xs
xsm
sm
md
lg

ต้องหาต้นตอข่าวลืออุบาทว์ให้ได้ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผ่าประเด็นร้อน”


ต้องยอมรับว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวคราวที่ทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนจนทำให้นักลงทุนเทขายกันจ้าละหวั่น จนแดงเถือกไปทั้งกระดาน สาเหตุก็มาจากข่าวลือ “อุบาทว์” ที่ฉวยโอกาสในช่วงปวงชนชาวไทยเกิดความวิตกกังวลจากพระอาการประชวรซ้ำเติมสถานการณ์เข้าไปอีก

ที่น่าสังเกตก็คือ เป็นการจงใจปล่อยข่าวกระทบสถาบันฯ เป็นการเฉพาะ!!


ดังนั้น เมื่อมีการปล่อยข่าวลือในลักษณะดังกล่าว รัฐบาลโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงจะต้องสืบหาข่าว หาต้นตอ ขุดคุ้ยไปถึงคนบงการ เพื่อกระชากหน้ากากไอ้โม่งคนทรยศ หรือคนต่างด้าวที่ร่วมมือกันออกมาให้ได้ เพราะนี่คือการกระทำที่ทำลายความมั่นคงของชาติอย่างที่ไม่สมควรให้อภัยเลยแม้แต่น้อย

การให้ข้อมูลของ ส.ว.สมชาย แสวงการ ระบุว่า คนที่ปล่อยข่าวลืออุบาทว์ในครั้งนี้ ล้วนเป็นคนใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง และยังมีการบอกชื่อย่อออกมาสองคน คือ “ย.-ว.” ว่าอาศัยสถานการณ์ในช่วงที่พระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร ปฏิบัติการทำลายความรู้สึกของคนไทย ปล่อยข่าวลืออุบาทว์ออกมา จนสร้างความวิตกไปทั่ว

ที่สำคัญครั้งนี้มีลักษณะ “พิเศษ” ก็คือ เป็นการปล่อยข่าวประสานกันกับทางต่างประเทศ น่าสังเกตก็คือ มีสื่อต่างประเทศรายงานข่าว จากการอ้างอิงแหล่งข่าวจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง จากนั้นก็มีการรายงานเป็นตุเป็นตะ

เมื่อดูจากที่มาที่ไปก็ล้วนเข้าเค้า เชื่อมโยงกันถึงกันโดยเฉพาะในเรื่องการจ้างล็อบบี้ยิสต์ในต่างประเทศ ทำลายประเทศตัวเอง พฤติกรรมไม่ต่างจากคนทรยศชาติ เชื่อมโยงไปถึงอดีตนายกรัฐมนตรี

การที่บุคคลสำคัญในรัฐบาลไล่ตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ และ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้แสดงความแข็งกร้าว และสั่งการให้สืบหาต้นตอของข่าวลือทันที


อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีแค่มุ่งไปที่ประเด็นการปล่อยข่าว เพื่อสร้างความปั่นป่วนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น เหมือนกับว่าเป็นการฉวยโอกาสจากพระอาการประชวร ปล่อยข่าวให้สร้างความตื่นตระหนก และเทขายหุ้นออกมา จากนั้นก็มีการเข้าช้อนซื้อหุ้นในราคาถูกเพื่อทำกำไร

สิ่งที่รัฐบาลต้องทำอย่างเอาจริงเอาจังมากกว่านั้นก็คือ ต้องพิจารณาในบริบทของปัญหาความมั่นคงทั้งระบบ เนื่องจากเชื่อว่าการปล่อยข่าวลือครั้งนี้ ในเมื่อเชื่อมโยงมาจากอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง มันก็ย่อมไม่ธรรมดา

เพราะหากเชื่อมโยงการพฤติกรรมความเคลื่อนไหวต่างๆ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และกำลังเกิดขึ้นทั้งเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน และจะต่อเนื่องไปจนถึงเดือนหน้าก็น่าจะมาจากกลุ่มเดียวกัน

การเคลื่อนไหวชุมนุมของคนเสื้อแดง การกลับเข้ามาเป็นหัวขบวนในพรรคเพื่อไทยอีกรอบของ “จิ๋ว” ทั้งที่อยู่ในวัยที่สมควรอยู่กับบ้านเลี้ยงหลาน หรือเข้าวัดฟังธรรมในบั้นปลาย รวมไปถึงการ “ตั้งใจ” พูดของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เกี่ยวกับเรื่อง “คนทรยศชาติ” มันก็ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน

เพราะการที่คนระดับประธานองคมนตรี ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทมานานเกือบทั้งชีวิต ออกมาส่งสัญญาณแบบนี้ก็ย่อมต้องมีข้อมูลที่น่าจะกระทบความมั่นคง จนไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยต่อไปได้ ต้องออกมาชนเต็มตัว ทั้งที่รู้ว่าจะต้องเปลืองตัว ตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายตรงข้ามที่จ้องทำลาย

ดังนั้น เมื่อพิจารณาสถานการณ์ทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศที่เกิดในช่วงเวลาเดียวกัน ทุกอย่างสามารถเชื่อมโยงได้หมดว่า น่าจะมาจากกลุ่มเดียวกัน และน่าเชื่อว่าต้นตอมาจากอดีตนายกรัฐมนตรีคนนั้น

เพราะต้องเพิ่มแรงกดดันสูงสุด เพื่อหวังให้เกิดการเจรจาให้ตัวเองหลุดพ้นจากความผิดทั้งปวง และนี่คือข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องกระชากหน้ากากคนทรยศชาติ ทำลายความมั่นคงออกมาให้ได้!!
กำลังโหลดความคิดเห็น