“เทพไท” เชื่อ “เทือก” ไม่คิดทิ้งเก้าอี้เลขาฯ พรรค

“โฆษกมาร์ค” โต้โฆษกเพื่อไทยมั่วนิ่มป้ายสี ปชป.แตกก๊ก การันตี “เทพเทือก” ไม่ทิ้งเก้าอี้เลขาธิการพรรคแน่ มั่นใจไม่มี ส.ส.ใต้คิดย้ายสังกัดพรรค ไม่เชื่อลมปาก “แม้ว” อโหสิกรรมผ่านทวิตเตอร์ จวกเป็ดเหลิมชักศึกเข้าบ้านส่งคลิปให้ฮุนเซน เย้ยเลิกตีบทสองหน้าเทิดทูน “บิ๊กจิ๋ว” ทั้งที่เคยจาบจ้วงคุณหญิงพันธ์เครือ ตู้ทองเคลื่อนที่

วันนี้ (5 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าพรรคประชิปัตย์แบ่งเป็น 4 ก๊ก ว่า เป็นการสร้างข่าวโดยปราศจากข้อเท็จจริง ซึ่งโฆษกพรรคเพื่อไทยไม่รู้สภาพความเป็นจริงของพรรคประชาธิปัตย์ คงเข้าใจว่าเป็นเหมือนพรรคที่ตัวเองสังกัดอยู่ ที่มีการแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ซึ่งวันนี้ต้องหาคนมาเป็นหัวหน้าพรรคให้ได้ จนสุดท้ายจบลงที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จนเป็นเหตุให้นายเสนาะ เทียนทอง เกิดอาการน้อยใจและประกาศยุติบทบาทททางการเมืองใช่หรือไม่

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงจะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอ้างว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งอาถรรพณ์นั้น นายเทพไทกล่าวว่า เชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทยรู้จัก นายสุเทพน้อยเกินไป เพราะนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ มีความผูกพันจนแยกกันไม่ออก ถ้าตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นตำแหน่งที่มีอาถรรพ์ตามที่ถูกกล่าวหา ตนเชื่อว่านายสุเทพจะเป็นผู้ล้างอาถรรพ์ให้วงการการเมือง และนายสุเทพจะนั่งมรตำแหน่งเลขาธิการพรรคจนกว่าจะเลิกเล่นทางการเมือง และไม่มีวันที่จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นอย่างเด็ดขาด

“ขอยืนยันในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการพรรคและทำงานใกล้ชิดกับนายสุเทพ ผมเชื่อว่าทุกลมหายใจของนายสุเทพ คือ การทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และฝ่าฟันอุปสรรคจนมาเป็นรัฐบาลได้จนทุกวันนี้ ฉะนั้นจะมายุแยงให้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการถือว่าเป็นไปไม่ได้” นายเทพไทกล่าว

ส่วนกรณีที่ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาปล่อยข่าวว่าจะมี ส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย นำโดยนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตนเห็นว่านายประชาเคยออกมาให้ข่าวในลักษณะเช่นนี้หลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นเป็นความจริงสักครั้งเดียว จากการตรวจสอบขณะน้ยังไม่มีเบาะแสหรือท่าทีใดๆ ของ ส.ส.แม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะ ส.ส.ภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนของ ส.ส.ภาคใต้คนหนึ่งที่ได้รับคะแนนเลือกสูงสุดในประเทศ แต่พอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วไปสังกัดพรรคไทยรักไทยปรากฏว่าที่เคยได้คะแนนสูงสุด เหลือไม่ถึงหมื่นคะแนน นี่ถือว่าเป็นตัวอย่างบทเรียนของนัการเมืองภาคใต้

