“ผบ.ทบ.” ปฏิเสธให้ความเห็นกรณี “พล.อ.ชวลิต” ไปเยือน “ฮุนเซน” จนกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ยืนยันสถานการณ์ชายแดนยังปกติดี ประกาศจุดยืนจะไม่ใช้กำลังเพื่อตัดสินข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร
วันนี้ (27 ต.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ตอบคำถามสื่อถึงการเดินทางไปกัมพูชาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคเพื่อไทย จะทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนอยากเรียนด้วยความจริงใจคือไม่ทราบจริงๆ ตนไม่ทราบว่าที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปกัมพูชาไปเรื่องส่วนตัว หรือไปพูดคุยในฐานะอะไรตนไม่มีความรู้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะให้ไปตัดสินว่าผลจะออกมาดีหรือไม่ดีอย่างไร
เมื่อถามว่า การเดินทางเยือนประเทศเพื่อนบ้านของ พล.อ.ชวลิต จะทำให้เกิดการกระทบต่อการทำงานของกองทัพ หรือมีการเชื่อมโยงอะไรหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนทราบเท่าที่มีข่าวออกมา ท่านก็ทราบดีว่าจะกระทบหรือไม่กระทบรัฐบาลก็ชี้แจงอยู่ ดังนั้นก็อยากให้กลไกที่เกี่ยวข้องชี้แจงอย่าให้ตนไปวิพากษ์วิจารณ์เลยมันน่าจะดีกว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็ตอบแล้ว ตนคงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวน่าจะดีกว่า
ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารยังมีความสัมพันธ์อันดี และยังเป็นไปตามกรอบนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ในการแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กลไกในการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชาแบบทวิภาคี ส่วนความเคลื่อนไหวทางทหารนั้นยังไม่มี และทราบมาว่าทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงยืนยันว่า จะไม่มีการใช้กำลังระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งเขายืนยันมาอย่างนั้น พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงไปในพื้นที่เสียมเลียบ และพนมเปญ ประมาณ 2-3 วัน
“การเดินทางไปกัมพูชาของแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา และแม่ทัพภาคที่ 2 ของเรา ซึ่งมีพื้นที่ที่รับผิดชอบติดต่อกันก็จะเดินไปมาหาสู่กัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาเราไม่ได้ใช้กำลังเพียงแต่เรารักษาสภาพอยู่ในเวลานี้ แต่กลไกทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายจะแก้ปัญหาตรงนี้ และผมยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะไม่มีการสู้รบกัน และจะไม่มีการใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาอย่างแน่นอน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว