xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” ท้า “มาร์ค” ตอบกระทู้สดพรุ่งนี้ อ้างประวัติ สตช.ไม่เคยมีการถอดยศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
“เหลิม-ไอ้ตู่” ดาหน้าขวางรัฐถอดยศ “แม้ว” พร้อมแขวะรัฐบาลฟังกฤษฎีกาเฉพาะที่เป็นประโยชน์ อ้างในประวัติศาสตร์ สตช.ไม่เคยมีการพิจารณาถอดถอนยศมาก่อน นอกจากทำความผิดร้ายแรง เสี้ยม ตร.ตั้งหลักให้ดีอย่ากลายเป็นเครื่องมือ ท้า “มาร์ค” ตอบกระทู้ดัวยตัวเองพรุ่งนี้ “จตุพร” ย้ำชุมนุมหลัง 14 พ.ย.แน่

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.30 น.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเรื่องแนวทางการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ว่า เชื่อว่า การดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องจากกระแสข่าวที่ผู้นำประเทศกัมพูชาพร้อมให้การต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเตรียมสร้างบ้านพักรับรองไว้ให้ที่กรุงพนมเปญ หากเดินทางมายังประเทศกัมพูชา จึงเกิดความพยายามถอดยศ และริบเครื่องราชฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ คืน ซึ่งตามปกติแล้ว การให้คำปรึกษาของกฤษฎีกานั้น รัฐบาลจะรับฟังหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า การถอดยศและริบเครื่องราชฯกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีการก่อตั้งกรมตำรวจ จนมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะกฎระเบียบที่กำหนดไว้นั้น การถอดยศและริบเครื่องราชฯ จะต้องกระทำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำรงตำแหน่งอยู่ สำหรับลักษณะความผิดที่ถึงขั้นไล่ออกถอดยศ คือ การหนีราชการ การทุจริตประพฤติมิชอบที่เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือประเทศ การมีส่วนพัวพันกับยาเสพติด และการคบชู้สู่สาว ทั้งหมดต้องผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนในฐานะอดีตสารวัตรกองปราบปรามจึงอยากเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตั้งหลักให้ดี และควรยึดหลักในการปฏิบัติ

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะรู้ดีว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ส่วนการพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีซื้อที่ดินรัชดานั้น เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำความผิดตามข้อห้ามของกฎหมาย ไม่ใช่ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) หากนายกรัฐมนตรีแน่จริง ก็ขอให้เดินทางมาตอบกระทู้เรื่อง ความชัดเจนการดำเนินการตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ในกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะสร้างบ้านรองรับให้ พ.ต.ท.ทักษิณ

ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวถึงการตั้งกระทู้ถามสดในวันที่ 29 ต.ค.ว่า เป็นการสอบถามถึงความคืบหน้าต่อการดำเนินคดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีจะต้องตอบคำถามในกรณีดังกล่าว อาทิ การไม่นำทหาร ตำรวจ ที่ได้รับพระราชทานยศชั้นนายพล เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และไปปาฐกถาที่ตลาดหลักทรัพย์ จนมีการแจ้งดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการใช้เอกสารเท็จสมัครเข้าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่มีการแจ้งคดีไว้ที่กองปราบปราม กระทรวงกลาโหม และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าใช้เอกสารเท็จ ซึ่งจะนำไปสู่การปลดออก การถอดยศ และพ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ยังได้มีการแจ้งความต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในกรณีการบุกรุกป่าสงวนเขายายเที่ยง ด้วย

สำหรับกรณีการแจ้งความดำเนินคดี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กรณีพาดพิง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ในการเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนทรยศชาตินั้น นายจตุพร กล่าวว่า มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ จ.นนทบุรี และนายกฯต้องตอบกระทู้ดังกล่าวถึงคดีความว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหน โดยกระทู้ดังกล่าวจะต่อจากกระทู้ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะยื่นกระทู้ต่อสภาในวันดังกล่าว และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา คนที่ 2 จะเป็นผู้พิจารณา

ส่วนกรณีที่ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาวิจารณ์ถึงการตั้งกระทู้ในลักษณะว่ามักจะเป็นปัญหาทุกทีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายชินวรณ์ นั้น วอนจนชิน สูตรของพรรคประชาธิปัตย์ คือ สมาชิกพรรคดาหน้าขึ้นมาประท้วง จนทำให้เกิดความรำคาญ แต่ตนก็จะทน ส่วนใครจะแสดงท่าทีออกมาอย่างไรไม่มีปัญหา แต่หากถามถึงการดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐสภาไว้ทำไม นายอภิสิทธิ์ มีฐานะเท่ากับตนตามกฎหมาย พล.อ.เปรม ก็มีสิทธิ์เท่ากับตนตามกฎหมาย กฎหมายไม่ได้เว้น พล.อ.เปรม และ นายอภิสิทธิ์ จึงต้องถามความคืบหน้าในการดำเนินคดี

สำหรับกรณีที่จะมีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น นายจตุพร กล่าวว่า คนที่ไม่มีสิทธิ์ใช้เลย คือ นายอภิสิทธิ์ ที่หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารเป็นเท็จในการสมัครเข้ามาเป็นอาจารย์ที่ จปร.แต่เมื่อเทียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นมีสิทธิ์ใช้ยศเพราะจบนายร้อย จปร นายอภิสิทธิ์ ไม่ควรใช้ยศว่าที่ร้อยตรีด้วยซ้ำ และยังกระจอกกว่าคนไทยทุกคน ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ยังคงตามกำหนดการเดิม คือ หลังจากวันที่ 14 พ.ย.โดยในวันที่ 29 ต.ค.นั้นกลุ่ม นปช.จะมีการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การชุมนุมนั้นจะเกิดหลังคอนเสิร์ตระดมทุนที่จะจัดขึ้น ณ เขาใหญ่ โบนันซ่า
กำลังโหลดความคิดเห็น