ASTVผู้จัดการออนไลน์—กัมพูชาได้ที "กษิต" เปิดช่อง รีบร่อนบันทึกทางการทูตถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทย รุกให้ไทยนำกรณีพิพาทพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารเข้าเจรจาในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานในเดือน ต.ค. นี้
สำนักข่าวออนไลน์สภาษาเขมรยอดนิยม Everyday.com.kh รายงานเรื่องนี้โดยอ้างแหล่งข่าวกระทรวงการต่างประเทศ และความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้สำทับว่าจะนำกรณีพิพาทชายแดนกับไทยเข้าสู่การประชุมสุดยอดอาเซียนที่ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นอีกครั้งหนื่ง
หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ ที่ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ หรือ อาเซียน+6 จะมีขึ้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค. นี้
ในหนังสือส่งถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย มีใจความว่า นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา ต้องการให้กรณีพิพาทระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เป็นส่วนหนึ่งในวาระการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ด้วย
การเดินหมากของกัมพูชาในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทยให้สัมภาษณ์ว่าจะเสนอที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ จัดตั้ง “กลไก” แก้ไขปัญหาพิพาทระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะทำให้ประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา มีการเจรจาเพื่อหาทางออกด้วย
"ในกรณีนี้ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะขอเสนอให้กรณีพิพาทระหว่างทั้งสองประเทศ (ไทย-กัมพูชา) ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร รวมอยู่ในวาระการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่หัวหินครั้งนี้ด้วย" ข้อความส่วนหนึ่งในจดหมายของนายฮอร์นัมฮอง
กัมพูชาและไทยมีปัญหาขัดแย้งในพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารมาเป็นเวลานานหลาย 10 ปี แต่ความตึงเครียดเกิดขึ้นเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หลังจากปราสาทพระวิหารได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกและตกเป็นของกัมพูชา
กัมพูชาได้พยายามนำปัญหาชายแดนกับไทยเข้าสู่ระดับภูมิภาคตั้งแต่ปี 2551 ระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในสิงคโปร์ และ ยังมีความพยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ในปีเดียวกันอีกด้วย
สองฝ่ายได้จัดการเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาชายแดนมาแล้วหลายรอบและในหลายระดับ ทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหม แต่ยังไม่สามารถข้อสรุปได้ แต่อย่างน้อยที่สุดสองฝ่ายก็ได้ตกลงจะแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาและอย่างสันติ
เดือนที่แล้วสมเด็จฯ ฮุนเซน ประกาศจะไม่ยอมให้คณะเจรจาของฝ่ายนั้น พบเจรจากับฝ่ายไทยอีกไม่ว่าจะเป็นในระดับใดหากฝ่ายไทย ยืนยันที่จะใช้แผนที่ในยุคใหม่ในการเจรจา โดยไม่ยึดแผนที่ที่อดีตเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อก่อน 100 ปีก่อน เป็นหลัก
นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ออกคำสั่งให้ทหารที่ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหารสามารถยิงผู้ที่รุกล้ำเขตแดนเข้าไปใน “ดินแดนพิพาท” ได้ทันที.
.