โฆษกพรคเพื่อไทย รู้ตัวกำลังเพลี่ยงพล้ำเกมการเมือง แกว่งปากท้า รบ.อย่าใช้โอกาสนี้ปลุกกระแสต่อต้านทำลายล้างกัน ตะแบงอย่าใช้ความขัดแย้งภายในประเทศ เป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศ แขวะ ปธ.กกต.อย่าใช้ความเป็นเพื่อนเบี่ยงเบนประเด็น 258 ล้าน โวยหากเป็นพรรคเพื่อไทยป่านนี้ถูกยุบนานแล้ว
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะดำเนินการขอตัวจากกัมพูชา พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหากเข้ากัมพูชา ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และพรรคประชาธิปัตย์ บางคนอย่าเอาความขัดแย้งภายในประเทศมาเป็นการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการค้าการลงทุนระหว่างประเทศมีมหาศาล ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ อย่าเอามาเป็นเกมปลุกกระแสต่อต้านทำลายล้างใคร อีกทั้งกัมพูชาก็บอกแล้วว่ายึดตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องทางการเมืองจะส่งตัวให้ทางการไทยไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลรู้อยู่แล้วว่า กัมพูชายังยืนยันไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลกลับเอาเรื่องนี้มากลบเรื่องเน่าการทุจริตในคณะรัฐมนตรี (ครม.) และยังกลบวุฒิภาวะการเป็นผู้นำของนายอภิสิทธิ์กรณีแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้วย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย สนับสนุน สมเด็จฯฮุน เซน ใช่หรือไม่ในการไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไทย นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคไม่ได้สนับสนุนสมเด็จฯฮุน เซน เพราะพรรคเพื่อไทยมองว่า ความขัดแย้งของนายอภิสิทธิ์ นายกษิต และพรรคประชาธิปัตย์บางคน ที่ขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวทางการเมืองมาเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้น ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวหรือจับประชาชนมาเป็นตัวประกันมาเป็นข้ออ้างว่าเป็นเรื่องของคนทั้งชาติ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องที่นายอภิสิทธิ์กำลังซ้ำเติมประเทศชาติให้เสียหาย
“วันนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปกัมพูชาในวันที่ 12 พ.ย.นี้หรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจวิดีโอลิงก์ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ ทวิตเตอร์ หรือโฟนอินมายังกัมพูชาก็ได้ ผมมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 10 และมียศ พ.ต.ท.เป็นถึงอดีตนายกฯ ยังเคยเป็น รมว.ต่างประเทศ ว่า สิ่งที่ท่านทำท่านรู้ว่าอะไรทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องยึดถือผลประโยชน์ชาติและบ้านเมืองแน่นอน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองใหม่ ขอให้ กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย ว่า หากจะยื่นก็ต้องดูข้อกฎหมายก่อน เพราะตอนนี้ไม่ว่าพันธมิตรฯ จะยื่นอะไร นายกฯก็พร้อมทำตามหมดและ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ เคยยึดสนามบิน แต่ไปพบนายกฯ ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความเป็นธรรม ดังนั้น ปัญหาในประเทศควรแก้ให้จบก่อน
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวกรณี กกต.เตรียมพิจารณาสำนวนคดีเงิน 258 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาได้รับจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัท เมซไซอะ บิซิเนสแอนด์ ครีเอชั่น จำกัด และเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองที่อาจใช้ผิดวัตถุประสงค์ เมื่อปี 2548 ว่า กรณีดังกล่าวรู้แต่ว่าหากกกต.ตัดบัญชีพยานโดยเฉพาะนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ ออกไป ก็ถือเป็นการขัดต่อระเบียบ กกต.แล้วหาก กกต.จะพิจารณาออกมาเป็นผลบวกโดยตัดนายประชัยออกไปกกต.ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะถือว่า กกต.ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากเป็นแบบนี้ก็เข้าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ที่จำเป็นต้องฟ้อง กกต.
“สำนวนทั้งหมดสมบูรณ์หรือไม่ทำไมวันนี้ กกต.ยังไม่ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว อีกทั้ง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ก็มีความสนิทชิดเชื้อหรือเป็นเพื่อนกับใคร ประธาน กกต.อย่าเอาความเป็นเพื่อนมาปิดบังหรือเบี่ยงเบนต่อความเที่ยงธรรม เพราะโดยมาตรฐานของการยุบพรรคการเมือง 4 พรรคที่เคยถูกยุบ ในเมื่อ นายประชัย ไม่มาแล้ว กกต.ก็สามารถเรียกดำเนินคดีได้ หาก กกต.ตัดนายประชัย ออกก็ส่อมีนัยยะได้ ดังนั้น หลักฐานที่พรรคเพื่อไทยร้องมาก็เพียงพอยุบพรรคประชาธิปัตย์แต่ต้องดูว่าพรรคประชาธิปัตย์มียันต์กันเหนียวอีกหรือไม่ เพราะหากเป็นพรรคเพื่อไทยป่านนี้โดนยุบไปแล้ว” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ล่าสุด ก่อนหน้านี้ นายประชัยได้ส่งบันทึกถ้อยคำมาให้ กกต.แล้วคงไม่ได้เป็นการตัดพยานออกไป นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ยื่นให้ใคร เพราะนายประชัยสามารถแจงได้ด้วยตัวเอง แม้นายประชัยบอกชี้แจงแล้ว แต่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.และ กกต.บางท่านก็บอกนายประชัยยังไม่ได้ให้ถ้อยคำ ตนจึงไม่รู้จะเชื่อใคร ส่วนที่ นายประชัย บอกว่า ไม่ได้บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์เพียงแต่ขอให้บริษัท เมซไซอะฯ ทำป้ายประชาสัมพันธ์นั้น ก็ต้องสอบให้ชัดก่อนเพราะวันนี้ นายประจวบ สังขาว ซึ่งเป็นคนกลางก็ยืนยัน แล้วว่าสอบแล้วเงินบริจาคผ่าน นายประจวบ จนนำเงินให้พรรคประชาธิปัตย์จริง
