อมรรัตน์ ล้อถิรธร....รายงาน
ยิ่ง “ฮุน เซน-นช.ทักษิณ” สร้างภาพว่ารักกันมากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้ชาวโลกได้ประจักษ์ถึงธาตุแท้ของคนทั้งสองมากเท่านั้น ว่า เลือกทำในสิ่งที่บั่นทอนความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเพื่ออะไร บางทีการมีอะไรคล้ายๆ กัน อาจทำให้คนทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันได้ และพร้อมที่จะทำอะไรโดยไม่แคร์กติกาของสังคมโลก เช่น การถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศต่อชาติ ถูกประณามว่าเป็นคนชักศึกเข้าบ้าน โดยเฉพาะ “นช.ทักษิณ” ที่ใครต่อใครรู้ทันว่า กำลังเร่งปิดเกมก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีร่ำรวยผิดปกติหรือคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ในอีกไม่กี่วันนี้ ขณะที่หลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า เป้าหมายของ นช.ทักษิณ หาใช่แค่ต้องการเงินคืนเท่านั้น แต่หวังเปลี่ยนประเทศไทยแบบ “พลิกแผ่นดิน” ด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ
อาจพูดได้ว่า ยังไม่เคยมีผู้นำประเทศใดใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวความเป็นเพื่อนตัดสินถูก-ผิดทางการเมืองระหว่างประเทศ ดังเช่นที่ ฮุน เซน นายกฯของกัมพูชา กระทำอยู่ในเวลานี้ ที่นอกจากออกมาประกาศกร้าวโดยไม่แคร์สายตาชาวโลกว่า พร้อมจะปกป้องและช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ศาลฎีกาฯ ของไทยพิพากษาจำคุก 2 ปีคดีใช้ตำแหน่งหน้าที่นายกฯ เอื้อประโยชน์ให้ภรรยาซื้อที่ดินจากหน่วยงานของรัฐแล้ว ยังตบหน้าประเทศไทยและรัฐบาลไทยที่มีความสัมพันธ์กันมานานด้วยการตั้ง นช.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทั้งโดยส่วนตัวและที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา แถมเมื่อไทยยื่นหนังสือขอให้กัมพูชาส่งตัว นช.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ไทยแล้ว รัฐบาลฮุน เซน ก็รีบปฏิเสธการส่งตัว นช.ทักษิณ ในทันที โดยอ้างว่าคดีของ นช.ทักษิณ เป็นคดีการเมือง ไม่เข้าข่ายสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แถมใช้สถาบันกษัตริย์กัมพูชามาเป็นเครื่องมือในการไม่ส่งตัว นช.ทักษิณ ให้ไทยด้วยการอ้างว่า นช.ทักษิณ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาฯ โดยกษัตริย์กัมพูชา
และทั้งๆ ที่ ฮุน เซน ได้ยืนยันเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนยังมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทย แต่ ฮุน เซน ก็เลือกที่จะไม่สนใจกรณีที่ นช.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ไทม์ส ออนไลน์ ในลักษณะจาบจ้วงดูหมิ่นให้ร้ายพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย
ฮุน เซน ยังโจมตีการยึดอำนาจทักษิณเมื่อ 19 ก.ย.2549 ทั้งที่ ฮุน เซน เองก็เป็นเผด็จการตัวยง เพราะชอบใช้วิธียึดอำนาจเช่นกัน สังเกตได้จากการยึดอำนาจจากเจ้ารณฤทธิ์ นายกฯ คนที่ 1 เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นนายกฯ คนเดียวของกัมพูชา แถมสถาปนาตัวเองเป็นสมเด็จฯ ฮุน เซน พฤติกรรมของฮุน เซน ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนชาวกัมพูชา จึงไม่เป็นที่แปลกใจของชาวโลก โดยเฉพาะชาวไทยที่รู้ทัน
นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น และตัวแทนกลุ่มคนไทยผู้รักชาติ ที่เอาความจริงกรณีปราสาทพระวิหารออกมาเปิดเผยต่อสังคมไทย บอกกับวิทยุ ASTVผู้จัดการ ว่า ไม่แปลกใจที่ ฮุน เซน ไม่ส่งตัวทักษิณให้ไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพราะคนอย่าง ฮุน เซน ทำได้ทุกอย่าง ขนาดกับประเทศของตัวเอง ฮุน เซน ยังทรยศได้ และเข่นฆ่าประชาชนของตัวเองได้ แล้วทำไมแค่เรื่องสนธิสัญญา ฮุน เซนจะทำไม่ได้
“คนอย่าง ฮุน เซน เนี่ย เขาทำอะไรได้ทุกอย่างชนิดที่ใครไม่คาดคิด ฮุน เซน เขาทำมาตลอด ในชีวิตเขานี่ดูสิเขาเป็นผู้พันของกองทัพเขมรแดง เขาอยากจะโค่นพล พต เขาก็ทำมาแล้ว โค่นไม่ได้ก็ไปเอาเวียดนามมา ไปทรยศต่อคนเขมรด้วยกัน ทรยศต่อเขมรแดง เอากองกำลังเวียดนามเข้ามายึดมาเข่นฆ่าพวกเขมรแดงคนเขมรด้วยกัน เขายังทำมาแล้วเลย นับประสาอะไรกับเรื่องแค่ที่จะไม่ส่งตัวให้กับประเทศไทยทั้งๆ ที่มีสนธิสัญญา อันนี้มันแค่สนธิสัญญา เขาทรยศคนเขมรทรยศชาติเขายังทำมาแล้วเลย ผมถึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไรกับฮุน เซน (ถาม-คิดว่า ทางการไทยควรทำอย่างไรต่อไป?) ในเมื่อเราเจอคนอย่างนี้ เราก็คงจะต้องใช้ความเด็ดขาดกับเขา ให้เขารู้ว่าเขาเนี่ยไม่สามารถที่จะมาแสดงความอหังการอย่างนี้ได้ เพราะคนอย่างฮุน เซน ต้องเจอของจริง เหมือนกับที่เขาเจอเวียดนาม เขาไม่กล้าสู้กับเวียดนาม ถ้าเราไปอ่อนข้อให้ เราไปยอมให้ เขาก็จะได้ใจ เพราะฮุน เซน ก็ไม่ใช่คนเก่งกล้าอะไรหรอก ฮุน เซน เป็นคนขี้ขลาดตาขาวจะตายไป กลัวตายจนขนาดทุกวันนี้ ฮุน เซน ต้องไปตั้งกองกำลังเพื่อมาอารักขาตัวเองและครอบครัว รู้สึกจะเป็นกองพลที่ 70 น่ะ ไปตั้งเป็นกองพลเพื่อมาอารักขาดูแลตัวเองโดยเฉพาะ ศัตรูในประเทศเขาก็มีเยอะ ผมว่าสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลไทยควรจะทำ ก็คือ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับคนกัมพูชา ว่า ผู้นำประเทศของเขาเนี่ยกำลังทำให้คนกัมพูชาต้องเดือดร้อนนะ ในการที่เขาไม่รักษาสนธิสัญญาที่ทำไว้กับนานาชาติ”
“(ถาม-อย่างนี้ต้องให้นานาชาติเข้ามาช่วยไทยกดดันกัมพูชามั้ย?) ที่จริงทางอาเซียนควรที่จะมีการทบทวนได้แล้วว่า ตกลงแล้วสนธิสัญญาอาเซียนเนี่ย มันยังศักดิ์สิทธิ์อยู่มั้ย ถ้ามันยังศักดิ์สิทธิ์อยู่ แล้วปล่อยให้ประเทศภาคีสนธิสัญญาอาเซียนมาละเมิดกฎบัตรอาเซียนได้อย่างไร กรณีที่มาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันเนี่ย ทำอย่างนี้ได้ยังไง ผมว่าแค่นี้ก็จบแล้ว ไม่ต้องอะไรมากหรอก ให้ประเทศกลุ่มอาเซียนเนี่ย มาเรียกประชุมวิสามัญก็ได้ เป็นการเร่งด่วนในระดับ ไม่ต้องระดับนายกรัฐมนตรี เอาอาจจะเป็นระดับรัฐมนตรีต่างประเทศมาคุยกันก่อน โดยมีเลขาฯ อาเซียน เป็นตัวประสาน เพื่อบอกกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ว่า ตกลงแล้วที่เรามาร่วมลงนามในสนธิสัญญาอาเซียนเนี่ย มันยังศักดิ์สิทธิ์อยู่มั้ย ถ้ามันยังศักดิ์สิทธิ์แล้วปล่อยให้กัมพูชามาละเมิดได้ยังไง”
