ประธานกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา อัดรัฐบาลละเลยระบบขนส่งทางราง ทำของเก่าทรุดโทรมจนเกิดเหตุร้ายแรงกว่าปกติ ชี้ควรให้ความสำคัญ หวังช่วยประหยัดพลังงาน เป็นทางเลือกให้ประชาชน ชี้ใช้งบไทยเข้มแข็งกว่า 5 พันล้าน ก่อสร้างทางรถไฟสายบางปะอิน-โคราช ไม่คุ้มค่า
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายจารึก อนุพงษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีขบวนรถไฟตกรางที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากว่า เรื่องนี้รัฐบาลดำเนินการช้าไป ทั้งที่ปรับปรุงประสิทธิภาพของรางได้ก่อนหน้านี้ อาทิ ต้องเปลี่ยนขนาดร่างให้ใหญ่ขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพรางเดิมที่เก่า และมีสภาพร้าวจำนวนมาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจึงร้ายแรงมากกว่าปกติ
นายจารึกกล่าวอีกว่า จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลให้หันมาเห็นความสำคัญและหันสนใจการขนส่งทางรางและทางน้ำให้มากขึ้น เพราะจะช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นทางเลือกให้กับประชาชนอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ พบว่ามีการใช้งบประมาณของโครงการไทยเข้มแข็ง2 เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายอ.บางปะอินไปยังจังหวัดนครราชสีมา มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ทั้งที่สามารถใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ หากเลือกดำเนินการในเส้นทางเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วคือมาบกระเบา จ.สระบุรี ถึงนครราชสีมา ที่จะใช้งบประมาณเพียงแค่ 40,000 ล้านบาท แต่จะได้รถไฟรางคู่ที่จะเป็นการต่อยอดเส้นทางเดิมสามารถขนส่งสินค้าได้จำนวนมากอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายจารึก อนุพงษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีขบวนรถไฟตกรางที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากว่า เรื่องนี้รัฐบาลดำเนินการช้าไป ทั้งที่ปรับปรุงประสิทธิภาพของรางได้ก่อนหน้านี้ อาทิ ต้องเปลี่ยนขนาดร่างให้ใหญ่ขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพรางเดิมที่เก่า และมีสภาพร้าวจำนวนมาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจึงร้ายแรงมากกว่าปกติ
นายจารึกกล่าวอีกว่า จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลให้หันมาเห็นความสำคัญและหันสนใจการขนส่งทางรางและทางน้ำให้มากขึ้น เพราะจะช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นทางเลือกให้กับประชาชนอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ พบว่ามีการใช้งบประมาณของโครงการไทยเข้มแข็ง2 เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายอ.บางปะอินไปยังจังหวัดนครราชสีมา มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ทั้งที่สามารถใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ หากเลือกดำเนินการในเส้นทางเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วคือมาบกระเบา จ.สระบุรี ถึงนครราชสีมา ที่จะใช้งบประมาณเพียงแค่ 40,000 ล้านบาท แต่จะได้รถไฟรางคู่ที่จะเป็นการต่อยอดเส้นทางเดิมสามารถขนส่งสินค้าได้จำนวนมากอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