“นายกฯ อภิสิทธิ์” มั่นใจนายตำรวจใหญ่ระดับ พล.ต.ท.เอี่ยวคดีฆ่านักธุรกิจซาอุฯ ไม่เป็นอุปสรรค ยันทำตามกฎหมาย ไม่ห่วงกระทบสัมพันธ์สองประเทศ
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอศาลออกหมายจับข้าราชการ และตำรวจรวม 5 นาย คาดว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวของนายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชายซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2533 ว่า ทางดีเอสไอได้รายงานเรื่องนี้ให้ตนทราบมาระยะหนึ่งแล้ว และตนได้ยืนยันไปว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ทำตามกฎหมาย ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง รัฐบาลมีนโยบายบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจน ซึ่งดีเอสไอก็รับทราบ
เมื่อถามว่า คดีนี้มีปัญหาอุปสรรคอะไรหรือไม่ เพราะการดำเนินการใช้เวลานาน และส่งผลกระทบระหว่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื่องพยานหลักฐานในการยืนยัน สาระสำคัญของคดี เมื่อถามต่อว่า การที่คดีนี้เชื่อมโยงกับตำรวจยศ พล.ต.ท.ทำให้มีอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะตนได้เคยสอบถามทั้งดีเอสไอ และตำรวจ ว่ามีปัญหาเรื่องนี้หรือไม่ และก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร.ก็เคยร่วมทำงานในคดีนี้ด้วย
เมื่อถามว่า การที่คดีนี้เกี่ยวข้องกับนายตำรวจจำเป็นต้องให้ออกจากราชการก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็อยู่ที่ผลของการพิจารณา เพราะเราได้ให้นโยบายไปแล้วว่า ให้เดินหน้าเต็มที่ และต้องการสะสางเรื่องที่มันค้างคาอยู่ซึ่งจะหมดอายุความอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากปิดคดีนี้ได้จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคงตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลยืนยันกับประเทศซาอุดีอาระเบีย คือ เราจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเดินหน้าให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ทำความเข้าใจกับประเทศซาอุฯอยู่แล้ว