“นพดล” บอก “ทักษิณ” ปลื้มโพลคะแนนนิยมดีกว่า “มาร์ค” คุย 1 พ.ย.เปิด 3 โปรเจกต์ดึงฐานเสียง พร้อมท้า ปชป.เร่งออกหนังสือแฉสัมพันธ์ “แม้ว-ฮุนเซน” ทำสอน “มาร์ค” ไม่ควรนำเรื่องทางทูตมาแก้ปัญหาการเมือง ปรามาสนายกฯ คง แก้ปัญหาที่ทับซ้อนเขาพระวิหารไม่ได้
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทราบผลสำรวจความนิยมของเอแบคโพลล์แล้ว รู้สึกดีใจที่ความนิยมยังสูงกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถึงร้อยละ 5 แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกปิดกั้นจากสื่อหลายประเภท และมีความพยายามดิสเครดิตจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ความนิยมของประชาชนยังสูงอยู่ โดยในวันที่ 1 พ.ย.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเปิดทีวี 100 ช่อง ซึ่งจะมีช่องโอทอปและการศึกษา และจะทวิตเตอร์คำแนะนำในการประกอบธุรกิจให้แก่ผู้สนใจเข้าไปศึกษา ในส่วนของประชาชนทั่วไป พ.ต.ท.ทักษิณจะเผยแพร่ข่าวสารผ่านเอสเอ็มเอสเข้าโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ
นายนพดลกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะพิมพ์หนังสือแฉข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯ ฮุนเซนนั้น ขอให้รีบจัดทำออกมา เก่งไม่กลัว กลัวช้า แต่อย่าให้เหมือนกับกรณีเอกสารเท็จเพียงแผ่นเดียวเรื่องสัญชาติของนายบรรหาร ศิลปอาชา หากมีเอกสารเท็จที่สร้างความเสื่อมเสียตนจะฟ้องร้องทันที และขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงหรือทับซ้อน การเข้าไปทำธุรกิจในกัมพูชาไม่ต่างจากนักธุรกิจคนอื่นๆ ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งมีการเสียภาษีถูกต้อง โดยยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคยเข้าไปลงทุนทำกิจการโทรทัศน์ดาวเทียมไอบีซี และโดยส่วนตัวก็เป็นเพื่อนกับสมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะต่างดำรงตำแหน่งนายกฯติดต่อกันเป็นเวลานาน
“นายอภิสิทธิ์ไม่ควรเอาเรื่องทางการทูตมาแก้ปัญหาการเมืองของตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน มีมิตรภาพที่ดีให้กัน ความอยุติธรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่เข้าใจ แต่คนต่างชาติก็เห็นใจ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเลือกระหว่างความสัมพันธ์ของประเทศ” นายนพดลกล่าว
นายนพดลกล่าวอีกว่า การที่นายอภิสิทธิ์ขอให้สมเด็จฯ ฮุนเซนเลือกระหว่างประเทศไทยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นความเข้าใจผิด เพราะนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่ประเทศไทย เป็นเพียงโชเฟอร์ที่มาแทนคนเก่า ซึ่งถูกอำมาตย์ถีบลงจากตำแหน่ง เชื่อว่าสมเด็จฯ ฮุนเซนจะเลือกประเทศไทยแต่ไม่เลือกรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เพราะบริหารด้านต่างประเทศล้มเหลว มีปัญหากับประเทศพม่าและกัมพูชา ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์เคยมีโอกาสเลือกได้ระหว่างประเทศไทยกับนายกษิต ภิรมย์ แต่ก็เลือกนายกษิตทั้งที่รู้ดีว่าเป็นปฏิปักษ์กับผู้นำต่างประเทศ
“คำพูดของนายอภิสิทธิ์ที่เตือนสมเด็จฯ ฮุนเซน เรื่องระวังจะเป็นเหยื่อหรือเบี้ยนั้น เป็นวาทะกรรมทางการทูตที่โรงเรียนชั้นนำไม่สอนกัน ถือเป็นการชี้หน้าด่าเพื่อน ไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย และยิ่งจะนำพาประเทศให้ดิ่งเหวโดยยากที่จะแก้ไข” นายนพดลกล่าว
อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนของปัญหาพื้นที่ทับซ้อนรัฐบาลนี้ก็ย่อหย่อนทำให้เสียพื้นที่ในทางพฤตินัย ซึ่งนายกฯจะต้องทบทวนบทบาทตัวเอง สำหรับปัญหาปราสาทพระวิหารนั้น ขอให้นายกฯ เคารพในกฎบัตรสหประชาชาติ มิเช่นนั้นประเทศไทยจะเป็นสมาชิกยูเอ็นไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ รู้ดีว่าเราแพ้คดีปราสาทพระวิหารแต่ยังโกหกคนไทยว่ารื้อฟื้นได้
“ผมขอปรามาสว่านายอภิสิทธิ์ไม่สามารถแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนได้ นอกจากนี้ยังเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรตีสองหน้าเรื่องกัมพูชา ด้วยการให้คนหนึ่งออกมาพูดว่าเรื่องปราสาทพระวิหารจบไปนานแล้ว แต่ให้อีกคนออกมาพูดว่ายังรื้อฟื้นได้” อดีต รมว.ต่างประเทศ ย้ำ
นอกจากนี้ นายนพดลกล่าวอีกว่า สำหรับการประเมินผลการประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งนี้ มีรถคว่ำมากที่สุด ผู้นำประเทศเข้าร่วมประชุมน้อยที่สุด และข่าวที่ได้รับการเผยแพร่มากที่สุดคือวิวาทะของผู้นำไทยกับผู้นำกัมพูชา อย่างไรก็ตามนายนพดลไม่ได้บอกว่า วิวาทะดังกล่าวนายฮุนเซน เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน และถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยที่อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณโดนคดีการเมืองไม่ใช่คดีทุจริต