ส.ว.สรรหา เรียกร้องให้นายกฯ ตอบโต้คำให้สัมภาษณ์ “ฮุนเซน” อย่างเป็นทางการตามมารยาททางการทูต เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของประเทศและเตือนสติผู้นำเขมรที่ฝ่าฝืนธรรมเนียมปฏิบัติ พร้อมคัดค้านไปยังยูเนสโก และสหประชาชาติ เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียน “ปราสาทพระวิหาร” เป็นมรดกโลกของกัมพูชา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายคำนูณ สิทธิสมาน ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาโดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้มีการเปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้หยิบยกประเด็นกรณีการให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พร้อมจะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถือว่า เป็นการผิดธรรมเนียมการปฏิบัติในการณ์ระหว่างประเทศ จึงขอเสนอรัฐบาลว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องตอบโต้อย่างเป็นทางการทางการทูต มากกว่าการให้สัมภาษณ์ตอบโต้ โดยต้องตอบโต้อย่างเป็นทางการอย่างสุภาพแสดงเจตนารมณ์ของประเทศ
นอกจากนั้น ต้องประกาศชะลอการนำบันทึกการเจรจาเขตแดนแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 3 ฉบับ เข้ามาพิจารณาในสภาตามมาตรา 190 โดยไม่มีกำหนด เพราะเกี่ยวกับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรของไทยบริเวณปราสาทพระวิหาร และต้องตั้งกรรมการอิสระระดับชาติจากทุกฝ่ายซึ่งมีฝ่ายประชาชนรวมอยู่ด้วยมาพิจารณา
นายคำนูณกล่าวว่า รัฐบาลต้องคัดค้านไปยังยูเนสโก และสหประชาชาติ อย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา และขอให้องค์กรสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก ว่าการกระทำขององค์การยูเนสโกที่ขาดหลักธรรมาภิบาล และปรากฏเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และการกระทำของคณะกรรมการมรดกโลก และต้องคัดค้านกรณียูเนสโกจะแต่งตั้งตัวแทนจากกัมพูชาเข้ามาเป็นคณะกรรมการมรดกโลกถาวร ทั้งสองประการนี้จะทำให้แผนหาผลประโยชน์จากประสาทพระวิหารของกัมพูชา โดยการฮุบดินแดนของไทยมีโอกาสสะดุดหยุดลงไม่ทันเส้นตายวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ที่คณะกรรมการมรดกโลกกำหนด
นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ส.ว.สรรหา หารือว่า ปัญหาเรื่องไทย-กัมพูชา มียาวนาน เคยมีกลุ่มประชาชนบุกขึ้นไปบริเวณปราสาทพระวิหารเพื่อประท้วงกัมพูชามาแล้ว ล่าสุด ประชาชนกลุ่มเดิมนัดกันวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่สถานทูตกัมพูชาในประเทศไทย เพื่อชุมนุมประท้วง คาดว่าจะมีคนเข้าร่วมมากขึ้น เพราะไม่พอใจคำให้สัมภาษณ์ที่โกหกบิดเบือนของสมเด็จฯ ฮุนเซน ฉะนั้น รัฐบาลต้องทำตัวให้เป็นที่พึ่งให้ได้ โดยต้องมีท่าทีอย่างเป็นทางการ และทำความเข้าใจกับประชาชนที่ไม่พอใจกับคำให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซนโดยด่วน นายกฯ และรมว.ต่างประเทศ มักพูดว่าสมเด็จฯ ฮุนเซนไม่มีอะไร ทำเพื่อประโยชน์ในกัมพูชา แต่นายกฯ และรัฐมนตรีของไทยต้องตระหนักด้วยว่าเป็นตัวแทนของประชาชนนั้นต้องดำเนินการให้ประเทศได้ประโยชน์