ศาลปกครองกลาง ไม่รับฟ้อง “ภาดร ผลาพิบูลย์” ผู้ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นกำหนดแนวทางจัดสรรคลื่นโทรศัพท์ 3 G ที่ยื่นฟ้อง กทช. ฐานกำหนดหลักเกณฑ์มิชอบ เอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรคมนาคม ครอบงำทิศทางบริหารคลื่น ศาลชี้การประชุมรับฟังความคิดเห็นเป็นเพียงขั้นเตรียมการ ผู้ฟ้องจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ขณะที่ พนักงานทีโอทียังยื่นฟ้อง กทช.อีกสำนวน
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา นายชาชิวัฒน์ ศรีแก้ว ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวน มีคำสั่งไม่รับฟ้อง คดีที่ นายภาดร ผลาพิบูลย์ สมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย ผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเพื่อประกอบการพัฒนาแนวทาง และหลักเกณฑ์การจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สาม หรือ IMT หรือ 3 G and beyond ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เป็นผู้ถูกฟ้อง เรื่องเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่ กทช.กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทาง การออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 G โดยจะออกใบอนุญาตให้กับ บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชน จำกัด ที่จดทะเบียนตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย และการเป็นนิติบุคคลไทยหรือต่างประเทศโดยใช้หลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่น 3 G เป็นเจ้าของโครงข่าย ซึ่งเห็นว่าจะทำให้กลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาครอบครองเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรคมนาคมของชาติ หรือให้อำนาจทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำมีส่วนในการกำหนดทิศทางการบริหารคลื่นความถี่วิทยุโทรคมนาคม ซึ่งเป็นการไม่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในระดับชาติและความมั่นคงของรัฐ
นอกจากนั้น อำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรศัพท์ระบบ 3 G นั้น กทช.ต้องใช้อำนาจร่วมกับกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ในรูปของคณะกรรมการร่วม ตาม มาตรา 62-63 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 จึงขอให้ศาลพิพากษา เพิกถอนหลักเกณฑ์และแนวทางการออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 G ที่ให้ถือหลักเกณฑ์ ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และให้ กทช. งดเว้นการดำเนินการใดๆ ที่เป็นการบริหารคลื่นความถี่ จนกว่าจะมีเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่วมด้วย
ทั้งนี้ ศาลปกครอง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ กทช.ผู้ถูกฟ้อง ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เมื่อพิจารณาการกระทำของ กทช.ที่ผู้ฟ้องอ้างว่า กทช.ได้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และกำหนดแนวทางในการอนุมัติใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 3 G ตามเอกสารการประชุมเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการเตรียมการของเจ้าหน้าที่เพื่ออกกฎ หรือคำสั่งทางปกครองตามอำนาจหน้าที่ของ กทช.ผู้ถูกฟ้องเท่านั้น ผู้ฟ้องจึงไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และไม่มีสิทธิฟ้องคดี ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องไว้พิจารณาพิพากษาได้ และไม่จำเป็นต้องพิจารณาคำขอคุ้มครองชั่วคราวเช่นกัน จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา นายพรชัย มีมาก พนักงาน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ยังได้ยื่นฟ้อง กทช. อีกคดีในเรื่องเดียวกันนี้ ซึ่งศาลยังไม่ได้มีคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด
