ASTVผู้จัดการรายวัน - "เป็ดเหลิม" กระทู้ถูไถ สีข้างถลอกอ้าง รธน.50 ยึดหลักสิทธิพลเมืองห้ามตระครุบ "แม้ว" ในเขมร "มาร์ค" นำทีม ปชป." สวน แจงสัมพันธ์ 2 ประเทศ "กระเพื่อม" หลัง "ออกญาจิ๋ว" ปูดข่าวสร้างบ้าน กรีดเหลิม แค่! โฆษกเขมร "เทพไท" ชี้ลูกเหลิมทำผิดก็ถูกถอดยศ เลขาพรรค กมม.หวั่น "ถอดยศ" ถูกยื้อ
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ที่พักพิงแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจะตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์ว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ เข่ามาอยู่ที่กัมพูชา ทางรัฐบาลไทยก็จะขอให้กัมพูชา ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีในประเทศไทย ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
**"เป็ดเหลิม"รับใช้"แม้ว"สีข้างถลอก
ร.ต.อ.เฉลิม ได้อภิปรายประกอบกระทู้ถามว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ ใช้หลักการพูด ไม่ใช่หลักการทูต และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ปากไว หากตนเป็นายกฯ แล้วถูกสื่อมวลชนถาม ตนจะไม่พูด เพราะความจริงยังไม่ปรากฎ ซึ่งทันทีที่มีข่าวว่า สมเด็จฮุนเซน สร้างบ้านเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้พักอาศัย และอาจมีการขอตัวเพื่อให้เป็นผู้ร้ายข้ามแดน นายกฯให้สัมภาษณ์ว่า ระวังสมเด็จฮุนเซน จะเป็นเบี้ย เป็นเหยื่อ แต่คนเป็นเบี้ยและเป็นเหยื่อให้คณะปฏิวัติชื่อนายอภิสิทธิ์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ไปชื่นชมอะไรกับคณะปฏิวัติ
"พรรคประชาธิปัตย์อาศัยสถานการณ์การปฏิวัติรัฐประหารมากระทืบซ้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยทำอะไรผิด มีกฎหมายบรรทัดใดที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณทุจริต ดังนั้นการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้พิจารณาตามความรู้สึก เพราะมีกฎหมายประกอบเป็นองคาพายพว่าต้องดูว่ามีสนธิสัญญากันหรือไม่ และต้องดูตามกติการะหว่างประเทศว่ามีสิทธิตามพลเมือง หรือสิทธิทางการเมืองหรือไม่"
ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่าสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาระบุไว้ 24 ข้อคือ 1. เหตุที่ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากเรื่องนั้นเกิดจากเหตุการณ์ทางการเมือง แต่เหตุใดนายกฯ อาศัยโอกาสซ้ำเติมแบบนี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 82 ระบุว่า รัฐต้องส่งเสริมสัมพันธไมตรี และร่วมมือกับนานาประเทศ และยืดถือหลักในการปฏิบัติอย่างเสมอภาค ตามสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศนั้นๆ เป็นภาคีตามข้อตกลงสหประชาติว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองที่มี 53 ข้อ ซึ่งข้อที่ 15 ระบุว่า คดีใดที่พิจารณาเพียงศาลเดียว ถือว่าไม่ส่งผลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดนคือ 1. ต้องมีสนธิสัญญา 2. ถ้าไม่มีสนธิสัญญาก็ต้องใช้ช่องทางการทูตที่กำหนดไว้ทั้ง 2 ประเทศ ระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งความผิดที่จะสามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ต้องมีความผิดที่มีบทลงโทษระบุชัด ซึ่งทั่วโลกไม่มีระบุ มีแต่ประเทศนี้ประเทศเดียว สนธิสัญญา 24 ข้อ ในมาตรา 3 กำหนดให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้เป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องเข้าหลักความผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องเป็นความผิดทั้งของไทยและกัมพูชา ซึ่งความผิดนี้กฎหมายกัมพูชาไม่ได้ระบุไว้
