“กษิต” ฮึ่ม “แม้ว” ต้องเข้าคุกก่อนไปอยู่ซุกบ้าน “ฮุนเซน

รมว.ต่างประเทศยันไทย-เขมรยังสัมพันธ์ดี แม้จะมีความเข้าใจไม่ตรงกัน ชี้สองประเทศยังมีความช่วยเหลือร่วมกันอยู่ เผย “มาร์ค-ฮุนเซน” เคยให้คำมั่นร่วมกันไม่ยอมให้อะไรมาขัดขวางความร่วมมือสองประเทศ เชื่อนายกฯ กัมพูชารู้ท่าทีของฝ่ายไทยต้องกลับไปพิจารณา เย้ย “นช.แม้ว” เตรียมไปอยู่บ้านพักที่กัมพูชาหลังติดคุกหรือไม่

วันนี้ (24 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.40 น.ที่ศูนย์แถลงข่าวโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีของสมเด็จฮุนเซนและท่าทีของกลุ่มพันธมิตรในวันนี้ที่อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของอาเซียนว่า ความสัมพันธ์ยังมีอยู่ เพราะเราเพิ่งให้ความช่วยเหลือและเปิดถนน ซึ่งการไปมาหาสู่และนักท่องเที่ยวยังมีอย่างเต็มที่ การทำมาค้าขายตลอดแนวชายแดนก็ยังไม่มีปัญหา ซึ่งด้านอื่นๆเราก็ยังให้ความช่วยเหลืออยู่ไม่ใช่ว่าเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือกรณีหนึ่งใดจะทำให้โกรธเกลียดกันแล้วก็ไม่ทำอย่างอื่น

“นี่เป็นการให้คำมั่นสัญญาระหว่างท่านนายกอภิสิทธิ์กับสมเด็จฯ ฮุนเซนโดยตลอดมา ตั้งแต่เรามาเป็นรัฐบาลได้ 10 เดือนก็ได้พูดกับผู้นำกัมพูชาว่าจะมิให้เรื่องหนึ่งเรื่องเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมืออีก 50-60 เรื่อง และกัมพูชายังต้องการความช่วยเหลือ เราก็ต้องให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านการพัฒนาต่างๆ ที่สมเด็จฮุนเซนให้สัมภาษณ์ไปที่ปากทางของโรงแรม และนายกอภิสิทธิ์ก็ได้มาชี้แจงที่นี่แล้วก็คิดว่าชัดดีว่าอะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นก็เท่านั้น ท่านสมเด็จฮุนเซนก็ได้รับสิ่งที่ท่านนายกอภิสิทธิ์ได้พูดแล้วก็ต้องรับไปพิจารณาว่าอะไรเป็นอะไร” นายกษิตกล่าว

รมว.ต่างประเทศ กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่นายกฯกัมพูชาเดินมาบอกกับตนว่าเริ่องที่ไทยอยากขอเป็นสำนักงานให้กองทุน CMIM นั้น ยินดีสนับนสนุนและขอให้ตนประสานทุกประเทศให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เมื่อถามว่า วันนี้พันธมิตรฯได้มายื่นหนังสือขับไล่นายกฯกัมพูชาและจะดำเนินการบางอย่างหากรัฐบาลไม่ทำอะไรในเรื่องนี้ นายกษิตกล่าวว่า เราเป็นสังคมประชาธิปไตยที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล และมีสิทธิแสดงความเห็น สิ่งเดียวที่รัฐบาลนี้พูดมาตลอดคืออย่าใช้ความรุนแรง อย่าใช้อารมณ์ ต้องพูดกันด้วยเหตุผลและดูเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวของสังคมไทยที่มีความจำเป็นว่าหากถึงจุดหนึ่งที่ต้องรักชาติ ต้องร่วมมือกันทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องกระทำ และรัฐบาลนี้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสไม่มีอะไรปิดบังเลย หากพันธมิตรฯมายื่นหนังสือต่ออาเซียน ตนส่งนายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียนไปรับหนังสือแล้ว

“ความร้อนใจของพันธมิตรบางกลุ่ม แต่ไม่ใช่พันธมิตรทั้งหมดก็รับไว้และจะนำมาพิจารณา มีอะไรที่จะถ่ายทอดไปได้ต่อสาธารณะหรือต้องบอกกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ต้องบอกให้ทราบว่ามันมีความเป็นไปเป็นมาแบบนี้”นายกษิตกล่าว เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ใช่หรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ไม่ควรเพราะเรามีหน้าที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ ตนพูดหลายครั้งแล้วว่าไม่ให้มีการรบราฆ่าฟันกับใคร และเราอยู่ในสมาคมอาเซียนร่วมกันก็ต้องร่วมมือกันและมีกติกาคือกฎบัตรอาเซียนและกฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งสนธิสัญญาต่างๆ เราอยากให้เกษตรกรไทยมั่งคั่งและประชาชนของสองประเทศตลอดแนวชายแดน 700 กม.อยู่อย่างสันติสุข ผู้นำมีหน้าที่พูดหรือทำอะไรที่ไม่นำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งหรือเข้าใจผิด มันเป็นภาระหน้าที่ของนักการเมืองที่ดี

เมื่อถามว่า วันนี้พันธมิตรฯ ยื่นหนังสือแล้วโดยระบุว่าขอเชิญนายกฯกัมพูชาออกจากไทยเพราะระบุว่าจะให้ที่พักในกัมพูชากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไร นายกษิตกล่าวว่า ยังไม่ทราบเพราะยังไม่เห็นหนังสือ และตรงนั้นเป็นสิ่งที่นายกฯกัมพูชาบอกว่าจะหาที่พักให้อดีตนายกฯ แต่ตนไม่ทราบว่าจะหาที่พักหลังจากที่ พ.
ต.ท.ทักษิณจะติดคุกที่ไทยก่อนหรือไม่ คือหากมาติดคุกเสียก่อนก็สามารถไปอยู่ได้ หากจะไปอยู่ที่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนก็จะไปบอกว่าเรามีสนธิสัญญาพิเศษและพันธะกรณีระหว่างไทย-กัมพูชา รวมทั้งสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวไว้ว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ควรนำมากระทบหรืออยู่เหนือความสัมพันธ์ระดับสองประเทศ

“โตๆ กันแล้วก็อยู่ในแวดวงการเมืองกันนานก็พอจะรู้ว่าสิ่งที่ต้องปฏิบัติในเรื่องกติการะหว่างประเทศคืออะไรคงไม่ต้องอธิบายหรือสอนกันมากมาย โตๆ กันแล้ว” นายกษิตกล่าว

จากนั้นสื่อมวลชนต่างประเทศถามว่า นายกฯ บอกว่าสมเด็จฯ ฮุนเซนอย่าตกเป็นเหยื่อ เรื่องนี้เชื่อมโยงกับการเดินทางไปกัมพูชาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯที่เพิ่งไปพบนายกฯกัมพูชาและสอดรับกับเทปคำพูดของนายกษิตที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยที่จะมอบให้นายกฯกัมพูชา จนทำให้เกิดความตึงเครียดก่อนการประชุม เพราะรัฐบาลกัมพูชาและสมเด็จฮุนเซนออกมาพูดเรื่องที่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องนี้จะปลดฉนวนความขัดแย้งนี้อย่างไร นายกษิตกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เป็นการนำไปสู่ความตึงเครียด เราพยายามหาทางออกด้วยความใจเย็น วันนี้ตนยังอยู่กับสมเด็จฯ ฮุนเซนตลอดทั้งวันในการประชุมอย่างสร้างสรรค์ และนายกฯกัมพูชาเพิ่งกล่าวว่าตอนท้ายกับตนว่าจะสนับสนุนฮุนเซนพูดกับตนว่าสนับสนุนการริเริ่มเชียงใหม่ และช่วงที่ตนพบนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศกัมพูชานั้น มีความรู้สึกที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ร่วมกันให้มากที่สุด