“แม่ทัพภาค 2” เผยกัมพูชาโร่ขอเจรจาทางทหาร หวั่นไทยปิดด่าน โดยอ้างจะกระทบการค้าระหว่างชายแดนได้ เตือน กัมพูชาระมัดระวังคำพูดรุนแรงผ่านสื่อ พร้อมลั่น หากต้องรบกันจริง ไทยไม่แพ้แน่นอน
วันนี้ (7 พ.ย.) พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้(6 พ.ย.) พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ของประเทศกัมพูชา พร้อมคณะ จำนวน 10 คน เดินทางมาพบ โดยสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้สั่งการให้เป็นตัวแทนเพื่อเจรจากับไทย ขอคงความสัมพันธ์ทางการทหาร และประชาชนท้องถิ่น เพราะไม่อยากให้ปิดด่านของทั้งสองประเทศ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะกระทบการค้าระหว่างชายแดน
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้ขอร้องกัมพูชาให้ระมัดระวังคำพูดรุนแรงผ่านสื่อ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน ส่วนกระแสข่าวไทยอาจจะปิดพรมแดนนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีคำสั่งในขณะนี้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พูดชัดแล้วว่าจะใช้วิธีการตอบโต้ทางการทูต และจะไม่ทำให้กระทบประชาชนของทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องมีการพุ่งรบกันจริงๆ ก็มั่นใจว่าเราไม่แพ้แน่นอน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไทยได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับประเทศด่วน พร้อมระงับและทบทวบความสัมพันธ์ข้อตกลงระหว่างสองประเทศทุกอย่าง หลัง สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้ง นายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ทั้งที่ทราบดีว่านายทักษิณเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาในประเทศไทย และระหว่างสองประเทศก็มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่กลับไม่ดำเนินการ จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทยตัดสินใจใช้มาตรการทางการทูตตอบโต้ดังกล่าว
วันนี้ (7 พ.ย.) พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้(6 พ.ย.) พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ของประเทศกัมพูชา พร้อมคณะ จำนวน 10 คน เดินทางมาพบ โดยสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้สั่งการให้เป็นตัวแทนเพื่อเจรจากับไทย ขอคงความสัมพันธ์ทางการทหาร และประชาชนท้องถิ่น เพราะไม่อยากให้ปิดด่านของทั้งสองประเทศ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะกระทบการค้าระหว่างชายแดน
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้ขอร้องกัมพูชาให้ระมัดระวังคำพูดรุนแรงผ่านสื่อ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน ส่วนกระแสข่าวไทยอาจจะปิดพรมแดนนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีคำสั่งในขณะนี้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พูดชัดแล้วว่าจะใช้วิธีการตอบโต้ทางการทูต และจะไม่ทำให้กระทบประชาชนของทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องมีการพุ่งรบกันจริงๆ ก็มั่นใจว่าเราไม่แพ้แน่นอน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไทยได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับประเทศด่วน พร้อมระงับและทบทวบความสัมพันธ์ข้อตกลงระหว่างสองประเทศทุกอย่าง หลัง สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้ง นายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ทั้งที่ทราบดีว่านายทักษิณเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาในประเทศไทย และระหว่างสองประเทศก็มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่กลับไม่ดำเนินการ จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทยตัดสินใจใช้มาตรการทางการทูตตอบโต้ดังกล่าว