ดังนั้นการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องใช้กฎหมายที่บังคับใช้ร่วมกันทั้งประเทศไทยและกัมพูชา หากจะดูกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมีกติกาสากลที่มีสิทธิพลเมืองร่วมกันด้วย จึงอยากถามว่านายกฯ เคยอ่านสนธิสัญญาสากลบ้างหรือไม่ และอยากถามว่า ที่กล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริตนั้นเรื่องอะไร สนธิสัญญาระหว่างประเทศข้อใดที่ต้องส่งพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี นายกฯเคยเห็นการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนบ้างหรือไม่ หากมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจริง มีความผิดเกี่ยวกับเรื่องใด
**"มาร์ค"จวก"จิ๋ว"ต้นตอป่วน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ตนทำหน้าที่นายกฯ และได้พบกับสมเด็จฮุนเซนหลายครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ล่าสุดที่เกิดปัญหาเพราะพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปทำอะไรที่กัมพูชา และนำเรื่องกลับมา เพราะหากท่านไม่กลับมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่กระทบรัฐบาล และกระทบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ตนก็ไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจง แต่พล.อ.ชวลิต ยืนยันว่าจะมีการสร้างบ้านพักรองรับพ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็มีหน้าที่ใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปนอกประเทศเพราะการกระทำของตัวเองหลังจากมีคำพิพากษาว่าท่านทำผิด ไม่นับคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา เพราะคำขอขณะนี้ไม่มีเฉพาะเรื่องที่ดินรัชดาฯ แต่จะมีคดีอื่นๆ เป็นเรื่องของการแปลงสัมปทาน รวมทั้งบางคดีที่มีการพิพากษาไปแล้วแต่จำหน่ายคดีเฉพาะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่อยู่ในประเทศ ตนไม่ได้เริ่มต้นไปให้ร้ายใคร แต่สมเด็จฮุนเซน มาพูดกระทบความรู้สึกของคนไทย ตนก็มีหน้าที่ชี้แจง
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ประท้วงว่านายอภิสิทธิ์ กำลังพูดเท็จในสภา เพราะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้พิจารณา เพราะมีการจำหน่ายคดีชั่วคราว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาไม่อยู่ ดังนั้นอย่าพูดกำกวม ต้องบอกว่าคดียังไม่ได้พิจารณา ต้องพูดว่ายังมีอีกหลายคดีที่ต้องพิจารณา
**เหลิมเป็นโฆษกรับใช้เขมร
นายอภิสิทธิ์ ก็ตอบโต้ว่าให้ร.ต.อ.เฉลิม ทนฟังความจริงบ้าง เพราะตนฟังร.ต.อ.เฉลิม พูดเท็จมา แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ตนบอกว่ามีหลายคดี คดีหนึ่งพิจารณาเสร็จแล้ว คดีหนึ่งจะเริ่มต้นก็ต้องจำหน่ายคดี
จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม พูดแทรกขึ้นมาว่า ที่บอกว่าตนพูดเท็จ ต้องบอกว่าพูดเรื่องอะไร แต่ที่ตนบอกว่าท่านพูดเท็จ เพราะคดียังไม่มีการพิจารณา นายอภิสิทธิ์พูดเท็จ นายอภิสิทธิ์ จึงสวนไปอีกครั้งว่า " ที่ร.ต.อ.เฉลิม มากล่าวหาว่าหลายประเทศไม่ยอมรับเรื่องของผม แต่สังเกตบ้างหรือไม่ ทำไมประเทศอังกฤษได้ตัดสินใจถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ และให้การต้อนรับผมมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ ทำไมการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีการพูดถึงสถานะของรัฐบาลไทย ก็มีการตอบโต้เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ ตนจึงต้องทำหน้าที่ในการปกป้องศักดิ์ศรีของบ้านเมืองเรา ดังนั้นถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดมีการเดินทางเข้าไป ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องทำเรื่องขอตัวกลับมา ส่วนผู้ที่ถูกขอตัวกลับจะมีข้อต่อสู้ ก็ว่าไปตามกระบวนการ ถามอย่างเดียวพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา และสิ่งที่ร.ต.อ.เฉลิมพูดทั้งหมด ทำไมไปคิดแทนรัฐบาลต่างประเทศ หรือเป็นโฆษกให้รัฐบาลต่างประเทศ
นายอภิสิทธิ์ ได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้ ร.ต.อ.เฉลิม เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ ติดภารกิจ
**คงอยากร้องเพลงชาติเขมร
นายสาทิตย์ ชี้แจงว่ากระบวนการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน จะเริ่มได้ต่อเมื่อมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้าไปอยู่ในกัมพูชา ซึ่งหน้าที่การติดตามจะเป็นของอัยการสูงสุด จะใช้ช่องทางทางการทูตในฐานะเป็นคู่สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขณะนี้จึงไม่สามารถตอบได้ว่า กัมพูชาจะส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวยืนยันว่าหากคดีที่ดินรัชดาถือเป็นการทุจริต ตนพร้อมจะเอาใบปริญญาดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) ไปคืนมหาวิทยาลัยรามคำแหงทันที ตนอยากให้ท่านประธานฯ ช่วยตบปากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้วย เพราะกรณีขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่ใช่หน้าที่ของนายกฯ และรัฐมนตรี อยากถามว่าประเทศไทยเดือดร้อนอะไรด้วย ที่กัมพูชาจะให้ที่พักแก่พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องออกมาให้สัมภาษณ์ในระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้ลดระดับความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา และอยากรู้ว่ารัฐบาลมีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร และตนไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร ที่เกณฑ์คนมาร้องเพลงชาติไทย เพราะการร้องเพลงชาติ ต้องร้องตอนชักธงชาติ ในเวลา 08.00 น. ไม่ใช่ในช่วงที่ต้องชักธงชาติไทยลงจากเสาในเวลา 18.00 น.
ด้านนายสาทิตย์ได้ชี้แจงต่อว่า ตนหวังว่าคงจะไม่มีการยืมมือต่างชาติมาฟอกความเท็จ และคดีที่ดินรัชดา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาชัดเจนแล้ว ส่วนเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สุดท้ายก็อาจเหมือนคดีของนายราเกซ สักเสนา ส่วนเรื่องการร้องเพลงชาติ ขณะนี้ผ่านไป 30 จังหวัด มีคนมาร่วมร้องเพลงชาติกว่าล้านคน ควรกลับไปตอบตัวเองว่า ท่านภูมิใจชาติไหนกันแน่
"ขอท้าให้ไปพูดนอกสภา อย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ท้าเลยถ้าเป็นคนจริง ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องผู้สำเร็จราชการแทนนั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่า เคยมียุดใดหรือมีใครพูดเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งโดยไม่เกรงใจใครบ้าง สถานการณ์อย่างนี้ใครก็รู้ว่าเป็นอย่างไร ยังกล้าพูด ต้องถามว่าเป็นคนไทยหรือไม่" นายสาทิตย์กล่าว
