“ชวนนท์” แจงเหตุเข้าใจผิดหยิบแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน กินแนวเส้นเขตแดนไทยขึ้นโต๊ะเจรจา ยันยังยึดสนธิสัญญา 1904 เป็นหลักเจรจา ใช้แนวสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนไม่ยอมเสียเปรียบ ปัดเป็นเบี้ยล่างเขมร
วันนี้ (15 ต.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่การหยิบยกกรณีที่อ้างว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้นำแผนที่กัมพูชา 1 ต่อ 2 แสน ที่กินแนวเส้นเขตแดนเข้ามาในฝั่งแผนที่ไทยในพื้นที่ทับซ้อนที่มีปัญหาเข้าสู่กรอบเจรจาที่ได้มีการเสนอเข้าการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 ในกรณีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ว่า ข้อเท็จจริงที่พูดมาตลอด ว่า ไทยได้ยึดสนธิสัญญา 1904 ระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส เป็นหลักในการเจรจาปักปันเขตแดน ซึ่งสนธิสัญญาฉบับนั้นก็เขียนไว้ชัดเจนไว้ให้ใช้แนวสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา อย่างไรก็ดี แผนที่ฉบับนั้นได้ทำมาจากการทำสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว แต่เราก็พูดมาตลอดว่า แผนที่นั้นเราไม่ยอมรับ แม้แต่การเอาแผนที่ฉบับนี้ขึ้นฟ้องศาลโลกเมื่อปี 2505 เราก็บอกว่าเราไม่ยอมรับแผนที่ แต่เรายอมรับคำตัดสิน
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ที่โจมตีกันอยู่ว่าปัจจุบันในเมื่อแผนที่ตรงนั้น ทำให้เราผิดพลาด ทำให้ปี 2505 แพ้ ก็ต้องเรียนความจริง ว่า การเจรจาระหว่างประเทศ การหยิบยกเอกสารทุกฉบับระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องเปิดให้เห็นว่า เราจะเดินหน้าเจรจากับกัมพูชา เรามีอะไรอยู่ในมือบ้าง หรือในอดีตเราเคยทำอะไรไว้กับเขาบ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าเอกสารนั้นเรายอมรับ ซึ่งเอกสารตรงนั้น 3-4 ชิ้น ก็มีทั้งสนธิสัญญาแผนที่ มีข้อระเบียบต่างๆ แต่เราก็บอกว่าเราจับสนธิสัญญาเป็นหลัก ที่บอกว่าแนวสันปันน้ำเป็นแนวในการแบ่งเขตดินแดน
“ถึงได้บอกว่า ถ้ากลัวว่า เราจะยอมรับแผนที่ตรงนั้น ผมก็มองไม่เห็นว่าทำไมต้องมาปักปันเขตแดน มันก็ชัดเจนอยู่แล้วที่เราเดินหน้าปักปันเขตแดน เนื่องจากเราบอกว่าแผนที่ฉบับนี้ไม่สอดคล้องกับตัวบทที่อยู่ในสนธิสัญญา เราดูเราไม่ได้ไปตามแนวสันปันน้ำที่แท้จริง แค่เราหยิบทุกอย่างที่อยู่ในอดีตขึ้นบนโต๊ะ แล้วบอกว่า ตรงนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เราก็เดินหน้าใหม่เท่านั้นเอง ประชาชนมีสิทธิเข้าใจผิดได้ ถ้าไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด สุดท้ายเราเจรจาแล้วเราเสียเปรียบ หรือคุยไม่รู้เรื่อง มันก็เลิกเท่านั้นเอง กลับมาที่เดิม ตรึงกำลังทหารเอาไว้ หรือหาวิธีอื่นจัดการแก้ปัญหา ถ้าแก้ได้ก็แก้โดยยึดหลักปักปันเขตแดนให้ได้ คงไม่เดินไปโดยสุ่มเสี่ยงเสียดินแดน ปัญหาเขตแดนไม่เคยมีการปักปันเขตแดนมาก่อน หลังประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตย เมื่อทำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องชัดเจนกับประชาชน และระวังไม่ให้เสียเปรียบ ผมไม่อยากได้ชื่อว่าอยู่รัฐบาลนี้แล้วขายชาติ” นายชวนนท์ กล่าว