ส่วนกรณีที่ นช.ทักษิณ ยืนยันว่า ไม่ได้พูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ แต่เป็นการบิดเบือนของไทม์ส ออนไลน์ พร้อมอ้างว่าอาจเป็นเพราะภาษาอังกฤษของตนไม่ดีพอนั้น นายวีระ ชี้ว่า คำพูดของทักษิณสะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของทักษิณว่า ไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์ หรือจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใด และว่า เมื่อก่อนทักษิณยังคุยว่าตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ แต่พอผิดพลาดขึ้นมาก็มาบอกว่าภาษาอังกฤษตัวเองไม่ดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณมีร่องรอยการพูดและพฤติกรรมกระทบเบื้องสูงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญประเทศในวัดพระแก้ว หรือการบอกว่า “ถ้าพระเจ้าอยู่หัวกระซิบว่า ทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทลาออกแน่นอน”ฯลฯ นายวีระ ยังฝากถึง ฮุน เซน และ นช.ทักษิณด้วยว่า ทักษิณกำลังเร่งวันตายของตัวเองเข้ามาทุกทีแล้ว ส่วน ฮุน เซน ก็ใกล้จะไม่มีแผ่นดินอยู่แล้ว
“ผมว่าคุณ ฮุน เซน เนี่ยตอนนี้ก็คงจะไม่มีแผ่นดินอยู่แล้วล่ะ เพราะคนเขมรเขาคงไม่เอาคุณแล้วล่ะ เพราะคุณทรยศต่อชาติ คุณขายชาติมา และตอนนี้คุณก็ยังจะชักศึกเข้าบ้าน ทั้งๆ ที่คนกัมพูชาโดยทั่วๆ ไปเขาก็ไม่อยากจะมารบกันเราหรอก ไม่อยากมาเป็นศัตรูกับคนไทยหรอก เราก็เป็นเพื่อนบ้านกัน แต่ในฐานะที่คุณเนี่ย เป็นผู้นำประเทศที่ยโสโอหัง และไม่รู้จักบุญคุณของประเทศไทย และยังจะมาทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศมันตึงเครียดขึ้นมา ในที่สุดแล้วไม่ใช่เฉพาะคนไทยนะ คนกัมพูชาก็จะต้องเดือดร้อนจากการชักศึกเข้าบ้านของฮุน เซน”
“และสำหรับ นช.ทักษิณ ก็ต้องบอกว่า คุณทักษิณเนี่ยผมว่าแกจะตาย คงไม่ได้ตายเพราะโรคมะเร็งแล้วล่ะ คุณทักษิณคงจะเร่งวันตายตัวเองเข้ามามากขึ้นทุกทีแล้ว ถ้ายังจะทำอะไรที่มันเป็นการกระทำการที่มันทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งประเทศเหมือนกับที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ นอกจากคุณทักษิณจะทรยศต่อชาติ จะขายชาติ จะทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของชาติบ้านเมืองแล้ว ยังกระทำการลบหลู่สถาบันเบื้องสูง ซึ่งครั้งนี้ชัดเจนที่สุดเลย ชัดเจนมากเลย แสดงถึงเลยว่าคุณทักษิณเนี่ยไม่สามารถควบคุมตัวเองที่จะเก็บความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไว้ได้อีกต่อไป จึงหลุดออกมา แสดงว่าเขาคงจะเร่งแล้วล่ะ และการที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานในการกลับเข้ามายึดอำนาจคืนในประเทศไทยเนี่ย มันก็คงจะเลี่ยงไม่ได้หรอกที่จะต้องให้เรื่องมันจบลง แต่มันจะจบลงแบบไหน การสูญเสียจะมากน้อยอย่างไรเนี่ย ก็ต้องเป็นสิ่งที่คุณทักษิณต้องรับผิดชอบละกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น”
ด้าน ศ.ดร.คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด พูดถึงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาไม่ส่งตัว นช.ทักษิณ ให้ไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนโดยอ้างว่าเป็นคดีการเมืองว่า ปกติแล้วฝ่ายบริหารของแต่ละประเทศจะเป็นผู้ให้ความเห็นก่อนว่า ควรส่งตัวให้ประเทศที่ร้องขอหรือไม่ หากเห็นว่าควรส่งตัว อัยการก็จะส่งเรื่องไปให้ศาลไต่สวนอีกครั้ง แต่ประเด็นเรื่องคดีใดเป็นคดีการเมืองหรือไม่นั้น ศ.ดร.คณิต บอกว่า แต่ละประเทศก็คงมองไม่เหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า คดีทักษิณไม่ใช่คดีการเมือง