**"ลูกเหลิม" ทำผิดก็ถูกถอดยศ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่ารัฐบาลกลั่นแกล้ง ยกเรื่องการการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณว่า รัฐบาลนี้ไม่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับรัฐบาลทักษิณ ที่ทำลายล้างคู่ต่อสู้ทุกวิถีทาง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายตำรวจเก่าน่าจะรู้หลักของกฏหมายดีว่าผู้ที่มียศไม่ว่า ทหาร หรือตำรวจ ถ้าหากทำความผิดถูกลงโทษ ก็ถูกถอดถอนยศได้ทั้งนั้น
" ถ้าร.ต.อ.เฉลิมจำได้ กรณีลูกชายของตัวเองที่หนีทหาร 15 วัน ก็ถูกถอดยศมาแล้ว แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณนี้ทำความผิดชัดเจน ที่ถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปี จะยกเว้นได้อย่างไร หรือแม้แต่ร.ต.อ.เฉลิมเองก็ตาม ถ้าทำความผิด ก็ถูกถอดยศ ร.ต.อ.ออกมา ต้องใช้คำนำหน้าว่านายเฉลิมเช่นกัน"
**เลขาฯ กมม.หวั่นยื้อ "ถอดยศ"
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีมติเห็นควรให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และควรจะมีการดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมปล่อยให้เรื่องล่าช้ามาจนถึงวันนี้ ที่สำคัญก็ยังไม่แน่นอนว่า แม้คณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีมติไปแล้ว แต่ในขั้นตอนการปฏิบัติ สามารถถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นผลสำเร็จหรือไม่ เพราะเข้าใจว่าเรื่องนี้อาจจะถูกยกไปเป็นเกมต่อรองทางการเมือง ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ หรืออาจจะทำให้เรื่องนี้ยืดเยื้อไปไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งรัฐบาลก็อาจจะใช้วิธีปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป จนพ้นช่วงตัวเองมีอำนาจ แล้วปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่มาตอบคำถามสังคมต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากเสื้อแดงจะนำเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวใหญ่ ก็ต้องมีคำอธิบายต่อสังคมว่า มีความเป็นเหตุเป็นผล หรือมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ เพราะนี่เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ว่าใคร เมื่อมีความผิดทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากกลุ่มนปช. และเครือข่ายพรรคเพื่อไทย จะใช้เรื่องนี้ไปเคลื่อนไหว อาจจะกลายเป็นดาบสองคม ทำลายความชอบธรรม และคะแนนนิยมของพรรคได้เช่นกัน คล้ายๆ กับกรณี พล.อ.ชวลิต เดินสายไปพบสมเด็จฮุนเซน ทำไปทำมากลับทำให้คนรู้สึกว่า พรรคเพื่อไทยกำลังชักศึกเข้าบ้าน ฉะนั้นก็อยากจะให้พรรคเพื่อไทยคิดดูให้ดี หากจะเอาเรื่องนี้ไปเป็นเกมการเมือง
"ที่มีการคาดการกันว่า กรณีนี้จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับคะแนนสงสาร หรือความเห็นใจจากประชาชนนั้น ผมคิดว่าเป็นการคาดการณ์ที่ผิด เพราะถ้าพ.ต.ท.ทักษิณอยากให้คนไทยสงสารและเห็นใจ ก็ควรเห็นใจ แล้วก็สงสารคนไทยและประเทศไทยในขณะนี้ด้วย" นายสุริยะใสกล่าว
**แม้วแหล! มีวีซ่าแต่ไม่มีธุระสหรัฐ
ช่วงเย็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินมายัง รายการวิทยุชุมชนคนรักอุดรคลื่น97.50 ของนายขวัญชัย ไพรพนา โดยตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใดไม่กล้าเดินทางไปประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่า ประเทศออสเตรเลียไปมาแล้ว สหรัฐอเมริกายังมีวีซ่า แต่ไม่รู้มีธุระอะไรจะไป และวันนี้นายอภิสิทธิ์ เปรียบเหมือนขวดโพลาลิส ลอยในน้ำเน่า น้ำไม่สะอาดคนไม่กล้ากิน รอบข้างก็เน่า พูดไปทุกวันมีแต่ทฤษฎี ปฏิบัติไม่มี
"วันนี้ปล่อยให้คนไร้อาชีพยึดการเมืองเป็นอาชีพ วันนี้พร้อมใจกันทุจริตกันแต่มีคนปกป้องกัน เพราะฉะนั้นเราต้องอดทนอีกไมนานสิ่งเหล่านี้จะหมดไป สำคัญเราอย่าไปหมดกำลังใจ อย่าล้า อย่าเหนื่อย พวกมันจะดูถูก มีผู้ใหญ่คนหนึ่งคุยกับพรรคพวกผม บอกอีกไม่นานเสื้อแดงฝ่อหมด เพราะฉะนั้นเราอย่าล้า อย่าเหนื่อย ผมไม่ยอมแพ้แน่".
