“เติ้ง” แนะทำประชามติก่อนแก้ รธน. เมินเป็นคนกลางสมานฉันท์

อดีต หน.พรรคชาติไทย แนะให้ทำประชามติก่อนแก้ไขร่าง รธน. ชี้แก้สำเร็จหรือไม่ ทั้ง 3 ฝ่ายต้องรอมชอมกัน ถ่อมตัวไม่มีบารมี ถูกเสนอให้เป็นคนกลางสมานฉันท์ ไม่ปักใจเชื่อป๋าเหนาะวางมือการเมือง เชื่ออารมณ์พาไป

วันนี้ (6 ต.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า ในเรื่องการทำประชามติมี 2 นัยคือ จะทำก่อนที่จะยื่นรัฐสภาหรือทำหลังจากที่รัฐสภารับหลักการในวาระที่หนึ่งแล้ว ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานกฤษฎีกามีความเห็นว่า เข้ารัฐสภาแล้วไปทำเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ควรที่จะต้องทำประชามติก่อนใน 6 ประเด็น

เมื่อถามว่าเมื่อมีแนวทางออกมาอย่างนี้น่าจะมีข้อตกลงที่ชัดเจน นายบรรหารกล่าวว่า มันจะต้องคุยกันในหลายพรรคการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องคุยด้วย ความสมานฉันท์จะได้เกิดขึ้นได้ เดี๋ยวฝ่ายรัฐบาลเอาแล้วฝ่ายค้านไม่เอามันจะไม่สำเร็จ ตนเชื่อว่าทุกอย่างน่าออมชอมกันได้ ถ้าเรามีเจตนามุ่งมั่นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญความจริง เรื่องนี้เราพูดกันมานานแล้ว

“แต่อย่างว่าเราไม่ยอมกัน ประเด็นที่สำคัญอย่างมาตรา 190 เรื่องสนธิสัญญาระหว่างประเทศและเรื่องเขตเดียวเบอร์เดียวก็ควรแก้ไปก่อน ถ้าทำตั้งแต่แรกก็จบไปแล้ว ต่อไปจะยุบสภาก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่งแต่ก็ไม่เอากัน มัวแต่กระทบพรรคนั้นพรรคนี้มันก็แก้ไม่สำเร็จ ต่างคนต่างความคิดเห็น แต่ก็ต้องพยายามจูนเข้าหาจุดเดียวกัน รัฐธรรมนูญมันไม่ได้แก้ง่ายๆ ไอ้คนที่ร่างมันบอกว่าเดี๋ยวมีปัญหาแล้ว ค่อยมาแก้กันแล้วความเป็นจริงมันแก้กันได้ง่ายๆที่ไหน จำไว้เป็นบทเรียนเลยนะ ก่อนจะรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องเอาให้ชัดเจนเพราะมันแก้ตอนหลังกันไม่ได้ แก้เสื้อยังดีกว่า นี่ยังไม่ได้บอกว่าแก้ผ้าด้วยนะ” นายบรรหารกล่าว

นายบรรหารกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ มาดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยว่า ไม่คิดว่า พล.อ.ชวลิต จะลงมาอีก เพราะเงียบหายไปนานแล้ว แต่ถ้าลงอีกก็ดีเพราะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง และเคยเป็นอดีตนายกฯ คงจะมีความคิดความอ่านหลายสิ่งหลายอย่างแล้ว คงจะมาประสานให้เกิดความสามัคคี สมานฉันท์กันได้มั่ง

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าจะให้นายบรรหารไปพูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต นายบรรหารกล่าวว่า ตนไม่เกี่ยว แล้ว พล.อ.ชวลิตก็เป็นแค่สมาชิกพรรค ถ้าคุยต้องเป็นหัวหน้าพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีคนเสนอให้เป็นคนกลางจะรับหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ใครจะเสนอตนหล่ะ มันไม่มีหรอก ตนไม่ค่อยมีบารมีตอนนี้ แต่ถ้าเสนอมาตนก็จะไป แต่ถ้าผู้สื่อข่าวถามให้ถามดีๆ หน่อยเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าตนกระสันว่าอยากไปเป็นผู้ประสานงาน ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีก็เข้าเนื้อ

เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิต กลับเข้าสู่การเมืองจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ตอบไม่ได้ต้องรอดูด้วยกันว่า ในอดีต พล.อ.ชวลิต ทำงานอย่างไรบ้าง เมื่อถามต่อว่ามองอย่างไรที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช จะวางมือทางการเมือง นายบรรหารหัวเราะ และกล่าวว่าไม่มีความเห็น ไม่มีการปรึกษากัน หากนายเสนาะกระทบอะไรก็พูดออกมา ไปถามนายเสนาะดีกว่า เพราะไม่พบกันนานแล้ว