รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ไม่หวั่นไหว “ฮุนเซน” ตั้ง “นช.แม้ว” เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ชี้เป็นการเมืองภายใน ดักคอหากเข้ามาพำนักเป็นหลักแหล่งเตรียมงัดสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาใช้ กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศ และอัยการ เตรียมความพร้อม เชื่อเขมรไม่กล้าท้ารบกับไทย แต่มั่นใจ “แม้ว” เป็นที่ปรึกษาคอยยุแหย่ให้บ้านเมืองปั่นป่วน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ต้องแยกให้ได้ว่า ระหว่างเรื่องภายในของแต่ละประเทศกับ เรื่องความสัมพันธ์แต่ละประเทศ ซึ่งรัฐบาลเขามีสิทธิแต่งตั้งใครก็ได้ เราไม่สามารถแทรกแซงได้ ส่วนคนที่เขาตั้งถูกใจเราหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะไปเอะอะโวยวาย ถ้าเรามั่นใจว่าในสัญญาข้อตกลงกรณีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่เราได้ทำการตกลงไว้กับกัมพูชาใช้บังคับได้ และเรามั่นใจแล้วว่าคนที่หนีคดีจากประเทศเราไปพำพักเป็นการถาวรที่นั่น เราก็ทำหนังสือติดต่อไปตามกระบวนการของกฎหมายระหว่างประเทศ เหมือนกับที่อัยการทำหนังสือขอตัว นายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ มาดำเนินคดี ซึ่งถ้าทำไปแล้วเขาไม่ให้ก็มาพิจารณากันว่า ทำความเห็นความตกลงระหว่างประเทศกันหรือไม่อย่างไรก็ต้องว่ากันเป็นขั้นตอน
เมื่อถามว่า เป็นการหักหน้ารัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราก็อย่ายื่นหน้าไปให้เขาหัก เราก็เก็บหน้าเราไว้ให้ดีทำไมเราจะต้องไปยื่นให้เขาหักเราก็เฉยๆ เป็นเรื่องของเขาเขาจะตั้งใครสมมุติว่า รัฐบาลไทยเกิดจะตั้งนายสมรังสีขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาอะไรก็ได้ก็เป็นเรื่องของเรา ซึ่งต้องแยก ตนคิดว่าเราอย่ารวมทุกประเด็นเข้ามาด้วยกัน ด้วยความรู้สึกแต่ต้องแยกแยะแต่ละเรื่องให้ดี เมื่อถามว่า จะเป็นการท้าทายรัฐบาลไทยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่มองอย่างนั้น
“อย่างที่ผมเรียนแล้วว่า เราต้องแยกแยะ เพราะแต่ละประเทศก็มีอธิปไตยเป็นของตัวเอง เราลองย้อนนึกไปว่าสมัยที่นายราเกซหนีคดีออกจากประเทศไทยไปอยู่แคนาดา ก็ต้องสู้กัน 13 ปีถึงจะได้ตัวกลับมา ก็ต้องว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย นี่ถ้าเราชิงโกรธแคนาดาตั้งแต่ตอนนั้นเราจะได้ตัวนายราเกซกลับมาหรือไม่ เพราะตัดสัมพันธไมตรีกันเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย และกัมพูชาก็จะดูเป็นกรณีไป เช่นถ้ามีปัญหากรณีเขตแดนเรามีคณะกรรมการที่เป็นกรรมการร่วมที่ทำหน้าที่ชี้เขตก็ดำเนินการไป ถ้ามีปัญหาที่กระทบ กระทั่งกันชายแดนเป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ทหารก็เจรจาไป ถ้ามีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในพื้นที่ทางทะเลมานั่งพูดคุยกันก็ว่ากันไปเป็นเรื่องๆ แต่หลักการของเราจะต้องอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสันติ แต่ว่าถ้าเขารุกล้ำอธิปไตยของเราๆ ก็ต้องลุกขึ้นมาปกป้องอธิปไตยของเรา” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่าวันนี้สรุปได้แล้วใช่หรือไม่ว่า กัมพูชาไม่ใช่มิตรแท้ของไทย นายสุเทพกล่าวว่า การคิดอย่างนั้นเป็นการใช้อารมณ์มาคิด ซึ่งคิดอย่างนี้ไม่ได้ ผลประโยชน์ของประเทศชาติเอาไปแลกกับความโกรธหรือความชอบหรือไม่ชอบไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องสนุกที่เราจะไปทะเลาะกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะมีเหตุมีผู้ต้องหาหนีศาลคนหนึ่งมันไม่คุ้มกัน
เมื่อถามว่า หากมองในแง่กลับกันคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาบริเวณชายแดนดีขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่คาดหวังขนาดนั้น แต่ถ้าจะยุนั้นไม่แน่ เรื่องที่จะไปช่วยนั้นคงยาก เมื่อถามต่อว่า แสดงว่ากลัวอยู่เหมือนกันว่าจะเกิดปัญหาชายแดนขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่กลัว กัมพูชาคงไม่พร้อมที่จะมาทะเลาะกับเรา เขาอาจจะชอบไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณมันเรื่องของเขา แต่เรื่องที่เขาจะมาคิดทะเลาะกับไทยเขาคงไม่อยากจะทำ ส่วนการแสดงออกของกัมพูชาไม่ได้นึกถึงความพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่ ซึ่งก็บอกว่าต้องแยกแยะระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างนายกฯกับนายกฯ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์ขอบคุณนายกฯ กัมพูชาอยากฝากอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ฝากพ.ต.ท.ทักษิณจะทวิตฯหรือโฟนอินเขามีเป้าหมายอยู่แล้ว คือ ต้องการให้ประเทศไทยปั่นป่วนเข้าไว้ในเรื่องการปรับการทำงานนั้น ตนคงไม่ต้องปรับ และอะไรที่เหมือนเดิมก็ดูแลไม่ให้ มีการปะทะกันทหารก็คอยพูดจาเจราจาเอาไว้ เกิดปัญหาขึ้นมาไม่ดีสำหรับประเทศเสียบรรยากาศ
เมื่อถามว่า ที่เคยบอกว่ามีความสนิทกับนายฮุนเซน การตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นมาจะทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณกับนายฮุนเซนเขาคบค้ากันมานาน ตนเพิ่งรู้จักและตนเองก็ไม่เคยบอกเป็นเพื่อนสนิทสนมเพียงแต่รู้จักเคยไปมาหาสู่กันบ้าง พอพูดกันได้บ้างก็พูดจากัน แต่ตนคงไม่ก้าวล่วงไปถึงขนาดว่าเขาคบใครได้หรือไม่ได้ไม่ใช่เรื่องของตน
เมื่อถามว่าต้องคุยกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่มีอะไรต้องคุยกัน รอเมื่อเรามีหลักฐานชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปตั้งหลักแหล่งในกัมพูชาชัดเจนแล้ว ตื่นเช้ามา 08.00 น.ไปทำงาน 17.00 น.กลับที่พัก เรารู้อย่างนี้เราก็ดำเนินการตามข้อกฎหมายระหว่างประเทศ ทำเรื่องให้เขาส่งตัวมาถึงตอนนั้น กระทรวงการต่างประเทศก็จะแสดงบทบาทร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด
เมื่อถามว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เป็นสัญญาณอะไรที่จะส่งผลกระทบต่อไทยและประเทศนั้นๆเหมือนกรณีของกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พล.อ.ชวลิต กับ พ.ต.ท.ทักษิณก็ทำงานประสานชัดเจนอยู่แล้ว การที่ พล.อ.ชวลิต เป็นประธานพรรคเพื่อไทย ก็ทำงานเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่แล้ว ดังนั้นมันชัดเจน เราก็แก้ปัญหาของเราไป
เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิตจะเดินทางไปมาเลเซียเป็นห่วงเรื่อง ของการเสนอตั้งนครปัตตานีหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่างที่ตนเรียนแล้วว่า เราไม่มีอะไรที่ต้องไปกลัวทุกอย่างก็ต่อสู้ตามความเป็นจริง เรื่องภายในของไทยเพื่อนบ้านไม่สามารถจะแทรกแซงอะไร แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณหรือ พล.อ.ชวลิตจะเดินสายให้ทั่วอย่างไร ก็ไม่สามารถมาแทรกแซงภายในของไทยได้
เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยเดินเกมอย่างนี้ทำให้รัฐบาลอ่อนไหวหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยอ่อนไหวเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่าเป็นห่วงอนาคตหรือไม่ว่ากัมพูชาจะเป็นภัยคุกคามไทย โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณเรื่องอาวุธฯ ในกัมพูชา นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเขาจะเป็นภัยคุกคามต่อไทยได้ ไม่น่ามีปัญหา ตนเชื่อว่าประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศไม่มีใครอยากมีปัญหา ทุกประเทศคิดอยากอยู่อย่างสันติกับเพื่อนบ้านและต้องการร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