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ที่พักพิงแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจะตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์ว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ เข่ามาอยู่ที่กัมพูชา ทางรัฐบาลไทยก็จะขอให้กัมพูชา ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีในประเทศไทย ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
**"เป็ดเหลิม"รับใช้"แม้ว"สีข้างถลอก
ร.ต.อ.เฉลิม ได้อภิปรายประกอบกระทู้ถามว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ ใช้หลักการพูด ไม่ใช่หลักการทูต และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ปากไว หากตนเป็นายกฯ แล้วถูกสื่อมวลชนถาม ตนจะไม่พูด เพราะความจริงยังไม่ปรากฎ ซึ่งทันทีที่มีข่าวว่า สมเด็จฮุนเซน สร้างบ้านเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้พักอาศัย และอาจมีการขอตัวเพื่อให้เป็นผู้ร้ายข้ามแดน นายกฯให้สัมภาษณ์ว่า ระวังสมเด็จฮุนเซน จะเป็นเบี้ย เป็นเหยื่อ แต่คนเป็นเบี้ยและเป็นเหยื่อให้คณะปฏิวัติชื่อนายอภิสิทธิ์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ไปชื่นชมอะไรกับคณะปฏิวัติ
"พรรคประชาธิปัตย์อาศัยสถานการณ์การปฏิวัติรัฐประหารมากระทืบซ้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยทำอะไรผิด มีกฎหมายบรรทัดใดที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณทุจริต ดังนั้นการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้พิจารณาตามความรู้สึก เพราะมีกฎหมายประกอบเป็นองคาพายพว่าต้องดูว่ามีสนธิสัญญากันหรือไม่ และต้องดูตามกติการะหว่างประเทศว่ามีสิทธิตามพลเมือง หรือสิทธิทางการเมืองหรือไม่"
ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่าสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาระบุไว้ 24 ข้อคือ 1. เหตุที่ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากเรื่องนั้นเกิดจากเหตุการณ์ทางการเมือง แต่เหตุใดนายกฯ อาศัยโอกาสซ้ำเติมแบบนี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 82 ระบุว่า รัฐต้องส่งเสริมสัมพันธไมตรี และร่วมมือกับนานาประเทศ และยืดถือหลักในการปฏิบัติอย่างเสมอภาค ตามสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศนั้นๆ เป็นภาคีตามข้อตกลงสหประชาติว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองที่มี 53 ข้อ ซึ่งข้อที่ 15 ระบุว่า คดีใดที่พิจารณาเพียงศาลเดียว ถือว่าไม่ส่งผลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดนคือ 1. ต้องมีสนธิสัญญา 2. ถ้าไม่มีสนธิสัญญาก็ต้องใช้ช่องทางการทูตที่กำหนดไว้ทั้ง 2 ประเทศ ระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งความผิดที่จะสามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ต้องมีความผิดที่มีบทลงโทษระบุชัด ซึ่งทั่วโลกไม่มีระบุ มีแต่ประเทศนี้ประเทศเดียว สนธิสัญญา 24 ข้อ ในมาตรา 3 กำหนดให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้เป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องเข้าหลักความผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องเป็นความผิดทั้งของไทยและกัมพูชา ซึ่งความผิดนี้กฎหมายกัมพูชาไม่ได้ระบุไว้
