอให้เสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภา ก็เพราะ“บิ๊กจิ๋ว” รู้ดีว่าคนเสื้อแดงคือกำลังหลักสำคัญของนช.ทักษิณ ที่ นช.ทักษิณวางน้ำหนักความสำคัญในเป้าหมายล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ไว้มากกว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมดเสียอีก

หากขืนไปยุ่มย่ามอาจถูกนช.ทักษิณ ด่าเปิง เสียหมาตอนแก่ อีกทั้งคนเสื้อแดงก็ไม่ให้ราคาคนอย่างพลเอกชวลิต เพราะรู้ดีว่าก็แค่ลูกไล่-ทาสรับใช้ อีกคนหนึ่งในเพื่อไทยเท่านั้น

ดังนั้น ราคาคุยของ “บิ๊กจิ๋ว” ในเรื่องจะมาสร้างความปรองดองให้สังคมไทยจึงไม่มีทางทำได้เลย เพราะ“บิ๊กจิ๋ว”ไม่มีอำนาจที่แท้จริงในพรรคเพื่อไทย

สิ่งที่ “บิ๊กจิ๋ว” ทำได้วันนี้ ก็เป็นได้แค่ เบี้ยตัวหนึ่งให้นช.ทักษิณ เอาไปใช้เพื่อทำลายชาติ สร้างความวุ่นวายในแผ่นดิน เท่านั้นเองจริงๆ

สาเหตุที่ยอมก้มหัวรับใช้เยี่ยงทาส เพราะมุ่งหวังในเป้าหมายที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ คือการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง เพื่อขอล้างปมคาใจ หลังจากเคยทำให้ประเทศชาติฉิบหายมาแล้วกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 40
กำลังโหลดความคิดเห็น