xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” แหลกลางสภา ขวางรัฐไม่มีสิทธิ์ลากคอ “พ่อแม้ว” ในเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เป็ดเหลิม” สีข้างแหก ห้ามรัฐบาลตะครุบ “นช.แม้ว” ในเขมร โหน รธน.50 รัฐบาลต้องยึดหลักสิทธิพลเมือง ด้าน “มาร์ค” แจงสัมพันธ์ไทย-เขมร ดี กลับกระเพื่อม หลัง “จิ๋ว” กลับจากเขมร พร้อมปูดข่าวสร้างบ้านให้ “ทักษิณ” กรีด “เหลิม” โฆษกรัฐบาลต่างประเทศ ส่วน “ไอ้ตู่” มุกแป้ก งัดเรื่องเก่าพ่นในสภา จนสวนคำแสลงหู “แดงพนมเปญ” ทนไม่ได้ประท้วงวุ่น



วันนี้ (29 ต.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ว่า เรื่องที่เกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้หลักการพูดไม่ใช่หลักการทูตและเป็นนายกรัฐมนตีรที่ปากไว หากตนเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วถูกสื่อมวลชนถาม ตนจะไม่พูดเพราะความจริงยังไม่ปรากฏ ซึ่งทันทีที่มีข่าวว่า สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ปลูกบ้านให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อให้พักอาศัยได้ และอาจมีการขอตัวเพื่อให้เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพราะยังไม่ใช่เรื่องของประเทศไทย ระหว่างที่มีการประชุมอาเซียนซัมมิต นายกฯให้สัมภาษณ์ว่า ระวัง สมเด็จฮุนเซน เป็นเบี้ย เป็นเหยื่อ แต่คนเป็นเบี้ยและเป็นเหยื่อให้คณะปฏิวัติ ชื่อ นายอภิสิทธิ์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ไปชื่นชมอะไรกับคณะปฏิวัติ

“พรรคประชาธิปัตย์อาศัยสถานการณ์การปฏิวัติรัฐประหาร มากระทืบซ้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยทำอะไรผิด มีกฎหมายบรรทัดใด ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริต ดังนั้น การส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้พิจารณาตามความรู้สึก เพราะมีกฎหมายประกอบเป็นองคาพายพ ว่า ต้องดูว่ามีสนธิสัญญากันหรือไม่ และต้องดูตามกติการะหว่างประเทศว่ามีสิทธิตามพลเมืองหรือสิทธิทางการเมืองหรือไม่”

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้อ้างว่า สนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ระบุไว้ 24 ข้อ คือ 1.เหตุที่ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากเรื่องนั้นเกิดจากเหตุการณ์ทางการเมือง แต่เหตุใดนายกฯอาศัยโอกาสซ้ำเติมแบบนี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 82 ระบุว่า รัฐต้องส่งเสริมสัมพันธไมตรีและร่วมมือกับนานาประเทศ และยืดถือหลักในการปฏิบัติอย่างเสมอภาค ตามสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศนั้นๆ เป็นภาคีตามข้อตกลงสหประชาติว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองที่มี 53 ข้อ ซึ่งข้อที่ 15 ระบุว่า คดีใดที่พิจารณาเพียงศาลเดียวถือว่าไม่ส่งผลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ 1.ต้องมีสนธิสัญญา 2.ถ้าไม่มีสนธิสัญญาก็ต้องใช้ช่องทางการทูตที่กำหนดไว้ทั้ง 2 ประเทศระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งความผิดที่จะสามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ต้องมีความผิดที่มีบทลงโทษระบุชัด ซึ่งทั่วโลกไม่มีระบุมีแต่ประเทศนี้ประเทศเดียว สนธิสัญญา 24 ข้อ ในมาตรา 3 กำหนดให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้เป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องเข้าหลักคามผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องเป็นความผิดทั้งของไทยและกัมพูชา ซึ่งความผิดนี้กฎหมายกัมพูชาไม่ได้ระบุไว้ ดังนั้น การส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องใช้กฎหมายที่บังคับใช้ร่วมกันทั้งประเทศไทยและประเทศกัมพูชา หากจะดูกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมีกติกาสากลที่มีสิทธิพลเมืองร่วมกันด้วย จึงอยากถามว่านายกฯเคยอ่านสนธิสัญญาสากลบ้างหรือไม่ และอยากถามว่าที่กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริตนั้นเรื่องอะไร สนธิสัญญาระหว่างประเทศข้อใดที่ต้องส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี นายกฯเคยเห็นการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนบ้างหรือไม่ หากมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจริงมีความผิดเกี่ยวกับเรื่องใด

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในช่วงที่ตนทำหน้าที่นายกฯ และได้พบกับสมเด็จฮุนเซน หลายครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ล่าสุด ที่เกิดปัญหาเพราะ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปทำอะไรที่กัมพูชา และนำเรื่องกลับมา เพราะหากท่านไม่กลับมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่กระทบรัฐบาล และกระทบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ตนก็ไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจง แต่ พล.อ.ชวลิต ยืนยันว่า จะมีการสร้างบ้านพักรองรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็มีหน้าที่ใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปนอกประเทศ เพราะการกระทำของตัวเอง หลังจากมีคำพิพากษาว่าท่านทำผิด ไม่นับคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา เพราะคำขอขณะนี้ไม่มีเฉพาะเรื่องที่ดินรัชดาฯแต่จะมีคดีอื่นๆ เป็นเรื่องของการแปลงสัมปทาน รวมทั้งบางคดีที่มีการพิพากษาไปแล้ว แต่จำหน่ายคดีเฉพาะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่อยู่ในประเทศ ตนไม่เริ่มต้นไปให้ร้ายใคร แต่สมเด็จฮุนเซน มาพูดกระทบความรู้สึกของคนไทย ตนก็มีหน้าที่ชี้แจง