ดังนั้นการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องใช้กฎหมายที่บังคับใช้ร่วมกันทั้งประเทศไทยและกัมพูชา หากจะดูกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมีกติกาสากลที่มีสิทธิพลเมืองร่วมกันด้วย จึงอยากถามว่านายกฯ เคยอ่านสนธิสัญญาสากลบ้างหรือไม่ และอยากถามว่า ที่กล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริตนั้นเรื่องอะไร สนธิสัญญาระหว่างประเทศข้อใดที่ต้องส่งพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี นายกฯเคยเห็นการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนบ้างหรือไม่ หากมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจริง มีความผิดเกี่ยวกับเรื่องใด
**"มาร์ค"จวก"จิ๋ว"ต้นตอป่วน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ตนทำหน้าที่นายกฯ และได้พบกับสมเด็จฮุนเซนหลายครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ล่าสุดที่เกิดปัญหาเพราะพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปทำอะไรที่กัมพูชา และนำเรื่องกลับมา เพราะหากท่านไม่กลับมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่กระทบรัฐบาล และกระทบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ตนก็ไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจง แต่พล.อ.ชวลิต ยืนยันว่าจะมีการสร้างบ้านพักรองรับพ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็มีหน้าที่ใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปนอกประเทศเพราะการกระทำของตัวเองหลังจากมีคำพิพากษาว่าท่านทำผิด ไม่นับคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา เพราะคำขอขณะนี้ไม่มีเฉพาะเรื่องที่ดินรัชดาฯ แต่จะมีคดีอื่นๆ เป็นเรื่องของการแปลงสัมปทาน รวมทั้งบางคดีที่มีการพิพากษาไปแล้วแต่จำหน่ายคดีเฉพาะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่อยู่ในประเทศ ตนไม่ได้เริ่มต้นไปให้ร้ายใคร แต่สมเด็จฮุนเซน มาพูดกระทบความรู้สึกของคนไทย ตนก็มีหน้าที่ชี้แจง
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ประท้วงว่านายอภิสิทธิ์ กำลังพูดเท็จในสภา เพราะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้พิจารณา เพราะมีการจำหน่ายคดีชั่วคราว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาไม่อยู่ ดังนั้นอย่าพูดกำกวม ต้องบอกว่าคดียังไม่ได้พิจารณา ต้องพูดว่ายังมีอีกหลายคดีที่ต้องพิจารณา
**เหลิมเป็นโฆษกรับใช้เขมร
นายอภิสิทธิ์ ก็ตอบโต้ว่าให้ร.ต.อ.เฉลิม ทนฟังความจริงบ้าง เพราะตนฟังร.ต.อ.เฉลิม พูดเท็จมา แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ตนบอกว่ามีหลายคดี คดีหนึ่งพิจารณาเสร็จแล้ว คดีหนึ่งจะเริ่มต้นก็ต้องจำหน่ายคดี
จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม พูดแทรกขึ้นมาว่า ที่บอกว่าตนพูดเท็จ ต้องบอกว่าพูดเรื่องอะไร แต่ที่ตนบอกว่าท่านพูดเท็จ เพราะคดียังไม่มีการพิจารณา นายอภิสิทธิ์พูดเท็จ นายอภิสิทธิ์ จึงสวนไปอีกครั้งว่า " ที่ร.ต.อ.เฉลิม มากล่าวหาว่าหลายประเทศไม่ยอมรับเรื่องของผม แต่สังเกตบ้างหรือไม่ ทำไมประเทศอังกฤษได้ตัดสินใจถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ และให้การต้อนรับผมมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ ทำไมการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีการพูดถึงสถานะของรัฐบาลไทย ก็มีการตอบโต้เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ ตนจึงต้องทำหน้าที่ในการปกป้องศักดิ์ศรีของบ้านเมืองเรา ดังนั้นถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดมีการเดินทางเข้าไป ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องทำเรื่องขอตัวกลับมา ส่วนผู้ที่ถูกขอตัวกลับจะมีข้อต่อสู้ ก็ว่าไปตามกระบวนการ ถามอย่างเดียวพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา และสิ่งที่ร.ต.อ.เฉลิมพูดทั้งหมด ทำไมไปคิดแทนรัฐบาลต่างประเทศ หรือเป็นโฆษกให้รัฐบาลต่างประเทศ