“การเมืองหรือไม่มันไม่ใช่เหมือนกันแต่ละประเทศนะ ประเทศใหญ่ๆ มันก็ทุบโต๊ะเอาได้ ประเทศเล็กๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ อะไรเป็นการเมืองนี่ยังถกเถียงกันอยู่ อย่างถ้ามีการยึดอำนาจแล้วหนีเนี่ย อย่างนี้ก็การเมือง แต่ถ้าสมมติว่าฆ่าคนตายแล้วหนีเนี่ย คงไม่ใช่การเมืองหรอก ผมก็ไม่ทราบว่าแนวคิดด้านการเมืองของประเทศกัมพูชาเขาเป็นยังไง (ถาม-ถ้าในมุมมองของท่านคณิตล่ะ มองว่าคดีที่คุณทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ตัดสินจำคุก 2 ปีเนี่ย ตรงนี้เป็นคดีการเมืองหรือเปล่า?) จริงๆ คุณทักษิณเขาก็ขึ้นปกติ ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง เขากลับเข้ามาในประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ กลับเข้ามาในประเทศแล้ว ก็ไม่ได้เรื่องอ้างการเมืองอะไรนี่ แล้วผลที่สุด ตอนก่อนจะฟังคำพิพากษาต่างหากที่เขาหนีออกไป ทีนี้ไม่ทราบทางกัมพูชาเขาคิดยังไง แต่คุณทักษิณมันไม่ใช่เรื่องการเมืองโดยตรง (ถาม-อย่างนี้ท่านคณิตมีข้อเสนอหรือคำแนะนำมั้ยว่า ถ้าประสบปัญหาแบบนี้ ไทยอยากขอตัวคุณทักษิณ แต่ทางกัมพูชาไม่ให้ จะทำยังไง?) คืออย่างนี้ในประชาคมระหว่างประเทศ มันมีการกดดันกันเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราจะไปปฏิเสธหรือทำอะไรตามใจชอบ ไม่ใช่ มีสนธิสัญญากันแล้ว ผมก็คงจะต้องดูว่า กระทรวงการต่างประเทศเราจะดำเนินมาตรการอะไรในระหว่างประเทศ ก็ต้องดูตรงนี้”
ด้านนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ซึ่งเป็น 1 ในผู้ที่เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดี นช.ทักษิณ ฐานหมิ่นสถาบันกรณีให้สัมภาษณ์ไทม์ส ออนไลน์ จาบจ้วงให้ร้ายพระมหากษัตริย์ พูดถึงที่มีข่าวว่า ทักษิณอาจตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ว่า ทักษิณกำลังเร่งปิดเกมเพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายชนะให้ได้ไม่เกินวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ก่อนที่ศาลฎีกาฯ จะพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ส่วนกรณีที่กัมพูชาไม่ยอมส่งตัวทักษิณให้ไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนนั้น นายวรินทร์ ชี้ว่า แม้จะเป็นเอกสิทธิ์ของกัมพูชา แต่นานาประเทศก็จะเห็นเองว่าฮุน เซนเป็นคนที่คบได้หรือไม่
“ตรงนั้นก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศที่จะอ้างเหตุ แต่ในพันธกรณีระหว่างประเทศว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศนะ ตรงนี้ในอารยประเทศเขาก็จะมองว่าคนนี้คบได้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันไม่มีความชัดเจนไงว่าคดีการเมืองกับคดีอาญาแผ่นดินมันต่างกันยังไง แต่ของเรานี่ชัดเจน เพราะเรามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเขาเป็นคนผิด (ถาม-คิดว่าไทยควรทำยังไงต่อไป?) ตอนนี้ไทยก็คงใช้ขั้นตอนที่ 1 ก็คือ เราเรียกทูตกลับใช่มั้ย ขั้นตอนต่อไปที่เราต้องทำทางการทูตก็คือ งดความช่วยเหลือทั้งหมด ขั้นตอนต่อไปก็คือการปิดพรมแดนทั้งหมด ตรงนี้เป็นเรื่องการกดดันไปเรื่อยๆ และท้ายที่สุดก็นำกระบวนการนี้เข้าไปสู่เวทีโลก (ถาม-จะทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบบ้างมั้ยถ้าเรื่องไปถึงเวทีโลก?) คงไม่ เพราะประเด็นมันไม่ใช่ ประเด็นวันนี้เราตั้งประเด็นที่เราไม่ยอมคุยกับเขมร เนื่องจากเขมรไปช่วยคนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร ไม่ให้เขาต้องรับโทษในราชอาณาจักร เป็นเรื่องการที่เขมรไม่เคารพในอธิปไตยในรัฐไทย”
