“บุญยอด” เชื่อข่าวลือทำตลาดหุ้นตก ผลล็อบบี้ยิสต์นอก

“บุญยอด” ประณาม “หางแดง” ทำตัวเหมือนเด็กดื้อ คอยซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย เชื่อข่าวปล่อยทำลายตลาดหุ้นจนทรุดฮวบ ผลจากล๊อบบี้ยิสต์ต่างประเทศ

วันนี้ (16 ต.ค.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดชุมนุมประท้วงของม็อบเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) โดยอ้างเหตุผลว่าจะเร่งรัดการถวายฎีกานั้น ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นการซ้ำเติมกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีเหตุผลและสมควรได้รับการประณามจากทุกฝ่าย ซึ่งการถวายฎีกานั้นทุกฝ่ายรู้อยู่แล้วว่าถ้าจะทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน ผู้ที่จะได้รับการอภัยโทษต้องมารับโทษเสียก่อนจึงจะได้รับการพิจารณาแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่กล้ากลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ฝ่ายเสื้อแดงก็รู้แต่ยังดื้อดึงที่จะบีบคั้นต่อรัฐบาล ซึ่งการกระทำนี้ไม่มีเหตุผล ประพฤติตนเหมือนเด็กดื้อเอาแต่ใจตัวเอง

“การที่ตลาดหุ้นในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการปล่อยข่าวลือต่างๆ นั้น น่าจะมาจากระบวนการของการใช้การสร้างข่าวจากล็อบบี้ยิสต์ต่างประเทศ ผ่านไปยังสำนักข่าวเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ตลาดหุ้นมีดัชนีลดลงอย่างมากภายใน 2-3 วันที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอให้นักธุรกิจทั้งหลายร่วมกันออกมาประนามผู้กระทำการดังกล่าวผมไม่แน่ใจว่านักลงทุนที่เทขายมามากๆ นั้น เป็นฝรั่งแท้ หรือฝรั่งหัวดำ ที่มีบริษัทต่างชาติที่มีคนไทยเป็นนอมินีอยู่ กันแน่ ที่ฉกฉวยโอกาสนี้สร้างกำไรให้กับตัวเอง” นายบุญยอดกล่าว

นายบุญยอดยังได้กล่าวถึงการทำประชามติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญที่มีบางคนบางฝ่ายออกมาให้เลือกระหว่าง รัฐธรรมนูญปี 2540 กับ รัฐธรรมนูญปี 2550 นั้น เรื่องนี้นายบุญยอดมองว่า เข้าสู่สูตรเดิม ถ้าเลือกรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นโทษและได้รับประโยชน์เพียงคนเดียว ไม่แตกต่างจากความต้องการในสมัยก่อนที่พรรคพลังประชาชนต้องการแก้ มาตรา 309 และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงในที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรตกหลุมพรางหรือข้ออ้างที่ว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 มาจากประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญปี 2550 มาจากเผด็จการ เพราะแท้ที่จริงแล้ว รัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ผ่านการทำประชามติจากประชาชนทั่วไปมาแล้วยังไม่ถึง 2 ปี ด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ นายบุญยอดได้เรียกร้องทิ้งท้ายว่า ผู้ที่อยากเห็นสังคมไทยสงบ อยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ควรเข้าร่วมการชุมนุมของเสื้อแดง และขอให้ผู้นำการชุมนุมอย่าได้สร้างเงื่อนไขใดๆ เพื่อสร้างความรุนแรงให้กับสังคมอีกเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาอย่างเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

“ความเคลื่อนไหวทั้งหมด ทั้งการชุมนุม ทั้งการโจมตีตลาดหุ้น การสร้างความสับสนต่อการทำประชามติ น่าจะมองได้ว่าเป็นกระบวนการเดียวกันที่สนองตอบความต้องการของคนคนเดียว เพื่อทำให้ประเทศไทยสะดุดแก้ปัญหาไม่ได้และเศรษฐกิจถดถอย จึงขอให้เราทุกคนต้องร่วมกันประนามการกระทำเหล่านี้” นายบุญยอดกล่าว