นายอภิสิทธิ์ ได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้ ร.ต.อ.เฉลิม เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ ติดภารกิจ
**คงอยากร้องเพลงชาติเขมร
นายสาทิตย์ ชี้แจงว่ากระบวนการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน จะเริ่มได้ต่อเมื่อมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้าไปอยู่ในกัมพูชา ซึ่งหน้าที่การติดตามจะเป็นของอัยการสูงสุด จะใช้ช่องทางทางการทูตในฐานะเป็นคู่สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขณะนี้จึงไม่สามารถตอบได้ว่า กัมพูชาจะส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวยืนยันว่าหากคดีที่ดินรัชดาถือเป็นการทุจริต ตนพร้อมจะเอาใบปริญญาดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) ไปคืนมหาวิทยาลัยรามคำแหงทันที ตนอยากให้ท่านประธานฯ ช่วยตบปากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้วย เพราะกรณีขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่ใช่หน้าที่ของนายกฯ และรัฐมนตรี อยากถามว่าประเทศไทยเดือดร้อนอะไรด้วย ที่กัมพูชาจะให้ที่พักแก่พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องออกมาให้สัมภาษณ์ในระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้ลดระดับความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา และอยากรู้ว่ารัฐบาลมีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร และตนไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร ที่เกณฑ์คนมาร้องเพลงชาติไทย เพราะการร้องเพลงชาติ ต้องร้องตอนชักธงชาติ ในเวลา 08.00 น. ไม่ใช่ในช่วงที่ต้องชักธงชาติไทยลงจากเสาในเวลา 18.00 น.
ด้านนายสาทิตย์ได้ชี้แจงต่อว่า ตนหวังว่าคงจะไม่มีการยืมมือต่างชาติมาฟอกความเท็จ และคดีที่ดินรัชดา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาชัดเจนแล้ว ส่วนเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สุดท้ายก็อาจเหมือนคดีของนายราเกซ สักเสนา ส่วนเรื่องการร้องเพลงชาติ ขณะนี้ผ่านไป 30 จังหวัด มีคนมาร่วมร้องเพลงชาติกว่าล้านคน ควรกลับไปตอบตัวเองว่า ท่านภูมิใจชาติไหนกันแน่
"ขอท้าให้ไปพูดนอกสภา อย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ท้าเลยถ้าเป็นคนจริง ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องผู้สำเร็จราชการแทนนั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่า เคยมียุดใดหรือมีใครพูดเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งโดยไม่เกรงใจใครบ้าง สถานการณ์อย่างนี้ใครก็รู้ว่าเป็นอย่างไร ยังกล้าพูด ต้องถามว่าเป็นคนไทยหรือไม่" นายสาทิตย์กล่าว
**"ลูกเหลิม" ทำผิดก็ถูกถอดยศ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่ารัฐบาลกลั่นแกล้ง ยกเรื่องการการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณว่า รัฐบาลนี้ไม่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับรัฐบาลทักษิณ ที่ทำลายล้างคู่ต่อสู้ทุกวิถีทาง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายตำรวจเก่าน่าจะรู้หลักของกฏหมายดีว่าผู้ที่มียศไม่ว่า ทหาร หรือตำรวจ ถ้าหากทำความผิดถูกลงโทษ ก็ถูกถอดถอนยศได้ทั้งนั้น
" ถ้าร.ต.อ.เฉลิมจำได้ กรณีลูกชายของตัวเองที่หนีทหาร 15 วัน ก็ถูกถอดยศมาแล้ว แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณนี้ทำความผิดชัดเจน ที่ถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปี จะยกเว้นได้อย่างไร หรือแม้แต่ร.ต.อ.เฉลิมเองก็ตาม ถ้าทำความผิด ก็ถูกถอดยศ ร.ต.อ.ออกมา ต้องใช้คำนำหน้าว่านายเฉลิมเช่นกัน"