“(ถาม-มองว่าโอกาสที่ ฮุน เซน จะกลับลำมาคิดได้ ไม่เลือกทักษิณ แต่หันมาเลือกผลประโยชน์ของกัมพูชามากกว่า ยังพอมีโอกาสมั้ย?) ผมคิดว่าไม่นะ เพราะจริงๆ แล้วถ้าลองไปดูเรื่องการลงทุนในพื้นที่ทับซ้อน เราจะเห็นว่าบริษัทออฟชอร์ทั้งหมดนี่ก็ยังเชื่อมโยงคุณทักษิณหมดน่ะ เพราะฉะนั้นถ้าได้ตัวคุณทักษิณไว้ ก็คือได้ทั้งหมด และเรากำลังมองประเด็นต่อไปว่า ฮุน เซน จะให้เกาะกงกับคุณทักษิณ ก็เป็นไปได้ เพราะจริงๆ เกาะกงนี่ในสนธิสัญญา 1907 ข้อ 2 เขียนไว้ชัดนะว่าเป็นของไทย (ถาม-แสดงว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่คุณทักษิณจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่นั่น?) ใช่ การมาครั้งนี้ก็คือเรื่องนี้แหละ (ถาม-และถ้าตั้งแล้วจะเป็นยังไง?) ตอนนี้ต้องดูนะว่า ถ้ากลุ่มทหารที่เข้ามาทั้งหมดเนี่ยเขากำลังเคลื่อนอะไร เราต้องยอมรับว่ากลุ่มทหารชุดนี้คือทหารรับจ้างที่รบในลาวในเขมรในเวียดนามในมาเลเซียเก่านะ และวิธีการคือใช้กำลังทหารรับจ้างที่อยู่ใน 3-4 ประเทศนี้ทำเป็นกองกำลัง ถามว่าในอดีตจะทำยังไง ในอดีตก็คือใช้เงินของสหรัฐฯ ในการทำ แต่ปัจจุบันก็คือเงินกองทุนของคุณทักษิณ ตรงนี้มันชัดเจนคือการบินเข้ามาครั้งนี้มันมีช่วงเวลาที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.ไม่เกินวันที่ 15 เพราะศาลจะตัดสินคดีริบเงินไม่เกินวันที่ 15”
นายวรินทร์ ยังวิเคราะห์ด้วยว่า เป้าหมายของทักษิณคงไม่ใช่แค่ปิดเกมก่อนศาลมีคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ แต่ยังต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในลักษณะ “พลิกแผ่นดิน”ด้วย เพราะจะสังเกตได้ว่า ระยะหลังหรือตั้งแต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้าพรรคเพื่อไทย ทักษิณและบริวารจะไม่พูดถึงเรื่องการยุบสภาแล้ว แต่ต้องการพลิกแผ่นดินมากกว่า ส่วนรัฐบาลต้องตั้งรับอย่างไร นายวรินทร์ แนะว่า รัฐบาลควรใช้สื่อของรัฐประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง นอกจากนี้ทหารก็ต้องออกมาทำหน้าที่พิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะทหารมีหน้าที่โดยตรงตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพลว่า “จะรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์และจะรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ส่วนในแง่คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของทักษิณนั้น นายวรินทร์ บอกว่า อยากให้ศาลฎีกาฯ พิพากษาโดยเร็ว พร้อมเชื่อว่า หากผลออกมาว่ายึดทรัพย์ดังกล่าวเป็นของแผ่นดิน กระบวนการที่จะต่อสู้เพื่อทักษิณจะจบ เพราะกลุ่มการเมืองที่เคยช่วยเหลือทักษิณ ก็จะไม่นำเงินออกมาใช้ เนื่องจากต้องเก็บเงินไว้ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป ส่วนนักขุดทองทั้งหลายที่เคลื่อนไหวเชียร์ทักษิณอยู่ในขณะนี้ เมื่อทักษิณถูกยึดทรัพย์ไม่มีเงิน คนเหล่านี้ก็จะหยุดเคลื่อนไหวหรือลดจำนวนลงเรื่อยๆ!!