xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.กระทู้สด จี้รัฐเร่งลากตัว 4 แก๊งปล่อยข่าวลือทุบตลาดหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง
ส.ว.สมชาย กระทู้ถามสดรัฐบาลจี้เร่งจัดการ 4 แก๊ง-สำนักข่าว ตปท.ปล่อยข่าวทุบตลาดหุ้น แนะแค่ ก.ล.ต.-ดีเอสไอ ไม่พอต้องดึง “ปปง.” ช่วยสอบเส้นทางการเงิน ปูดมี 6 เสี่ยใหญ่-มาดามสีฟ้า ผู้ใกล้ชิดนักการเมืองปั่นตัวเลข ด้าน “กรณ์” ยอมรับ “ก.ล.ต.-ตลท.” ไร้ฝีมือทำข่าวกระจายเกินเหตุ เผยประสาน ก.ล.ต.ต่างประเทศ-สันติบาลสอบเส้นทางการเงิน



คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การถามตอบกระทู้ถามสด

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภาได้พิจารณากระทู้ถามด่วนเรื่องปัญหาการปล่อยข่าวทุบหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ถามนายกฯ ว่า ข่าวที่เกิดขึ้นรัฐบาลต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ต้องจับกุมเอาผิดผู้ปล่อยข่าว และดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดไม่ใช่แค่ปรับ เพราะถือเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ซึ่งขบวนการดังกล่าวมีกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มซ้ายไร้เดียงสาที่นั่งหลงยุคกับทฤษฎีมาร์คซิสม์ ที่มีนายใจ อึ๊งภากรณ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข คอยดำเนินการ 2.
กลุ่มตุลาอกหักที่ยังเคียดแค้นสถาบัน แต่กลับไม่กลัวกลุ่มทุนของนายใหญ่

3.กลุ่มที่จ้องดิสเครดิตรัฐบาล โจมตีรัฐบาล จุดประสงค์เพื่อต้องการให้ยุบสภา และ 4.กลุ่มหิวเงินที่ต้องการทุนในการเลือกตั้ง นอกเหนือจากนั้นเป็นพวกแห่ตาม สู้แล้วรวย ซึ่งเป็นกระบวนการจัดตั้งที่มีนายสมเกียรติ เหวียง ลูกครึ่งไทย-เวียดนาม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบูมเบิร์กคอยกระจายข่าว โดยมีเครือข่ายหนังสืออินเดอะเพนเดนท์ สยามแดง เดอะเฟิร์สสเตรทเมนท์ นำไปวิเคราะห์และเผยแพร่ต่อ

นายสมชายกล่าวอีกว่า สมัยนี้การเล่นหุ้นในลักษณะการพนัน ที่มี “เสี่ย ต.อาวุโส-เสี่ย ป.อาวุโส” “เสี่ย ย.-เสี่ย ว.-เสี่ย ส.-เสี่ย พ. ผู้ใกล้ชิดนักการเมือง และมาดามสีฟ้า” ที่ปัจจุบันเล่นกันถึงเล่นดัชนีเซทฟิฟตี้ มูลค่าต่างกันถึง 60 จุด ถามว่าได้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ ถ้าได้พอยท์ละ 2 เปอร์เซ็นต์ ลองคิดว่าถ้าแทงกัน 100 ล้าน 1,000 ล้านจะได้เท่าไหร่ เรื่องนี้ แค่ดีเอสไอ ก.ล.ต.ไม่พอต้องให้ ปปง.ไปสอบเส้นทางการเงินด้วย เพราะทำให้มาร์เกตแคปเสียไปกว่า แสนล้านบาท ต้องให้ทุกหน่วยร่วมกันบูรณาการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อไม่ให้มีการทุบหุ้นเกิดขึ้นมาอีก เพราะเรื่องนี้ทำให้กระทบกระเทือนถึงพระองค์ท่านที่ต้องออกมาปรากฎเป็นข่าว

ด้าน นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ตอบกระทู้แทนนายกฯ ว่า เห็นด้วยกับสมาชิกที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นขบวนการปล่อยข่าวอัปมงคล ซึ่งข่าวลือที่ออกมามีผลกระทบต่อการลงทุน และที่ผ่านมาข่าวลือมักเกี่ยวกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยตรง แต่ข้อเท็จจริงในกรณีนี้ อาจใช้คำว่าละเลยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะหาข้อมูล ข้อเท็จจริงมาอธิบายกับผู้ลงทุน ทำให้ข่าวแพร่กระจายเกินจำเป็น ซึ่งตนได้ตำหนิทั้ง 2 หน่วยงาน คือ ก.ล.ต. และ ตลท.แล้ว ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบจะดำเนินการตรวจสอบใน 2 มิติ คือ การตรวจสอบที่มาของข่าว และผู้เผยแพร่ข่าว ขณะที่อีกมิติคือการซื้อขายว่าใครได้ประโยชน์จากข่าวลือดังกล่าวหรือไม่ มีการเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อขายกับผู้ปล่อยข่าวหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่ามีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศดำเนินการเทขายมา 1 อาทิตย์ล่วงหน้า โดยบางรายขายมากพิเศษ และในวันที่ข่าวลือปรากฏมีการซื้อกลับคืนในบัญชีเดียวกัน แต่เพื่อความเป็นธรรมจะยังไม่ขอเปิดเผยนาม

นายกรณ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม คงยังสรุปไม่ได้ว่ามีการรู้ล่วงหน้าหรือไม่ เพราะวันที่ 15 ต.ค.ที่กลับเข้ามาช้อนซื้อก็มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าข่าวลือไม่เป็นจริง อาจกลับมาซื้อโดยธรรมชาติ ซึ่งตนได้ให้ ก.ล.ต.ของไทยประสาน ก.ล.ต.ต่างประเทศ และให้สันติบาลเข้ามาตรวจสอบแล้ว เพื่อดูเจ้าของบัญชีที่แท้จริง และบุคคลต้องสงสัยเป็นพิเศษ ส่วนชื่อย่อเสี่ยโน้นเสียนี้ คนเหล่านี้มีบทบาทการซื้อขายหุ้นทุกวันอยู่แล้วในปริมาณเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูง ถามว่าผิดปกติหรือไม่ ถือว่าค่อนข้างสูง แต่ไม่ผิดปกติ แต่ข้อมูลเหล่านี้จะรู้ว่าใครได้ประโยชน์ใครได้กำไร
กำลังโหลดความคิดเห็น