นายเทพไทกล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี ส.ส.ภาคใต้ของพรรค จะย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเชื่อมั่นในตัวสมาชิกพรรคทุกคนว่า มีความมีความมุ่งมั่นอยู่กับพรรค เพราะมีอุดมการณ์เดียว ซึ่งการที่จะมาเป็น ส.ส.ของพรรคได้ ต้องฝ่าฝันอุปสรรคอำนาจเงิน และความยากลำบากมาพอสมควร จนจึงเชื่อว่าไม่มีใครคิดสั้นทางการเมือง เพราะฉะนั้น ข้อมูลทั้งหมดที่นายประชาออกมาพูดนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความระแวงให้เกิดขึ้น ในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนเชื่อว่าเป็นการสูญเปล่า กับการออกมาให้ข่าวแบบนี้ เพราะทุกคนในประชาธิปัตย์ยังมีความเชื่อมั่นในตัวสมาชิกทุกคน

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาทวิสเตอร์รายวันเพื่อชิงพื้นที่สื่อว่า สิ่งที่น่าสนใจคือการทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดว่าขอฝากบอกคนที่เคยคิดและทำลายผมว่าผมขออโหสิกรรมและไม่จองเวรกับใคร ตนคิดว่าคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สื่อออกมาก็อยากถามว่าเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด เพราะหลายครั้งที่ออกมาพูดถือว่าเป็นคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ พูดแล้วก็ไม่ทำตามที่พูด แม้กระทั่งถึงการประกาศยุติบทบาททางการเมือง แต่ในวันที่ตัวเองเสียเปรียบทางการเมือง หรือถูกกดดันหนักๆก็จะประกาศว่าตัวเองจะยุติบทบาททางการเมือง แต่ขณะนี้กลับมาประกาศอีกว่า ถ้ามีการเลือกพรรคเพื่อไทยเกินครึ่งและจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ภายใน 6 เดือน จึงอยากถามว่าคำว่าอโหสิกรรมและไม่จองเวรต่อใคร มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียง และคิดว่าสังคมไทย ไม่เชื่อคำพูดของโมฆะบุรุษอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.ลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาประกาศว่า เป็นคนส่งเทปนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ไปยังสมเด็จฮุนเซนโดยผ่านลูกสาวนั้น นายเทพไทกล่าวว่า พฤติกรรมเช่นนี้รับการวิพากวิจารณ์จากสังคมไทย แต่ตนขอชื่นชม ร.ต.อ.เฉลิม กล้ายอมรับความจริงว่าเป็นผู้ส่งเทป แต่ตนอยากเตือนสติว่า การส่งเทปไปยังสมเด็จฯ ฮุนเซนเป็นความต้องการ ที่จะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ร.ต.อ.เฉลิมต้องการ

“ทั้งนี้ เราได้ตรวจสอบไปยังคนใกล้ชิดของสมเด็จฯ ฮุนเซนแล้ว จึงทราบว่าผลการกระทำของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่มีผลต่อความรู้สึกของสมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะสมเด็จฮุนเซนเข้าใจดีว่าบริบทของนายกษิต ก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหลังเข้ารับตำแหน่งมีความแตกต่างกัน และเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของนายกษิต ก่อนรับตำแหน่งทางการเมืองเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศไทย เช่นดียวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการมืองของแต่ละประเทศ” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม ตระหนักถึงพฤติกรรมที่ทำไปเป็นการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน และควรที่ยึดครั้งนี้เป็นบทเรียนว่าไม่ควรมีพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะหาก ร.ต.อ.เฉลิม ยังเล่นการเมืองแบบนี้สักวัน หากมีคนเอาเทปการสัมภาษณ์ขณะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงถึงคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา พล.อ.ชวลิต ว่าเป็นตู้ทองเคลื่อนที่และนำไปมอบให้ พล.อ.ชวลิต ที่กำลังเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิมจะคิดอย่างไร หรือลืมตัวว่าเคยจาบจ้วงภริยา พล.อ.ชวลิตมาแล้ว ซึ่งมาวันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับชื่นชมเชิดชู พล.อ.ชวลิตเยี่ยงวีรบุรุษ ถือเป็นเรื่องที่น่าจะละอายแก่ใจบ้าง