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม ประท้วงว่า นายอภิสิทธิ์ กำลังพูดเท็จในสภา พ.ต.ท.ทักษิณ คดียังไม่ได้พิจารณา เขาจำหน่ายคดีชั่วคราว เพราะผู้ถูกกล่าวหาไม่อยู่ อย่าพูดกำกวม ต้องบอกว่าคดียังไม่ได้พิจารณา ต้องพูดว่ายังมีอีกหลายคดีที่ต้องพิจารณา

นายอภิสิทธิ์ ตอบโต้ว่า ให้ ร.ต.อ.เฉลิม ทนฟังความจริงบ้าง เพราะตนฟัง ร.ต.อ.เฉลิม พูดเท็จมาแต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ตนก็บอกว่า มีหลายคดี คดีหนึ่งพิจารณาเสร็จแล้ว คดีหนึ่งจะเริ่มต้น ก็ต้องจำหน่ายคดี จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม พูดแทรกขึ้นมาว่า ที่บอกว่าตนพูดเท็จ ต้องบอกว่าพูดเรื่องอะไร แต่ที่ตนบอกว่าท่านพูดเท็จ เพราะคดียังไม่มีการพิจารณา นายอภิสิทธิ์พูดเท็จ

“ที่ ร.ต.อ.เฉลิม มากล่าวหาว่าหลายประเทศไม่ยอมรับเรื่องของผม แต่สังเกตบ้างหรือไม่ ทำไมประเทศอังกฤษได้ตัดสินใจถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ และให้การต้อนรับผมมาแล้ว 2 ครั้ง ในปีนี้ ทำไมการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน” นายกฯ ระบุ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อมีการพูดถึงสถานะของรัฐบาลไทย ก็มีการตอบโต้เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ ตนจึงต้องทำหน้าที่ในการปกป้องศักดิ์ศรีของบ้านเมืองเรา ดังนั้น กรณีเกิดมีการเดินทางเข้าไป ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องทำเรื่องขอตัวกลับ ส่วนผู้ที่ถูกขอตัวกลับจะมีข้อต่อสู้ก็ว่าไปตามกระบวนการ ถามอย่างเดียวพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา และสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดทั้งหมด ทำไมไปคิดแทนรัฐบาลต่างประเทศ หรือเป็นโฆษกให้รัฐบาลต่างประเทศ

ด้ายนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักฯ ชี้แจงว่า กระบวนการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะเริ่มได้ต่อเมื่อมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าไปอยู่ในกัมพูชา ซึ่งหน้าที่การติดตามจะเป็นของอัยการสูงสุด จะใช้ช่องทางทางการทูตในฐานะเป็นคู่สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกัมพูชา ขณะนี้จึงไม่สามารถตอบได้ว่ากัมพูชาจะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัด

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกดำเนินคดีในกรณีที่ดินรัชดาฯ นั้นความจริงไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่คนซื้อมีสามีเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น หากคิดแบบมีหิริ โอตัปปะ ก็จะรู้ว่าถูกหรือผิด ตนยืนยันว่าหากสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณทำถือเป็นการทุจริต ตนพร้อมจะเอาใบปริญญาดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก)ไปคืนมหาวิทยาลัยรามคำแหงทันที ตนอยากให้ท่านประธานฯช่วยตบปากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วยเพราะกรณีขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่ใช่หน้าที่ของนายกฯและรัฐมนตรี อยากถามว่าประเทศไทยเดือดร้อนอะไรด้วยที่กัมพูชาจะให้ที่พักแก่พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีการออกมาให้สัมภาษณ์ในระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีให้ลดระดับความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา และอยากรู้ว่ารัฐบาลมีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร และตนไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไรที่เกณฑ์คนมาร้องเพลงชาติไทยที่ต้องร้องเพลงชาติตอนชักธงชาติ ในเวลา 08.00น. ไม่ใช่ในช่วงที่ต้องชักธงชาติไทยลงจากเสา ในเวลา 18.00 น.

ด้านนายสาทิตย์ ได้ชี้แจงต่อว่า ตนหวังว่าคงจะไม่มีการยืมมือต่างชาติมาฟอกความเท็จ และคดีที่ดินรัชดาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาชัดเจนแล้ว ส่วนเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนสุดท้ายก็อาจเหมือนคดีของนายราเกซ สักเสนา ส่วนเรื่องการร้องเพลงชาติ ขณะนี้ผ่านไป 30 จังหวัดมีคนมาร่วมร้องเพลงชาติกว่าล้านคน

“คนร้องเพลงชาติไทย ก็เพราะภูมิใจในความเป็นชาติไทย และผมก็ไม่ทราบว่าการร้องเพลงชาติไทยมันผิดตรงไหน หรือจะให้ร้องเพลงชาติอื่น เพราะคนร้องเพลงไทยเขาภูมิใจความเป็นไทย จึงควรกลับไปตอบตัวเองว่าท่านภูมิใจชาติไหนกันแน่” นายสาทิตย์กล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น