xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.สหภาพฯ รฟท. ลั่นทำเพื่อ ปชช. เผยผู้มีอำนาจวางยาดิสเครดิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สาวิทย์”เผยผู้มีอำนาจสั่งหยุดรถ ทำผู้โดยสารลอยแพสถานีรถไฟละแม ลั่นยอมถูกวิจารณ์ เพื่อวางรากฐานความปลอดภัยในอนาคต ยันทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่ขอขึ้นเงินเดือนหรือโบนัส วอนสื่อเจาะข่าวให้ถึงแก่นอย่ามองแค่เปลือกนอก ด้าน“ศิริชัย”แนะตั้งคณะกรรมการพิเศษ พิสูจน์ความจริง ระบุ สร.รฟท.ไม่เป็นเครื่องมือใคร รัฐบาลชุดนี้จะอยู่หรือจะไป ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ สร.รฟท. ขณะที่ “อำนาจ”ซัด รบ.อย่าเห็นชีวิตคนเป็นของเล่น เดินรถทั้งที่ไม่พร้อม เท่ากับกำลังส่งคนไปตาย เผยอาจมียาแรง หาก รบ.ยังดันทุรัง

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนในข่าว”

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย และนายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอำนาจ พละมี คณะกรรมการฝ่ายการเมือง สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ มาร่วมพูดคุยถึงจุดยืน ข้อเรียกร้อง ของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย

นายสาวิทย์ กล่าวถึงข้อครหาการรถไฟหยุดวิ่งกะทันหัน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ว่า เป็นปกติในทุกครั้งที่ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เคลื่อนไหว มักถูกมองว่า มีผลประโยชน์ส่วนตัวบ้าง สร้างความวุ่นวายบ้าง ซึ่งบางครั้งเราต้องยอมรับความเจ็บปวด ต้องยอมเสียสละบางอย่าง เพื่อวางรากฐานที่ดีในอนาคต ส่วนประเด็นทิ้งผู้โดยสาร เท่ากับพยายามผลักมวลชนให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม นั้น สหภาพฯรถไฟทำงานด้านมวลชน เราไม่มีเงินเรามีแต่คน ทำงานกับคนเราต้องเอาใจ ดังนั้นการผลักให้ประชาชนไปอยู่ฝั่งตรงข้าม ย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว แท้จริงแล้วกรณีนี้ คนขับรถไฟได้รับคำสั่งจากนายสถานี ให้หยุดเดินรถ จึงทำให้เห็นสภาพทิ้งผู้โดยสารกลางคัน

อย่างไรก็ตามตรงนี้มีข้อน่าสังเกตที่ว่า ปกตินายสถานีไม่สามารถสั่งเปลี่ยนถ่ายคนให้ไปขึ้นอีกขบวนหนึ่งได้ ยกเว้นแต่มีเหตุฉุกเฉินอย่างใหญ่หลวงอยู่ข้างหน้า หรือได้รับคำสั่งระดับผู้บริหาร จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏหลังเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร รถไฟขบวนดังกล่าวก็วิ่งได้ตามปกติ และไม่พบมูลเหตุอันตรายที่จะต้องทำให้เปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร ดังนั้นจึ่งเป็นที่น่าเชื่อได้ว่า ต้นตอเหตุการณ์เป็นการพยายาม ดิสเครดิต สหภาพฯรถไฟ ทำให้ภาพพจน์เสียหาย ทำให้ดูเหมือนไร้ประสิทธิภาพในการให้บริการ ซึ่งก็จะเข้าเงื่อนไขที่ภาครัฐต้องการแปลรูปการรถไฟอยู่แล้ว

“นโยบายของการรถไฟ “เดินทางโดยปลอดภัย ประหยัด” ที่ประชาชนยังใช้บริการอยู่ ก็เพราะเห็นว่าปลอดภัย อย่าลืมว่ารถไฟประเทศไทยขับเคลื่อน ช้ามากๆ หากไม่มีสโลแกนนี้ คงไม่มีใครใช้บริการ ด้วยเหตุนี้เราไม่ต้องการเห็นโศกนาฏกรรม ที่เกิดขึ้นจากการรถไฟซ้ำซ้อน เพราะสิ่งเหล่านี้เราสามารถป้องกันได้ หากรัฐบาลจริงจัง” นายสาวิทย์ กล่าว

นายสาวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่หลายคนท้วงติงมา ทำไมสหภาพฯรถไฟ ไม่ทำตามกติกา มาเล่นหยุดเดินรถดื้อๆ ทำประชาชนเดือดร้อน ว่า ตรงนี้ จะว่าไปบ้านเมืองของเรามันก็แปลก ต้องให้เกิดเรื่องเป็นประเด็นทางสังคมก่อน ถึงจะเข้ามาแก้ไข ก่อนหน้าเราทำทำตามกติกาทุกอย่าง ได้ยื่นหนังสือถึงผู้เกี่ยวข้องหลายครั้งหลายครา แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล เช่นใน พ.ศ. 2544 ข้อให้จัดสภาพอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก่อนออกขบวน ต่อมาปี 2545 ให้ปรับปรุงอุปกรณ์อยู่ในสภาพปกติก่อนออกให้บริการ จนกระทั่งล่าสุด ปี 2552 มีการตกลงกันให้การรถไฟปฏิบัติตามข้อตกลงภายใน 30 วัน จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ทำให้เป็นไปตามข้อตกลง

“ในต่างประเทศ ทุกๆที่ ถ้าสหภาพแรงงานมีความเข้มแข็งประเทศนั้นจะเจริญ แต่บ้านเราทุกครั้งที่สหภาพแรงงานเข้มแข็ง ก็มักจะะถูกทำลายตลอด ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของบ้านเราที่ต้องปรับปรุง จุดยืนของพวกเรา เรียกร้อง เรื่องความปลอดภัยของประชาชน แม้จะถูกด่าอย่างไร ก็ต้องสู้ ต้องขอย้ำว่าเราไม่ใด้เรียกร้องเรื่องเงินเดือน หรือโบนัส” นายสาวิทย์ กล่าว

นายสาวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอัมวา ซาแระ ท้วงติงสหภาพฯรถไฟหยุดวิ่งทำให้ ชาวมุสลิม ที่จะเดินทางไปแสวงบุญได้รับผลกระทบ ตนในฐานะที่เป็นคนมุสลิม อยากบอกให้นายอัมวา กลับไปเรียนศาสนาอิสลามใหม่ เพราะหากตั้งใจไปแสวงบุญ แต่เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถไปได้ ถือว่าคนผู้นั้นได้ผลบุญครบถ้วนตามที่ได้ตั้งใจไว้แล้ว

นายสาวิทย์ กล่าวว่าตนไม่ปฏิเสธ ถึงความเกี่ยวพันธ์กับพรรคการเมืองใหม่ เรามีเจตนารมณ์ตรงกัน สนับสนุนสิ่งดีให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย ถ้าหากพรรคการเมืองใหม่ออกนอกลู่นอกทาง เราก็พร้อมที่จะตรวจสอบ กรณีรถไฟหยุดวิ่ง เพราะเราจำเป็นต้องการตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งมันคนละเรื่องกันกับทางการเมือง อย่าเอาไปโยงกัน

นายสาวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่าไม่ได้เรียกร้องให้สังคมเห็นใจ แต่เรียกร้องให้สังคมเข้าใจ ตนไม่อยากเห็นประชาชนต้องมาสังเวยชีวิต เหมือนกรณีรถไฟตกรางที่เขาเต่า สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ หากรัฐบาลจัดระบบให้ดีๆ อีกอย่างสื่อมวลชน ต้องนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียด โดยมองถึงเบื้องลึกด้วยว่า ก่อนจะถึงจุดนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ไม่ใช่มองแค่เบื้องหน้า

นายศิริชัย กล่าวว่าภาพในกระแสสื่อ มักจะมองสหภาพฯรถไฟในแง่ลบ มองเฉพาะฉากหน้า ที่ผ่านมาสหภาพฯรถไฟ ได้ประกาศ ทางสถานีวิทยุชุมชน วางใบปลิวหน้าที่ขายตั๋ว ตลอดมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. แล้วว่า สภาพหัวรถจักร อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ต้องทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อน อาจทำให้ต้องเลื่อนหรือเกิดความล่าช้าในการเดินทาง อยากให้สังคมมองตรงนี้ด้วย เจตนารมณ์ของสหภาพฯรถไฟ มุ่งเน้นทำเพื่อประชาชนจริงๆ ที่ผ่านมาเป็นที่รู้กันดีว่า การรถไฟเป็นองค์กรที่มีทรัพย์สิน ที่เกิดจากที่ดินมหาศาล แต่ไม่มีใครดูผลประโยชน์ที่แท้จริง สหภาพฯรถไฟจึงเข้าไปดูแล เพื่อให้ผลประโยชน์ตกไปถึงส่วนรวมมากที่สุด รักษาผลประโยชน์ของประชาชนไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของนักการเมือง ที่ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง

นายศิริชัย กล่าวต่อว่าเราไม่ได้ผลักให้ประชาชนไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม การต่อสู้ทุกครั้ง ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ที่ทำไปเพราะ อยากให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีปลอดภัย รถไฟเป็นบริการสาธารณะเพื่อประชาชนจริงๆ ถึงจะช้าหน่อย แต่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ที่ผ่านมาสหภาพฯรถไฟ เคยไปชุมนุมค้างคืนหน้า ก.คมนาคม เพื่อเร่งรัฐให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่ รมว.คมนาคม ไม่ได้ใส่ใจดูแล เรื่องนี้น่าจะจัดตั้งให้มีคณะกรรมการพิเศษ เข้าไปพิสูจน์ความจริง ว่า อุปกรณ์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่

นายศิริชัย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาว่าการรถไฟหยุดเดินรถเพราะ เป็นเกมของพรรคการเมืองใหม่ ที่ต้องการผลักดันให้มีการยุบสภาฯ นั้น พวกเราไม่เคยเป็นเครื่องมือใคร รัฐบาลชุดนี้จะอยู่หรือจะไป ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ สหภาพฯรถไฟ

นายอำนาจ กล่าวว่าที่ผ่านมามีการประชุมกันของสหภาพฯรถไฟ ได้ข้อสรุป ว่า หากปล่อยให้เดินรถไฟตามปกติอาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากหัวรถจักรอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ หากยังฝืนนำออกไปให้บริการประชาชน เท่ากับไม่รักษาชีวิตของประชาชน ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากให้สังคม ได้ทบทวนจุดนี้ด้วย โดยจะให้รถเดินไปก่อน แล้วค่อยมาซ่อมไม่ได้ เพราะชีวิตคนสำคัญกว่า การที่รัฐบาลพยายามหาคนที่พอขับรถไฟได้ มาขับแทนพนักงานรถไฟ ในขณะที่อุปกรณ์ไม่พร้อม เท่ากับรัฐบาล กำลังส่งคนไปตาย

“มาตรการขั้นต่อไปจะมียาแรงตามมาหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาล จะจัดการตามข้อเรียกร้องหรือไม่ ทั้งนี้หากจะมียาแรงก็เป็นยาแรงที่จะทำให้ประชาชนปลอดภัย รัฐบาลไม่มีสิทธิเกลียดประชาชน ประชาชนเท่านั้นที่มีสิทธิเกลียดรัฐบาล”นายอำนาจ กล่าว

นายอำนาจ กล่าวอีกว่าการเสนอข่าวให้ประชาชนทราบว่าจะหยุดเดินรถ จริงๆ แล้วเรามีการประสานกับสื่ออย่างดี แต่พื้นที่ในการนำเสนอข่าวมันน้อย เพราะสื่อมักไม่ให้ความสำคัญโดยเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งนี้ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น เช่นปัญหาในมาบตาพุด ที่ประชาชนเรียกร้องด้านสิทธิ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมลพิษ หากชาวบ้านไม่ออกมาเดินขบวน ข่าวจะไม่นำเสนอ

นายอำนาจ กล่าวทิ้งท้ายว่าอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า สิ่งที่สหภาพฯรถไฟ ทำ เราคำนึงถึงชีวิตของท่าน การใช้บริการรถไฟนับได้ว่าปลอดภัยมากที่สุด โอกาสน้อยมากที่จะประสานงาหรือตกราง ในเมื่อเรารู้ว่ามีอุปกรณ์สำคัญในการเดินรถชำรุด เราก็ขอเปลี่ยนอะไหล่ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้บริหาร ด้วยเหตุนี้เราจะปล่อยให้สูญเสียชีวิตผู้คนโดยสารอีกไม่ได้ การรถไฟไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน เราทำทุกอย่างเพื่อประชาชน
นายสาวิทย์ แก้วหวาน
นายอำนาจ พละมี
นายสิริชัย ไม้งาม
กำลังโหลดความคิดเห็น