**เลขาฯ กมม.หวั่นยื้อ "ถอดยศ"
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีมติเห็นควรให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และควรจะมีการดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมปล่อยให้เรื่องล่าช้ามาจนถึงวันนี้ ที่สำคัญก็ยังไม่แน่นอนว่า แม้คณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีมติไปแล้ว แต่ในขั้นตอนการปฏิบัติ สามารถถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นผลสำเร็จหรือไม่ เพราะเข้าใจว่าเรื่องนี้อาจจะถูกยกไปเป็นเกมต่อรองทางการเมือง ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ หรืออาจจะทำให้เรื่องนี้ยืดเยื้อไปไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งรัฐบาลก็อาจจะใช้วิธีปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป จนพ้นช่วงตัวเองมีอำนาจ แล้วปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่มาตอบคำถามสังคมต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากเสื้อแดงจะนำเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวใหญ่ ก็ต้องมีคำอธิบายต่อสังคมว่า มีความเป็นเหตุเป็นผล หรือมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ เพราะนี่เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ว่าใคร เมื่อมีความผิดทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากกลุ่มนปช. และเครือข่ายพรรคเพื่อไทย จะใช้เรื่องนี้ไปเคลื่อนไหว อาจจะกลายเป็นดาบสองคม ทำลายความชอบธรรม และคะแนนนิยมของพรรคได้เช่นกัน คล้ายๆ กับกรณี พล.อ.ชวลิต เดินสายไปพบสมเด็จฮุนเซน ทำไปทำมากลับทำให้คนรู้สึกว่า พรรคเพื่อไทยกำลังชักศึกเข้าบ้าน ฉะนั้นก็อยากจะให้พรรคเพื่อไทยคิดดูให้ดี หากจะเอาเรื่องนี้ไปเป็นเกมการเมือง
"ที่มีการคาดการกันว่า กรณีนี้จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับคะแนนสงสาร หรือความเห็นใจจากประชาชนนั้น ผมคิดว่าเป็นการคาดการณ์ที่ผิด เพราะถ้าพ.ต.ท.ทักษิณอยากให้คนไทยสงสารและเห็นใจ ก็ควรเห็นใจ แล้วก็สงสารคนไทยและประเทศไทยในขณะนี้ด้วย" นายสุริยะใสกล่าว
**แม้วแหล! มีวีซ่าแต่ไม่มีธุระสหรัฐ
ช่วงเย็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินมายัง รายการวิทยุชุมชนคนรักอุดรคลื่น97.50 ของนายขวัญชัย ไพรพนา โดยตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใดไม่กล้าเดินทางไปประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่า ประเทศออสเตรเลียไปมาแล้ว สหรัฐอเมริกายังมีวีซ่า แต่ไม่รู้มีธุระอะไรจะไป และวันนี้นายอภิสิทธิ์ เปรียบเหมือนขวดโพลาลิส ลอยในน้ำเน่า น้ำไม่สะอาดคนไม่กล้ากิน รอบข้างก็เน่า พูดไปทุกวันมีแต่ทฤษฎี ปฏิบัติไม่มี
"วันนี้ปล่อยให้คนไร้อาชีพยึดการเมืองเป็นอาชีพ วันนี้พร้อมใจกันทุจริตกันแต่มีคนปกป้องกัน เพราะฉะนั้นเราต้องอดทนอีกไมนานสิ่งเหล่านี้จะหมดไป สำคัญเราอย่าไปหมดกำลังใจ อย่าล้า อย่าเหนื่อย พวกมันจะดูถูก มีผู้ใหญ่คนหนึ่งคุยกับพรรคพวกผม บอกอีกไม่นานเสื้อแดงฝ่อหมด เพราะฉะนั้นเราอย่าล้า อย่าเหนื่อย ผมไม่ยอมแพ้แน่".