“โฆษก ปชป.” อ้างผลโพล ปชช.ยังให้โอกาส “มาร์ค” บริหารประเทศต่อ และมีความซื่อสัตย์กว่ารัฐบาลแม้ว จวก “นช.แม้ว” เล่นการเมืองอันตราย ดึงต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวหวังแค่ทำลายคู่แข่งทางการเมือง
วันนี้ (5 ต.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของพรรคเพื่อไทย และผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยกรุงเทพว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ประชาชนยังรู้สึกหวั่นไหวต่อเหตุการณ์ที่ยังไม่แน่นอนจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา และการตีความผลการสำรวจนั้น จำเป็นที่จะต้องตีความผลการสำรวจหลายแห่งประกอบกัน จากที่เคยทำในช่วงเดียวกันนั้นต่อผลสำรวจของมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ชี้แจงประเด็นปัญหาต่างๆ ว่ารัฐบาลประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหามากน้อยแค่ไหน ขอเรียนว่าผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนความหวั่นไหวของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์การเมือง ที่มีอยู่ในปัจจุบันว่า มีความไม่นิ่งและกังวลว่าจะกระทบต่อการแก้ไขปัญหา ของรัฐบาลที่มุ่งแก้ไขปัญหาประชาชนในเรื่องต่างๆ
อย่างไรก็ตาม หากจะดูประกอบกันแล้วต้องมองผลสำรวจของพรรคเพื่อไทยด้วย ที่ได้จัดการสำรวจในเรื่องความเชื่อมั่นทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจ แม้ว่าจะเป็นการสำรวจโดยกลุ่มการเมือง ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลในขณะนี้ จากการสำรวจประชาชนในกทม.และต่างจังหวัดจำนวน 1,700 คนนั้นระบุว่า ให้การยอมรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 54 เปอร์เซ็นต์ และยอมรับการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นแกนนำรัฐบาล 53 เปอร์เซ็นต์ คือเกินครึ่งทั้ง 2 กรณี เพราะฉะนั้น เมื่อดูประกอบกันแล้วสามารถที่จะอนุมานได้ว่า การสำรวจของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ อยู่ในกรอบที่ประชาชนยังให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ในการบริหารบ้านเมืองต่อไป และหากประกอบกับคุณสมบัติสำคัญในตัวผู้นำก็จะเห็นได้ว่า วันนี้ประชาชนให้ความสำคัญกับเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และความเคร่งครัดในศีลธรรม เพราะการสำรวจครั้งล่าสุดของเอแบคโพลในช่วงเดือนที่ผ่านมา เปรียบเทียบว่านายอภิสิทธิ์มีความสุจริตมากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 68.2 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม พรรคก็พร้อมรับฟังเพราะเป็นการสะท้อนในการแก้ไขปัญหาของประชาชน
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์ทวิสเตอร์ โดยมีใจความสำคัญที่อ้างถึงการพบปะนักการเมืองเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งเตือนว่าประเทศไทยกำลังจะเกิดเรื่องว่า ตนคิดว่าการโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นสอดรับหรือบังเอิญตรงกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้พยายามดึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็น เพื่อสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยหวังผลความได้เปรียบทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อยากถามว่าส่อสัญญาณไม่ได้เป็นพฤติกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิมเพียงลำพัง เพราะกระบวนการที่ดำเนินการมาตลอดนั้นได้ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ตั้งแต่การว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ จนถึงความพยายามใช้ข้อมูลเท็จในการดูแลสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ คิดว่าเป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเพื่อบั่นทอนลดความน่าเชื่อถือของประเทศ
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่า เป็นคำเตือนของนักการเมืองต่างประเทศนั้น ตนอยากถามว่าใช่ประเทศกัมพูชาใช่หรือไม่ และขอเตือนว่าการเล่นการเมือง ในลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่อันตราย หากจะช่วงชิงความได้เปรียบโดยการมุ่งทำลายพรรคคู่แข่ง อย่างที่พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการมาโดยตลอด คือ การตรวจสอบและทำลายพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งถือเป็นการเมืองแบบเก่า ถือว่าสมควรที่จะประณามและอยากถามว่าการกระทำดังกล่าวทำเพื่ออะไร หวังดีกับประเทศชาติหรือไม่
