"เกาะกระแส"
โดย...ก้อนกรวด
00 อาจจะเป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยกับคำพูดของ “เสี่ยเน” ขาใหญ่จากภูมิใจไทย ที่ออกมาให้คอมเม้นต์ทันทีหลังจากเห็น “ทหารแก่” ตท.10 เพื่อนแม้วตบเท้าเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยว่าเป็นการเปิดตัวที่สุด“กระจอก” เพราะเต็มไปด้วย“ของเก่า” หมดอายุทั้งสิ้น ไม่ได้มีแรงดึงดูดอะไรให้สังคมหรือน่าสนใจได้เลยแม้แต่น้อย
00 ลำพังแค่ “จิ๋ว-พัลลภ” นำร่องเข้าไปก่อน แค่นี้หลายคนก็ยังอ๊วกกันไม่เสร็จ แล้วนี่ตามติดมาด้วยเหล่าเตรียมทหารรุ่น 10 ที่ไล่ดูรายชื่อไปทีละคน นอกจากไม่เคยได้ยินชื่อบางคนยศแค่พันโท พันเอก เป็น “ทหาร-ตำรวจตกรุ่น” เมื่อครั้งรับราชการก็ไม่มีผลงานโดดเด่นในทางที่ดีเลยแม้แต่คนเดียว นอกจากในแง่ของการ“รับใช้” เพื่อนแม้วเท่านั้น ไม่มีราคาค่างวดใดๆ เลย
00 หรือก่อนหน้านี้ก็มี “ลุงบัติ” สมบัติ เมทะนี มุดเข้าไปก่อน มันก็สนุกกันใหญ่ นัยว่ายังจะมีบรรดาข้าราชการเกษียณเตรียมต่อแถวอีกกลุ่มใหญ่ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่การที่คนพวกนี้มีการเปิดตัวแล้วสื่อรายงานกันคึกคัก ก็ต้องจับอารมณ์ให้ดี เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกลายเป็นว่ากระแสตอบรับ เพราะในข้อเท็จจริงหากพิจารณาให้ดี ข่าวที่ออกมาล้วนแต่เป็นเรื่องชวนสมเพช น่าหัวร่อเสียมากกว่า
00 บินลัดฟ้าไปแล้วสำหรับภารกิจที่รับมอบหมายสำหรับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไปพบ “ฮุนเซน” ผู้นำกัมพูชาในช่วงเวลาเหมาะเจาะก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเพียงไม่กี่ชั่วโมง จึงอยากจะเรียกร้องให้คนไทยจับตามองและวิเคราะห์ข้อมูลตามหลังว่าการไปครั้งนี้เป็นการ “รับงาน” มาจาก “นักโทษหนีคุก” หรือไม่
00 เพราะช่วยไม่ได้ที่จะต้องมีข้อสงสัยในเรื่องผลประโยชน์ที่ เคยเจรจาค้างคากันไว้ตั้งแต่มีอำนาจ ทั้งในเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงาน ในพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทย การเช่าเกาะกง 99 ปี ที่นำอธิปไตยด้านปราสาทพระวิหารไปแลกไว้หรือเปล่า อีกทั้งทุกคนก็รู้ดีว่า “จิ๋ว” กับเขมรนั้น ติดต่อสัมพันธ์มีผลประโยชน์กันมานาน และเมื่อมาปะติดปะต่อกันในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ ฮุนเซน จะหยิบยกเรื่องปัญหาปราสาทพระวิหารและชายแดนด้านตะวันออกมาเจรจาก็ยิ่งน่าสนใจ จะเป็นซักซ้อมความเข้าใจรวมไปถึงการเปิดเผยจุดอ่อนจุดแข็งของประเทศตัวเองให้ฝ่ายตรงข้ามได้รู้ข้อมูลก่อนหรือไม่มิทราบ หือ จิ๋ว อย่าให้คนรุ่นหลังด่าประณามมากไปกว่านี้เลย !!
00 ในที่สุดรัฐบาลก็ผ่านร่างพระราชบัญญัติตั้ง ศอ.บต.ขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งมีการปรับปรุงโครงสร้างเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะผู้อำนวยการคือ นายกรัฐมนตรี ก็น่าจะทำให้การบริหารคล่องตัวมากขึ้น แต่ถ้าพลาดก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ที่จริงปัญหาชายแดนใต้จะมองว่าซับซ้อนก็ไม่ผิด แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ ข้าราชการไม่เข้าใจวัฒนธรรม หรือบางครั้งจงใจเลี้ยงปัญหาเพื่อประโยชน์ด้านอำนาจ และงบประมาณที่มีอยู่ ทุกอย่างจึงวนอยู่กับที่ !!