ศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวน คดีมาบตาพุด ต่ออีก 18 พ.ย.นี้ หลังนัดแรกไต่สวนได้เพียง 6 ปากเท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง โดยตุลาการเจ้าของสำนวนได้เปลี่ยนรูปแบบการไต่สวน เพื่อซักถามเอง เพื่อลดการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (12 พ.ย.) ศาลปกครองสูงสุด โดย นายเกษม คมสัตย์ธรรม ตุลาการเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีมาบตาพุด เป็นนัดที่ 2 กรณีที่ นายประศาสน์ชัย ตัณฑพานิช อธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครอง ผู้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) รวมทั้ง บมจ.ปตท.และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่สั่งระงับการดำเนินโครงการในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ทั้ง 76 โครงการ โดยศาลได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีจำนวน 13 ปาก แต่สำหรับในวันนี้ศาลไต่สวนได้เพียง 6 ปากเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาไต่สวนนานทั้งสิ้นกว่า 8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตุลาการเจ้าของสำนวนได้นัดไต่สวนพยานเป็นครั้งที่ 3 อีกครั้ง ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ที่สำนักงานศาลปกครองสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการไต่สวนในวันนี้ (12 พ.ย.) เป็นไปเรียบร้อย เนื่องจากตุลาการเจ้าของสำนวนได้เปลี่ยนรูปแบบการไต่สวน โดยให้ผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี เขียนคำถามที่ต้องการถามคู่กรณีส่งให้ตุลาการ โดยตุลาการจะเป็นผู้ทำหน้าที่ซักถามเอง เพื่อลดการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ 2 พ.ย.ที่เป็นวันไต่สวนนัดแรก ตุลาการฯได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีได้ซักถามผู้ฟ้องคดีได้โดยตรง จนทำให้สองฝ่ายได้เกิดโต้คารมกันอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นตุลาการฯจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบการไต่สวนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภายนอกห้องพิจารณานั้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมาก ทำหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อกั้นไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปสร้างความวุ่นวายในส่วนบริเวณหน้าห้องพิจารณาคดี
วันนี้ (12 พ.ย.) ศาลปกครองสูงสุด โดย นายเกษม คมสัตย์ธรรม ตุลาการเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีมาบตาพุด เป็นนัดที่ 2 กรณีที่ นายประศาสน์ชัย ตัณฑพานิช อธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครอง ผู้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) รวมทั้ง บมจ.ปตท.และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่สั่งระงับการดำเนินโครงการในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ทั้ง 76 โครงการ โดยศาลได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีจำนวน 13 ปาก แต่สำหรับในวันนี้ศาลไต่สวนได้เพียง 6 ปากเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาไต่สวนนานทั้งสิ้นกว่า 8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตุลาการเจ้าของสำนวนได้นัดไต่สวนพยานเป็นครั้งที่ 3 อีกครั้ง ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ที่สำนักงานศาลปกครองสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการไต่สวนในวันนี้ (12 พ.ย.) เป็นไปเรียบร้อย เนื่องจากตุลาการเจ้าของสำนวนได้เปลี่ยนรูปแบบการไต่สวน โดยให้ผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี เขียนคำถามที่ต้องการถามคู่กรณีส่งให้ตุลาการ โดยตุลาการจะเป็นผู้ทำหน้าที่ซักถามเอง เพื่อลดการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ 2 พ.ย.ที่เป็นวันไต่สวนนัดแรก ตุลาการฯได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีได้ซักถามผู้ฟ้องคดีได้โดยตรง จนทำให้สองฝ่ายได้เกิดโต้คารมกันอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นตุลาการฯจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบการไต่สวนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภายนอกห้องพิจารณานั้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมาก ทำหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อกั้นไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปสร้างความวุ่นวายในส่วนบริเวณหน้าห้องพิจารณาคดี